กรมอนามัย เผยแปรงสีฟันในท้องตลาดด้อยคุณภาพเพียบ สำรวจ 67 ยี่ห้อ 273 รุ่นพบทุก 1 ใน 4 รุ่นของแปรงสีฟันขนแปรงแข็ง ไม่ผ่านการมนปลาย หัวแปรงมีขนาดใหญ่เกินไป ขนแปรงหลุดร่วงง่าย เป็นอันตรายต่อเหงือกและฟัน แนะเลือกใช้ “แปรงสีฟันติดดาว” ชี้ได้มาตรฐานผ่านการตรวจรับรองจากห้องปฏิบัติการกรมอนามัย
วันนี้ (20 ธ.ค.) นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา กล่าวในการแถลงข่าว แปรงสีฟัน ติดดาวว่า กรมอนามัยเฝ้าระวังติดตามคุณภาพแปรงสีฟันที่จำหน่ายในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งผลการสำรวจครั้งล่าสุด ปี 2550 โดยเก็บตัวอย่างแปรงสีฟันทั้งที่ผลิตในประเทศและต่างประเทศทั้งหมด 67 ยี่ห้อ 273 รุ่น โดยมีราคาตั้งแต่ 3.50 บาท ถึง 99 บาท ซึ่งราคาของแปรงสีฟันไม่ได้บ่งชี้คุณภาพที่ดี เนื่องจากเมื่อนำมาตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการพบว่า ทุก 1 ใน 4 รุ่นของแปรงสีฟันที่จำหน่ายในท้องตลาดเป็นแปรงด้อยคุณภาพ โดยปัญหาที่พบมากที่สุด คือ ขนแปรงแข็ง ไม่ผ่านการมนปลาย หัวแปรงมีขนาดใหญ่เกินไป ขนแปรงหลุดร่วงง่าย เนื่องจากการยึดแน่นของกระจุกขนแปรงไม่เพียงพอ และหากแปรงสีฟันไม่ถูกวิธีด้วยก็จะยิ่งเป็นอันตรายต่อเหงือกและฟันขณะแปรงฟันได้
ดังนั้น กรมอนามัยจึงร่วมกับหลายหน่วยงานในการรับรองคุณภาพแปรงสีฟัน โดยในปีแรกของการดำเนินงานมีผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือสมัครเข้าร่วมโครงการ 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท มายกี้ จำกัด บริษัท ไลอ้อนประเทศไทย จำกัด บริษัท รินทร์โชคชัย จำกัด และบริษัท แปรงไทยแห่งแรก จำกัด ส่งแปรงเข้าตรวจสอบ 32 รุ่น และผ่านการรับรอง 26 รุ่น ซึ่งแปรงสีฟันที่ผ่านการรับรองจะมีสัญลักษณ์รูปดาวปรากฏอยู่บนฉลากสินค้า ใต้ดาวจะระบุกลุ่มอายุที่เหมาะสมกับแปรงสีฟันรุ่นนั้น คือ เด็กต่ำกว่า 3 ปี เด็ก 3-6 ปี เด็ก 6-12 ปี และผู้ใหญ่
“แปรงสีฟันที่จะผ่านการรับรองจากกรมอนามัยจะติดสัญลักษณ์รูปดาวบนฉลากสินค้าได้นั้น ต้องผ่านการตรวจสอบในห้องปฏิบัติการและพิจารณาของคณะกรรมการรับรองคุณภาพแปรงสีฟัน ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกับนักวิชาการของกรมอนามัย เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าแปรงสีฟันติดดาวของกรมอนามัยจะมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันและมีความปลอดภัยในการใช้งาน ซึ่งการรับรองคุณภาพนี้จะมีอายุ 3 ปี โดยกรมอนามัยจะเก็บตัวอย่างแปรงสีฟันติดดาวจากจุดจำหน่ายมาตรวจสอบคุณภาพซ้ำทุกปี” นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าว
นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้ ก่อนเลือกซื้อแปรงสีฟันทุกครั้ง ประชาชนควรอ่านฉลากแปรงสีฟันเพื่อให้ได้ข้อมูลรายละเอียดของสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้สามารถเลือกซื้อแปรงสีฟันคุณภาพที่มีสัญลักษณ์รูปดาวของกรมอนามัยบนบรรจุภัณฑ์ ประชาชนสามารถดูรายชื่อแปรงสีฟันที่ผ่านการรับรองได้ทางเว็บไซต์ http://dental.anamai.moph.go.th หรือสอบถามที่โทรศัพท์ 0-2590-4215 ในเวลาราชการ
