เมื่อไม่นานมานี้ โครงการ Young CDG Writer Awards ครั้งที่ 2 ได้จัดให้มีการประกวดเรียงความในหัวข้อ “ในหลวงของฉัน” และ “พอเพียง เพื่อพ่อ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนตระหนักและเห็นความสำคัญของการใช้ภาษาไทย และเพื่อร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรไทยทั้งประเทศ โดยแบ่งเป็น 2 หัวข้อ ได้แก่ “ในหลวงของฉัน” สำหรับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และ “พอเพียง เพื่อพ่อ” สำหรับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เราลองมาทราบถึงแรงบันดาลใจของ 4 นักเขียนรุ่นเยาว์ที่ฝ่าด่านการประกวดและได้รับรางวัลการประกวดเรียงความในครั้งนี้กัน
-1-
...ถ้ามีคนถามข้าพเจ้าว่า “เมื่อนึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วนึกถึงอะไรในตัวพระองค์ท่าน” สิ่งที่ข้าพเจ้านึกถึงสิ่งแรกคือ “ข้าพเจ้านึกถึงภาพในหลวงกับหยดเหงื่อ” ข้าพเจ้ารู้สึกประทับใจและซาบซึ้งต่อการทรงงานของท่าน พระองค์ทรงงานหนักอย่างมิได้รู้สึกแก่ความเหน็ดเหนื่อย เพราะเวลาพระองค์ทรงงานจะทรงจริงจัง ทรงมีความปราณีต สุขุม รอบคอบ...
บางส่วนของเรียงความที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในประเภทม.ต้นโดย นลินนิภา สัตยมุข ชั้นม.1 จาก ร.ร.พระกุมารร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด ที่บอกเล่าผ่านตัวอักษรออกมาอย่างได้อรรถรส โดยได้แรงบันดาลใจมาจากการที่ได้มองเห็นพระองค์ทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
“ส่วนหนึ่งของพระราชดำรัสในหลวงที่นำมาใช้อยู่กับชีวิตประจำวันตอนนี้คือ แนวเศรษฐกิจพอเพียง เกี่ยวกับด้านการศึกษา เพราะเมื่อเรายังเด็กหากมีโอกาสทางการศึกษาก็ให้ศึกษาเล่าเรียนอย่างเต็มที่ ขยัน ตั้งใจเรียน มีความมุมานะ เพื่อชีวิตการงานที่ดีในอนาคต อีกทั้งยังเก็บออมเงินที่ได้รับจากผู้ปกครองเพื่อที่หากเราต้องการอยากได้อะไรก็สามารถซื้อได้จากเงินเก็บของเราเอง” นลินนิภาอธิบาย
-2-
...ในเรื่องประสบการณ์ต่อครอบครัว คุณยายของกระผม คือ คุณหญิงกานดา ฐิตะฐาน ได้ถวายงานใช้อยู่ที่ห้องเครื่องในวังหลวง ได้เล่าให้ฟังว่า เวลาจัดสำรับถวายในหลวงอาจารย์ของคุณยาย คือ ท่านผู้หญิงประไพ ได้บอกว่า “อย่าจัดใส่จานใหญ่ เพราะบนโต๊ะเสวย จะไม่ค่อยมีที่ว่าง บนโต๊ะเสวยจะมีแต่แผนที่วางเต็ม” แสดงให้เห็นว่า แม้เวลาเสวย พระองค์ก็ยังทรงงาน ทรงคิดถึงแต่ประชาชนและประเทศชาติ ผมจึงคิดว่า พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่สมควรเป็นแบบอย่างในการทำงานและดำรงชีวิต....
บางส่วนจากเรียงความผลงานของ เทพ สุวรรณเทน ชั้นม.1 จาก ร.ร.จิตรลดา กรุงเทพฯ ซึ่งได้รางวัลรองชนะเลิศ ระดับม.ต้น เทพเล่าถึงแรงบันดาลใจในการเขียนไว้ว่า ส่วนหนึ่งมาจากการที่ได้มีโอกาสมาศึกษาที่ ร.ร.จิตรลดา ซึ่งเป็นโรงเรียนของในหลวง ทำให้มีความภาคภูมิใจและซาบซึ้งที่ได้มาเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ อีกทั้งคุณยายก็ทำงานอยู่ที่ห้องเครื่องในวัง ได้ถวายงานรับใช้พระองค์ท่านอย่างใกล้ชิดภายในวัง และจากคำบอกเล่าของยายนี้เอง ที่ทำให้ตนเองได้ทราบถึงพระราชจริยวัตรของในหลวงที่น่ายกย่องหลายประการ ทำให้สามารถนำความรู้สึกดีๆ ที่ได้รับรู้มาเขียนบรรยายเป็นเรียงความชิ้นนี้ได้
“การที่ในหลวงทรงงานอย่างหนักก็เพื่อประชาชนชาวไทยทุกคน พวกเราจึงควรนำความพากเพียร มานะ อุตสาหะ ที่พระองค์ท่านทรงทำ มาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวันของเราเองได้ เพราะหากเรามีสิ่งเหล่านี้ใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการดำรงชีวิต จะทำให้ชีวิตของเราประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน และสิ่งหนึ่งที่พวกเราจะสามารถทำเพื่อเป็นการตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ได้ดีที่สุดคือ การช่วยกันทำความดีเพื่อถวายพระองค์ท่าน และเพื่อสังคมเราจะได้น่าอยู่มากขึ้น” เทพ กล่าวด้วยความภูมิใจ
-3-
...“พอเพียงเพื่อพ่อ” เป็นนิยามที่น่าฟัง และไพเราะมีความหมายในตัวเอง เพราะความพอเพียง คือความพอประมาณ นั่นคือการกิน การอยู่ แบบพอประมาณ มีการเผื่อแผ่ให้ผู้อื่นในกรณีที่เรามีส่วนเกินมากๆ โดยบริจาค เป็นต้น พ่อสอนฉันว่า คนเราหากรู้จักคำว่าพอ ปัญหาต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้นเช่น ปัญหาโจรผู้ร้าย ปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาด้านการเมือง ถ้าทุกคนมีจิตสำนึกในการอยู่ร่วมกันแบบพี่น้อง ฉันจึงตั้งใจแน่วแน่ว่า ฉันจะประพฤติตนตามรอยเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คือ “ใช้ชีวิตแบบพอเพียง”....
