ปลัดกระทรวงแรงงานห่วงนักศึกษาที่หวังไปเรียน ฝึกภาษาพร้อมหาประสบการณ์การทำงานจะถูกหลอก เนื่องจากพอไปจริงกลับไม่ได้ทำงานตามที่ตกลง กลับต้องทำงานประเภท “กวาด ล้าง เช็ด ถู” ภาษาก็ไม่ได้ ขณะที่ธุรกิจประเภท Work And Travel โตวันโตคืน
นายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ธุรกิจประเภทกึ่งทัวร์ กึ่งการศึกษา กึ่งการทำงานที่เรียกกันว่า Work and Travel (WAT) ที่เป็นที่นิยมของนักเรียน นักศึกษา กำลังประสบปัญหา เพราะส่วนหนึ่งเมื่อไปถึงประเทศปลายทางแล้วกลับไม่ได้ทำงานตามที่วาดหวังไว้ ลักษณะงานที่ต้องทำกลับเป็นงานที่ต่ำกว่าระดับที่ควรจะเป็น อาทิ ตกลงกันว่าจะไปทำงานประเภทพนักงานร้านอาหารแต่พอไปจริงกลับไปเป็นพนักงานทำความสะอาดในโรงแรม ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ได้ปรากฏเป็นข่าวและไม่เป็นข่าวอยู่เนืองๆ
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า กระทรวงแรงงานห่วงใยต่อเรื่องนี้มาโดยตลอด แม้ว่าขณะนี้กฎหมายในส่วนของการจัดหางานอาจจะเข้าไปดูแลตรงๆ ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้เพิกเฉย ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้กรมการจัดหางาน ไปเจรจากับกรมการกงศุล กระทรวงการต่างประเทศ ว่าทำอย่างไรจึงจะสกัดกั้นปัญหานี้ได้ โดยแนวทางหนึ่งก็คือ ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเฉพาะภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ ต้องหาจุดที่ชัดเจนในเชิงนโยบาย แล้วเสนอผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ปัญหาถูกแก้ไขอย่างเป็นระบบ
“ขอเตือนนักเรียน นักศึกษา ตลอดจนผู้ปกครองได้โปรดใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบในการที่จะจ่ายเงินจำนวนมากกว่าแสนบาทเพื่อให้บุตร-หลานเข้าร่วมในโครงการประเภทนี้ มีข้อแนะนำว่า ในเบื้องต้นขอให้ตรวจสอบหรือขอคำแนะนำที่กองตรวจและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน หมายเลข โทรศัพท์ 0-2248-4792, 0-2248-7291, 0-2245-6763 ขณะเดียวกัน ขอให้มหาวิทยาลัยของไทยได้แนะนำนักศึกษาให้ศึกษารายละเอียดอย่างถี่ถ้วน และอย่าได้คาดหวังในเชิงรายได้แต่ประการเดียว” นายจุฑาธวัช กล่าว และว่าการไปทำงานในลักษณะของโครงการทำงานและท่องเที่ยวช่วงปิดภาคฤดูร้อน รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะออกวีซ่า J-1 ที่เป็นวีซ่าเฉพาะสำหรับการศึกษาแลกเปลี่ยน โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะทำงานตามสัญญาการจ้างงานระยะสั้นและท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 1 เดือน
นายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ธุรกิจประเภทกึ่งทัวร์ กึ่งการศึกษา กึ่งการทำงานที่เรียกกันว่า Work and Travel (WAT) ที่เป็นที่นิยมของนักเรียน นักศึกษา กำลังประสบปัญหา เพราะส่วนหนึ่งเมื่อไปถึงประเทศปลายทางแล้วกลับไม่ได้ทำงานตามที่วาดหวังไว้ ลักษณะงานที่ต้องทำกลับเป็นงานที่ต่ำกว่าระดับที่ควรจะเป็น อาทิ ตกลงกันว่าจะไปทำงานประเภทพนักงานร้านอาหารแต่พอไปจริงกลับไปเป็นพนักงานทำความสะอาดในโรงแรม ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ได้ปรากฏเป็นข่าวและไม่เป็นข่าวอยู่เนืองๆ
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า กระทรวงแรงงานห่วงใยต่อเรื่องนี้มาโดยตลอด แม้ว่าขณะนี้กฎหมายในส่วนของการจัดหางานอาจจะเข้าไปดูแลตรงๆ ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้เพิกเฉย ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้กรมการจัดหางาน ไปเจรจากับกรมการกงศุล กระทรวงการต่างประเทศ ว่าทำอย่างไรจึงจะสกัดกั้นปัญหานี้ได้ โดยแนวทางหนึ่งก็คือ ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเฉพาะภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ ต้องหาจุดที่ชัดเจนในเชิงนโยบาย แล้วเสนอผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ปัญหาถูกแก้ไขอย่างเป็นระบบ
“ขอเตือนนักเรียน นักศึกษา ตลอดจนผู้ปกครองได้โปรดใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบในการที่จะจ่ายเงินจำนวนมากกว่าแสนบาทเพื่อให้บุตร-หลานเข้าร่วมในโครงการประเภทนี้ มีข้อแนะนำว่า ในเบื้องต้นขอให้ตรวจสอบหรือขอคำแนะนำที่กองตรวจและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน หมายเลข โทรศัพท์ 0-2248-4792, 0-2248-7291, 0-2245-6763 ขณะเดียวกัน ขอให้มหาวิทยาลัยของไทยได้แนะนำนักศึกษาให้ศึกษารายละเอียดอย่างถี่ถ้วน และอย่าได้คาดหวังในเชิงรายได้แต่ประการเดียว” นายจุฑาธวัช กล่าว และว่าการไปทำงานในลักษณะของโครงการทำงานและท่องเที่ยวช่วงปิดภาคฤดูร้อน รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะออกวีซ่า J-1 ที่เป็นวีซ่าเฉพาะสำหรับการศึกษาแลกเปลี่ยน โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะทำงานตามสัญญาการจ้างงานระยะสั้นและท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 1 เดือน