ด้านรศ.ดร.ทพ.สมชาย อุรพีพล คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในคณะกรรมการรับคุณภาพแปรงสีฟัน กล่าวว่า การพิจารณารับรองคุณภาพแปรงสีฟันนั้นได้นำเกณฑ์การพิจารณาตามมาตรฐานสากล( ISO) ด้วยการตรวจสอบลักษณะทางกายภาพด้วยตา คือ ต้องไม่มีส่วนแหลมคมที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายได้เมื่อนำไปใช้ในช่องปาก ขนแปรงต้องยึดติดแน่น ทนแรงดึงได้ไม่ต่ำกว่า 15 นิวตัน ฉลากมีข้อมูลครบถ้วน นอกจากนี้ยังตรวจวัดความอ่อนแข็งของขนแปรง ตรวจลักษณะปลายขนแปรง และจำแนกประเภทแปรงสีฟันตามอายุผู้ใช้งาน
“ถึงแม้แปรงสีฟันจะมีมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) อยู่แล้ว แต่เป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานด้านอุตสาหกรรม แต่ความปลอดภัยในการใช้งาน เช่น ใช้แปรงฟันแล้วอาจทำให้ฟันสึก เป็นเรื่องทางวิชาการที่ทาง มอก.ยังไม่สามารถตรวจได้ ส่วนแปรงสีฟันไฟฟ้าขณะนี้ยังไม่มีการตรวจรับรอง แต่แปรงสีฟันไฟฟ้าจะมีมาตรฐานเครื่องใช้ไฟฟ้าควบคุมอยู่แล้ว ทั้งนี้ในต่างจังหวัด ยังมีประชาชนจำนวนมากที่เลือกใช้แปรงที่มีขนแปรงแข็ง เนื่องจากแปรงสีฟันกลุ่มนี้มีอายุการใช้งานนานกว่า ซึ่งก็เป็นเรื่องที่จะต้องลงไปให้ความรู้ที่ถูกต้องด้วย” รศ.ดร.ทพ.สมชายกล่าว
รศ.ดร.ทพ.สมชาย กล่าวว่า นอกจากนี้ขอเตือนประชาชนที่ชอบทำฟันตามร้านที่อยู่ริมถนน เช่น ท่าพระจันทร์หรือตามตลาดใหญ่ๆ เนื่องจากเครื่องมือ อุปกรณ์มีความไม่ปลอดภัย โดยมีประชาชนจำนวนมากเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลดัวยอาการเหงือกอักเสบรุนแรง โดยแพทย์ต้องนำวัสดุที่ทำฟันออก โดยพบว่าส่วนมากทำมาจากสังกะสี ซึ่งผู้ป่วยเป็นแผลที่เหงือกแล้วไม่เข้ารับการรักษาหรือไม่หายภายใน 7-10 วัน อาจลุกลามกลายเป็นมะเร็งในช่องปากได้
ด้าน นายถนัด มานะพันธุ์นิยม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก สำนักงานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า สคบ.ได้ร่วมมือกับกรมอนามัยในการควบคุมคุณภาพแปรงที่จำหน่ายใน ประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2545 โดยออกพระราชบัญญติให้แปรงสีฟันเป็นสินค้าควบคุมฉลาก ต้องระบุลักษณะขนแปรง ชนิดขนแปรง วัสดุที่ใช้ทำด้ามแปรงและขนแปรง และวิธีใช้ ซึ่งโครงการแปรงสีฟันติดดาวของกรมอนามัยนับเป็นการบูรณาการกับการคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลากของ สคบ. นอกจากผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อแปรงสีฟันคุณภาพดีได้ง่ายแล้ว ยังเป็นตัวอย่างที่ดีในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจทั้งหลายพัฒนาคุณภาพแปรงสีฟันอย่างต่อเนื่องต่อไป