xs
xsm
sm
md
lg

ปีใหม่นี้...ท่องเที่ยวอย่างไร ไม่ให้ทรัพยากรธรรมชาติบอบช้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เวลานี้หลายคนคงเริ่มนับถอยหลัง รอคอยวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศกำลังจะเริ่มคึกคักขึ้นอีกครั้ง แต่ในช่วงปลายปีอย่างนี้สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมคงหนีไม่พ้นอุทยานแห่งชาติต่างๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องการมาสัมผัสบรรยากาศอันหนาวเย็น และธรรมชาติที่สวยงาม

ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการส่วนศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากสถิติของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในเทศกาลปีใหม่ในปีที่ผ่านมา (ธ.ค.49-ม.ค.50) ปรากฏว่า มีประชาชนมาท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติต่างๆ เรียงตามลำดับดังนี้

อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ (624,465 คน) อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ (321,211 คน) อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครนายก (319,392 คน) อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย จังหวัดสระบุรี (261,946 คน) อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ จังหวัดเชียงใหม่ (119,032 คน) อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่ (102,044 คน) อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (79,600 คน) อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ (79,354 คน) อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี (77,420 คน) และอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี (73,062 คน)

อย่างไรก็ตาม อุทยานแห่งชาติแต่ละแห่งนั้น มีขีดจำกัดในการรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งด้านที่พัก และสิ่งอำนวยความสะดวก หากนักท่องเที่ยวมีปริมาณมากเกินไป หรือขาดจิตสำนึกที่ดีในการดูแลธรรมชาติ ผลกระทบที่เกิดตามมา คือ ทรัพยากรธรรมชาติอาจถูกทำลายจนเกิดความเสียหายและอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพสวยงามตามธรรมชาติดังเดิม

“ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2551 ที่จะมาถึงนี้ จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการในอุทยานแห่งชาติทั้งทางบกและทางทะเลเป็นจำนวนมาก จึงอยากขอความร่วมมือจากผู้ที่จะมาท่องเที่ยวใช้บริการในอุทยานแห่งชาติทั้งทางบกและทางทะเล ให้มีความระมัดระวัง และถนอมในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เพราะหลังจากฤดูท่องเที่ยวผ่านพ้นไปแล้ว เราต้องใช้เวลาพักฟื้นฟูทั้งป่าไม้ สัตว์ป่า นานกว่า 3 เดือนเป็นอย่างน้อยกว่าจะคืนสู่สภาพปกติ โดยเฉพาะปะการังใช้เวลาหลายปีจึงจะฟื้นตัว” ดร.ทรงธรรม กล่าว

ด้วยเหตุนี้ ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงมีการวางมาตรการเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนใช้พื้นที่ในอุทยานแห่งชาติด้วยความระมัดระวัง ทั้งอุทยานแห่งชาติทางบกและอุทยานแห่งชาติทางทะเล เพื่อลดผลกระทบในด้านต่างๆ
ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการส่วนศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
“สำหรับผู้ที่จะไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติทางบก เราอยากขอความร่วมมือทุกท่านช่วยลดผลกระทบด้านนิเวศและด้านสังคม ด้วยการไม่นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาในเขตอุทยาน เพื่อป้องกันไม่ให้มึนเมา และส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น หากนำรถส่วนตัวมา ให้ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถ เพื่อป้องกันการเกิดเสียงดัง และลดมลภาวะทางอากาศ ลดการนำขยะเข้ามาสู่แหล่งท่องเที่ยวโดยเฉพาะกล่องโฟมต่างๆ รณรงค์เกี่ยวกับการนำขยะกลับออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ เป็นต้น”