ความรู้สึกผ่านเรียงความที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับชั้นม.ปลาย ผลงานของ สุภัฐชา รังษีโย ชั้นม.6 จาก ร.ร.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สุภัฐชาบอกว่า สิ่งหนึ่งสิ่งเดียวที่อยู่ในหัวใจของคนไทยทั้งประเทศและเชื่อว่าต้องมีความรู้สึกที่เหมือนกันนั่นคือ เรารักในหลวง จึงหยิบความรู้สึกเหล่านั้นมาถ่ายทอดร้อยเรียงเป็นตัวอักษรเพื่อถวายแด่ในหลวง
“การน้อมนำเอาแนวทางการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ที่ในหลวงทรงประทานไว้แก่ประชาชนนั้น จะทำให้เรารู้จักการประหยัด อดออม การรู้จักใช้เงินในชีวิตประจำวัน และจากพระราชจริยวัตรของพระองค์ท่านทำให้เราทราบว่าถึงแม้พระองค์จะทรงเป็นพระมหากษัตริย์แต่ก็ทรงใช้ชีวิตอย่างประหยัดเรียบง่าย ซึ่งต่างกับคนเราในปัจจุบันที่ใช้จ่ายเงินอย่างไม่รู้ตัวเอง ทำให้เป็นหนี้ ตรงส่วนนี้เราสามารถน้อมนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างดีที่สุด” สุภัฐชา ฝากข้อคิด
-4-
...กว่า 80 ปีมาแล้ว ที่ในหลวงทรงปกครองแผ่นดินด้วยธรรม เพื่อรอยยิ้มของประชาชนชาวไทยทุกคน พวกเราต่างรู้ดีว่าพระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยพระวรกายที่ตรากตรำทรงงานอย่างหนัก หากแต่ไม่มีใครหยั่งรู้ถึงพระราชหฤทัยของพระองค์ได้ว่าจะทรงเหน็ดเหนื่อยมากเท่าไรกับปัญหายิ่งใหญ่มากมายของประเทศ พระองค์ทรงงานมาทั้งชีวิต ทรงอ่านฎีกาทุกฉบับด้วยพระเนตรและแก้ไขปัญหาด้วยความถูกต้องเมตตาแก่ปวงชน “ทั้งหมดนี้พระองค์ท่านทรงทำเพื่อใคร ถ้าไม่ใช่เพื่อประชาชนของพระองค์คือพวกเราชาวไทยที่พระองค์ทรงเมตตา”....
อีกหนึ่งเรื่องราวผ่านเรียงความของ กัญญา ธนารักษ์พงศ์ ชั้นม.5 จากร.ร.ราชีนี กรุงเทพฯ กับรางวัลรองชนะเลิศ ระดับม.ปลาย ซึ่งเธอบอกว่าสิ่งที่เขียนนั้นออกมาจากความรู้สึกที่รักและเทิดทูนในหลวงของปวงชนชาวไทย
“มีหลายแนวทางที่เมื่อเราได้ศึกษาทำให้พบว่าเป็นปรัชญาที่เรานำมาใช้ได้จริงๆ เช่นด้านการเรียน เพราะความพอเพียงก็ไม่ได้หมายถึงเรื่องเงินอย่างเดียว เราสามารถนำมาใช้ในการเรียนได้คือ รู้จักแบ่งเวลาเรียนกับการทำงานให้เป็นสัดส่วน ไม่เน้นเรียนหนักจนเกินไปแต่ก็ไม่ลืมที่จะผ่อนคลายบ้างในบางเวลา และให้เราพอใจในผลการเรียนที่เราได้รับหากเราตั้งใจทำอย่างเต็มที่แล้ว” กัญญาสรุป