xs
xsm
sm
md
lg

“วิจิตร” ยันไม่เคยฟันธงดันจุฬาฯ ออกนอกระบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“วิจิตร” โต้สภาอาจารย์นั่งอยู่ในสภามหาวิทยาลัยด้วย หากจะอ้างไม่รู้เรื่อง พ.ร.บ.จุฬาฯ คงฟังไม่ขึ้น ระบุ เคยถามจุฬาฯ แล้ว ถึงเรื่องที่มีผู้คัดค้านการนำ ม.ออกนอกระบบมาก แต่ จุฬาฯ แจงเป็นเพียงการซาวเสียง ไม่ใช่ลงประชามติ “เอา-ไม่เอา” พร้อมยืนยันไม่เคยฟันธง

นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงความขัดแย้งภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า ไม่ขอพูดเรื่องนี้ เพราะรายงานฉบับนั้น เขารายงานต่อสภามหาวิทยาลัย ซึ่งก่อนหน้านี้ เราตกลงกันว่าการจะนำออกนอกระบบหรือไม่นั้น เป็นความสมัครใจและเป็นมติของสภามหาวิทยาลัย หากมีข้อข้องใจก็ควรไปพูดกับสภามหาวิทยาลัย ไม่ใช่มาพูดกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

ถามว่า ที่ผ่านมา มีการซาวเสียงและเสียงส่วนใหญ่ ไม่ต้องการให้มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ทำไมถึงมีการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ตรงนี้ถือว่าเป็นประชาธิปไตยหรือ นายวิจิตร กล่าวว่า สภามหาวิทยาลัย เขามีอำนาจในการตัดสินใจ เมื่อเขารับฟังความคิดเห็นแล้ว เขาตัดสินอย่างไร ตรงนี้เป็นเรื่องของสภามหาวิทยาลัย และคนที่ไม่พอใจก็ต้องไปพูดกับสภามหาวิทยาลัย ซึ่งผู้แทนสภาอาจารย์ก็นั่งอยู่ในสภามหาวิทยาลัยแล้ว ถ้าสภามหาวิทยาลัยทำไม่ถูกต้อง เสียงส่วนใหญ่ออกมาไม่เห็นด้วย ถามว่า “ปล่อยออกมาทำไม” จะว่ากันไปแล้วสภาอาจารย์นั่งอยู่ สภาอาจารย์โดยตำแหน่ง

“สภาอาจารย์รู้ดีกว่าผม เพราะผมไม่ได้อยู่ในสภาวิทยาลัย ผมเพียงแต่รับลูกมาจากสภามหาวิทยาลัย”

จากการตั้งข้อสังเกตว่า มหาวิทยาลัยนเรศวร บอกยึดเสียงข้างมากต้องการออกนอกระบบ ซึ่งตรงกันข้ามกับ จุฬาฯ เสียงข้างมากไม่ให้ออกนอกระบบ นายวิจิตร กล่าวว่า เคยถามเรื่องนี้กับทางจุฬาฯ ได้คำตอบว่าเป็นการถามความคิดเห็นแล้วมาชั่งน้ำหนักดู ไม่ใช่ไปลงบัตรว่า “เอา-ไม่เอา” เหมือนกับประชามติ ตอน นายอานันท์ ปันยารชุน ทั้งนี้ กฎหมายนี้ก็ไปตกในรัฐบาลที่ผ่านมา โดยยุบสภา ดังนั้น พ.ร.บ.จุฬาฯ ไม่ใช่ของใหม่ ที่เพิ่งผลักดันเข้ามา คงต้องถามกลับไปว่า สภาอาจารย์ปล่อยมาได้อย่างไรช่วง 4-5 ปี ทำไมไม่มีการทักท้วงในสมัยรัฐบาลทักษิณ

นายวิจิตร กล่าวว่า ตอนที่ พ.ร.บ.จุฬาฯ ตกไป สภามหาวิทยาลัยยกเรื่องนี้ขึ้นมาใหม่ และสภาอาจารย์ซึ่งนั่งอยู่ทำไมไม่คัดค้าน ร่วมตัดสินใจกับเขา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนไม่รับรู้ ถือว่าเป็นปัญหาภายในจุฬาฯ จะไม่เข้าไปก้าวก่าย แทรกแซงหรือล้วงลูกอย่างเด็ดขาด

“หน้าที่ของผม สภามหาวิทยาลัยมีมติออกว่าเป็นความสมัครใจและเป็นอำนาจามอบให้สภาดูแล ผมมีหน้าที่นำเสนอต่อ และกฎหมายฉบับนี้ถึงขั้นกฎหมายสภาไปแล้ว เพราะสภารับหลักการ และเรื่องรับหลักการได้คำตอบออกมาแล้วว่า ผมไม่ได้พูดเรื่องฟันธง เป็นการตีความของ หมอตุลย์ ถามว่าทำไมตีความเอาเอง เพราะผมอธิบายว่า สภารับหลักการให้เป็น ม.ในกำกับ เพราะฉะนั้นการตรวจร่าง พ.ร.บ.ของกรรมาธิการ (กมธ.) ต้องตรวจไปตามหลักการ ซึ่งเป็นข้อบังคับของสภาเท่านั้น ไม่มีการฟันธง ธงนี้ตั้งจากจุฬาฯ ท่านฟันกันเอง ผมไม่เกี่ยว ถ้าต้องการถามถึงปัญหาเรื่องนี้ ขอให้ไปถามทางจุฬาฯ”

นายวิจิตร กล่าวว่า ในกรณีของ ม.นเรศวร เขามีปัญหากันภายในจึงขอให้เลื่อนออกไปก่อน ถ้าต้องการให้เดินหน้าต่อ ทางสภามหาวิทยาลัย มน.จะต้องมายืนยันว่าเรียบร้อยแล้วไม่มีปัญหาแต่ประการใด

“ผมทำตามกติกา บอกให้เขาไปดูแลให้เรียบร้อย มีความเห็นพ้อง ถ้ามีหน่วยที่เป็นองค์กร ไม่ใช่คน 2 คน ภายในอ้างมติ ทำเรื่องถึง พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แล้วนายกฯส่งมาให้ผม ก็ถือว่าเรื่องยังไม่เรียบร้อย ผมก็ต้องส่งให้เจ้าของเรื่อง คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ และเท่าที่ทราบว่ามีการประชุมซึ่งมีมติ 97 ไม่ชะลอให้เดินหน้าส่วนที่บอกว่าใครบังคับนั้น ผมไม่รับรู้เพราะเป็นเรื่องภายในมหาวิทยาลัย เพราะผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ สิ่งที่ผมแปลกใจว่าคนระดับอาจารย์มีใครไปบังคับได้”

นายวิจิตร กล่าวว่า ประธานสภาอาจารย์เขาทำหนังสือให้ชะลอ ไม่ใช่มหาวิทยาลัย เมื่อมหาวิทยาลัย ไปจัดการให้มีการประชุมแล้วมีมติให้เดินหน้า ตนเคารพการตัดสินใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น