พระเทพฯ ถวายภัตตาหารเช้า ในการสวดพระอภิธรรม “พระพี่นางฯ”

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ ในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สำหรับบรรยากาศที่ศาลาสหทัยสมาคม มีประชาชนสวมเสื้อดำไว้ทุกข์เดินทางมาถวายสักการะพระศพและน้อมเกล้าฯ ถวายความอาลัยเป็นจำนวนมาก

วันนี้ (3 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สำนักพระราชวัง ได้ออกประกาศให้ประชาชนทราบถึงการเปิดให้ถวายสักการะพระศพและลงนามถวายความอาลัย แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวานนี้นั้น

โดยสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนสักการะพระศพและถวายความอาลัยได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 9 มกราคม เวลา 09.00-17.00 น.ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง ซึ่งในขณะนี้ ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง ได้มีประชาชนที่พร้อมใจสวมชุดดำไว้ทุกข์ เดินทางมารอถวายสักการะและลงนามถวายความอาลัย แต่เช้ามืดของวันนี้กว่า 100 รายแล้ว ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อเวลา 08.10 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ 8 รูป ที่สวดอภิธรรมในการพิธีพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ

จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 08.35 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินกลับยังวังสระปทุม

นอกจากที่สำนักพระราชวังจะเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระศพและลงนามถวายความอาลัยในช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว ในวันที่ 10 มกราคมนี้ จะเปิดโอกาสให้ประชาชน เข้าไปถวายสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.อีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีคณะนักเรียนจากโรงเรียนวัดบางโป่งดำรงมิตร ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาส อยู่ที่อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 55 คน ได้เดินทางโดยรถบัส เพื่อมาถวายสักการะและลงนามถวายความอาลัย โดยนางศรีนวล เกตุเมฆ ผู้เป็นอาจารย์ กล่าวว่าได้นำนักเรียนชั้น ม.ต้น จำนวน 55 คน มาถวายสักการะ โดยได้เดินทางออกจากจังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งแต่เวลา 21.00 น.มาถึง กทม.ประมาณตี 5 และได้มีโอกาสรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ด้วย

“รู้สึกสำนักในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และเสียใจที่พระองค์สิ้นพระชนม์ ถึงแม้วันนี้จะไม่มีโอกาเข้าเฝ้าพระองค์แล้ว แต่ก็ตั้งใจมากราบท่านเป็นโอกาสสุดท้าย เพื่อแสดงความจงรักภักดี” นางศรีนวล กล่าว

น.ท.(หญิง) สอางศรี คำดี นายทหารประจำกรมกิจการทหารเรือกล่าวว่า ติดตามพระอาการตั้งแต่เริ่มประชวร ตั้งแต่ทราบข่าวรู้สึกตกใจและเสียใจมาก เพราะท่านได้บำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณูปการต่อแผ่นดินอย่างมหาศาล นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย เพราะพระองค์ทรงเป็นที่พึ่งของประชาชนรองจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

“รู้สึกอาลัยต่อการจากไปของพระองค์เป็นอย่างมาก ข้าราชการในกำกับทุกคนจะแต่งกายด้วยเครื่องแบบไว้ทุกข์ 15 วัน ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 16 มกราคม”

ด้าน จ.ส.อ.มานิตย์ ยิ้มพันธุ์ จากมณฑลทหารบกที่ 11 เขตดุสิต กรุงเทพฯ ที่มาพร้อมคณะนายทหารอีก 60 นาย เปิดเผยว่า ติดตามพระอาการมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากการจากไปของพระองค์ ข้าราชการทุกคนคิดถึงพระองค์ท่าน เสียใจและเสียดายต่อการจากไปที่เร็วมากเช่นนี้ พระราชภารกิจของพระองค์ท่านทรงช่วยเหลือประชาชนอย่างมากมายตั้งแต่เด็กเล็กจนผู้สูงอายุ พระองค์ท่านคิดถึงและรักประชาชนอย่างที่สุด

นายพงษ์พิพัฒน์ เจตนากุล นักเรียนทุน 72 พรรษานวมินทร์มหาราช คณะศิลปศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวว่า ติดตามพระอาการตั้งแต่เสด็จเข้ารับการถวายการรักษาในโรงพยาบาลศิริราช ตกใจเมื่อทราบข่าวการจากไป เพราะเป็นช่วงหลังเทศกาลปีใหม่ ทำให้ประชาชนไม่ทันได้ตั้งตัว กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยส่วนตัวจะไว้ทุกข์ถวายพระองค์ด้วยการใส่ชุดดำและงดงานรื่นเริง 15 วัน