แพทย์รามาฯ แถลงข่าวด่วนกรณีพบเด็กชายวัย 4 ขวบมีอาการเป็นหนุ่มก่อนวัย มีรูปร่างเท่าเด็ก 8 ขวบ มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง มีเสียงแตกพร่า หน้าเป็นสิว หนวดเคราขึ้น มีขนที่หัวหน่าว และมีอวัยวะเพศโตราว 10 เซนติเมตร พ่อแม่โร่เอามารักษา ผลตรวจพบเพราะฮอร์โมนเพศชายภายนอก แม่เด็กเผยให้กินยาเจริญอาหาร
ศ.นพ.พัฒน์ มหาโชคเลิศวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า ได้มีคนไข้เด็กอายุประมาณ 4 ขวบมีอาการเป็นหนุ่มก่อนวัย มีรูปร่างเท่ากับเด็ก 8 ขวบ มีพฤติกรรมก้าวร้าวและอารมณ์รุนแรง มีเสียงแตกพร่า หน้ามีสิว หนวดเคราขึ้นเขียวครึ้ม มีขนตรงหัวหน่าว และมีอวัยวะเพศโตราว 10 เซนติเมตร ซึ่งภายหลังการตรวจในห้องปฏิบัติการพบว่าเด็กได้รับฮอร์โมนเพศชายจากภายนอก
โดยแม่ของคนไข้เด็กดังกล่าวเปิดเผยว่า ให้ลูกกินยาบำรุงชนิดหนึ่ง โดยเริ่มให้กินมาตั้งแต่ 2 ขวบ เมื่อลูกรับยาดังกล่าวเข้าไปรู้สึกว่าลูกโตและกินข้าวเก่งขึ้น โตวันโตคืน จึงให้กินยาดังกล่าวมาโดยตลอด แต่ลูกกลับเติบโตอย่างรวดเร็วจนผิดปกติ ซึ่งเมื่อได้นำยามาให้ทางโรงพยาบาลตรวจสอบปรากฎว่า ยาดังกล่าวมีตัวยาประกอบเป็นฮอร์โมนเพศชายชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวเร่งให้เด็กเล็กกลายเป็นหนุ่มก่อนวัยอันควร ทำให้เกิดผลเสียต่อการพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ
ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อไร้ท่อกล่าวว่า ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือยาตัวนี้เป็นอันตรายมากต่อระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะการที่เด็กเล็กเติบโตอย่างพรวดพราดในช่วงแรก แล้วผู้ใหญ่ก็ยิ่งให้ยาแก่เด็กอย่างต่อเนื่อง โดยหารู้ไม่ว่าในระยะต่อไปจะทำให้กระดูกในส่วนต่างๆ ของเด็กเติบโตรวดเร็วจนผิดปกติ จากนั้นก็หยุดชะงักอย่างรวดเร็วเช่นกัน และจะทำให้กลายเป็นผู้ใหญ่ตัวเตี้ยและแคระแกร็นในที่สุด
ในกรณีเดียวกันนี้ หากเป็นเด็กหญิงก็จะมีลักษณะโตเร็วจนผิดปกติเช่นกัน นั่นคือสิวขึ้น มีขนที่หัวหน่าว มีคลิตอริสใหญ่จนเท่าองคชาติของเพศชาย และกลายเป็นผู้ใหญ่ที่แคระแกร็นเช่นเดียวกัน
ที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือ แม่ของเด็กกล่าวว่า ยาตัวนี้หาซื้อได้แทบทุกร้านขายยาในหมู่บ้าน และยังเป็นที่นิยมพ่อแม่ทั่วไปที่ต้องการให้ลูกเจริญอาหาร
ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีเปิดเผยด้วยว่า ยาดังกล่าวเป็นที่แพร่หลายในหลายพื้นที่ และขณะนี้มีเด็กจำนวนที่กำลังบริโภคยาชนิดนี้อยู่ ทั้งที่ยาดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ประกาศห้ามการผลิตมาตั้งแต่ พ.ศ.2532 แต่ปรากฏว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมาก็ยังมีการลักลอบวางจำหน่าย โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้างขวดยาดังกล่าวจะระบุว่า ห้ามใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ห้ามใช้ติดต่อกันเกิน 3 เดือนเพราะอาจกดการเจริญเติบโต แต่ก็เป็นการเขียนอย่างคลุมเครือเท่านั้น
“ยานี้ในวัยผู้ใหญ่ไม่มีผลในการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ เพราะอวัยวะเพศชายเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่ในวัยหนุ่มยังไม่มียาใดๆ เพิ่มขนาดได้ แต่หากผู้หญิงใช้ยานี้ ฮอร์โมนเพศชายจะทำให้ผู้หญิงมีขนขึ้น เสียงห้าว อารมณ์ก้าวร้าวและขนาดคลิตอริสเพิ่มขึ้น” ศ.นพ.พัฒน์ กล่าว
ด้าน ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ยาที่เด็กรายนี้รับประทาน คือ ยาอนาโปรมีน 42 เป็นยาผสมระหว่างยา Cyproheptadine กับ Methandienone เพื่อรักษาโรคภูมิแพ้ แต่เกิดผลข้างเคียงทำให้อวัยวะเพศโตผิดปกติ ทาง อย.เพิกถอนทะเบียนตำรับยาตั้งแต่ปี 2532 ส่วนยาอนาโปรมีน ไซรัป เลขทะเบียน 2A 2/36 ผลิตโดยบริษัท สี่สิบสอง แลบอราทอรีส์ จำกัด ปัจจุบันคือ บริษัท สยามเมดิแคร์ จำกัด มีสรรพคุณสำหรับผู้ที่เบื่ออาหาร ช่วยกระตุ้นให้รับประทานอาหารได้มากขึ้น มีขนาดรับประทานเฉพาะผู้ใหญ่และห้ามใช้ในเด็ก อีกทั้งยานี้เป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องจำหน่ายตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น เมื่อผู้ปกครองซื้อยานี้ได้ตามร้านขายทั่วไป ทาง อย.จะกวดขันให้มีการจำหน่ายที่ถูกต้องต่อไป ส่วนการทบทวนทำเบียนตำรับยานี้ ทาง อย.จะนำข้อมูลทางวิชาการ ผลข้างเคียงของการใช้ยาเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอาหารโดยเร็ว