“ในส่วนของอุทยานแห่งชาติจะเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกให้เพียงพอกับจำนวนนัก ท่องเที่ยว ซึ่งทุกท่านต้องช่วยกันดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เพื่อผู้ที่จะมาเข้าใช้บริการต่อไป จะได้สามารถใช้บริการได้เหมือนเดิม นอกจากนี้ ทางอุทยานแห่งชาติยังมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบและมีการติดต่อแจ้งล่วงหน้าก่อนมา เพื่อไม่ให้เกิดการแออัดในแหล่งเดียวและช่วงเวลาเดียวกันมากเกินไป หรือจัดกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจเสริมขึ้นมา เพื่อเพิ่มทางเลือกให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมในวันธรรมดา” ดร.ทรงธรรม แจงมาตรการเพื่อลดผลกระทบด้านต่างๆ

ในส่วนของอุทยานแห่งชาติทางทะเล ก็มีมาตรการขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยว เพื่อลดผลกระทบต่อการใช้พื้นที่เช่นเดียวกัน โดยแบ่งเป็นผลกระทบด้านนิเวศ ได้แก่ ด้านขยะ ด้วยการลดจำนวนนักท่องเที่ยวที่พักค้างบนเกาะ รณรงค์ให้ท่องเที่ยวแบบไป-กลับ ลดการนำขยะเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยว และนำขยะกลับคืนสู่ฝั่ง ปรับปรุงขยะเปียกให้เป็นปุ๋ย เข้มงวดมาตรการด้านกฎหมาย เช่น ห้ามนำภาชนะที่เป็นโฟมเข้าเขตอุทยานแห่งชาติ หรือกำหนดระเบียบปฏิบัติให้นักท่องเที่ยวลงนามรับทราบระเบียบ ฯลฯ

“ยังมีสิ่งสำคัญที่ควรปฏิบัติเพื่อลดผลกระทบด้านระบบนิเวศอีก คือ เรื่องของคุณภาพน้ำ คราบน้ำมันบริเวณท่าเรือ และแหล่งท่องเที่ยว ที่ต้องจัดโซนจอดเรือ และจุดเรือเข้าออกอย่างชัดเจน โดยขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ในส่วนของปะการัง และสัตว์ในแนวปะการัง มีการจัดทำแผนที่แหล่งปะการังให้ชัดเจน ศึกษาวิจัยผลกระทบ และสาเหตุที่ทำให้ปะการังเสื่อมโทรม กำหนดหลักการท่องเที่ยวใต้ทะเล เพื่อป้องกันไม่ให้นักดำน้ำสามารถยืนบนแนวปะการัง กำหนดพื้นที่การใช้ประโยชน์ในแนวปะการัง ไม่ลักลอบจับปลาสวยงามในแนวปะการัง ถ้าแหล่งท่องเที่ยวใดมีคนมาเที่ยวจนแออัด อุทยานแห่งชาติจะแนะนำแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่เพื่อเป็นการกระจายนักท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นที่ยังมีคนน้อย”

นอกจากนี้ ดร.ทรงธรรม ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งอำนวยความสะดวกอีกว่า อุทยานแห่งชาติจะจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดการขยะ ทุ่นจอดเรือ แพลอยน้ำ ให้เพียงพอต่อปริมาณนักท่องเที่ยว รวมถึงทำการบำรุงรักษาให้มีคุณภาพสามารถใช้การได้ดี ส่วนในอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่มีที่พักของเอกชนบนเกาะ จะขอความร่วมมือในการควบคุมจำนวนห้องพักไม่ให้ขยายจำนวนไปมากกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อเป็นการจำกัดขีดความสามารถในการรองรับ

เมื่อธรรมชาติ ได้มอบสิ่งสวยงามไว้ให้เราได้ตักตวงความสุขกันแล้ว การตอบแทนด้วยการอนุรักษ์ดูแลสิ่งเหล่านี้ให้คงสภาพเดิมไว้ให้นานที่สุด จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยด้วยกันทุกฝ่าย เมื่อรับทราบกฎ กติกา มารยาท เกี่ยวกับการท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างถูกวิธี โดยไม่ทิ้งความบอบช้ำไว้เบื้องหลังกันแล้ว วันหยุดยาวช่วงปีใหม่นี้...ก็เตรียมแพ็กกระเป๋าเดินทางกันได้เลย
กำลังโหลดความคิดเห็น