xs
xsm
sm
md
lg

โพลชี้เด็กไทยน่าห่วง เล่นเน็ตหาคู่-ดูสื่อลามก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจ พบสถานการณ์เด็กไทยน่าเป็นห่วง ใช้อินเทอร์เน็ตหาคู่ วัยรุ่นชายที่ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 38.8% เคยนัดพบคนที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นหญิง 8.2% ยอมรับเคยมีเพศสัมพันธ์ผ่านคนรู้จักทางอินเทอร์เน็ต แต่ 59.4% ของวัยรุ่นหญิง ไม่เต็มใจมีเพศสัมพันธ์ เตือนเปิดเผยข้อมูลผ่านเว็บไซต์ต้นตอถูกล่อลวง วอนเจ้าของเว็บไซต์ปกปิดข้อมูลส่วนตัวเยาวชน

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2550 ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวว่าสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ดำเนินการสำรวจเรื่อง “พฤติกรรมและผลกระทบของการใช้อินเทอร์เน็ตจากกลุ่มเยาวชน:กรณีศึกษาเยาวชนอายุ 15-24 ปีที่ใช้อินเทอร์เน็ตในเขตกรุงเทพมหานคร” ระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคม 2550 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,114 ตัวอย่าง พบว่า เด็กส่วนใหญ่มีจุดประสงค์ของการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลความรู้ 88.2% เล่นเกมออนไลน์ 68.1% ดาวน์โหลดเพลง/ภาพยนตร์ 65.1% และ ใช้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ 57.9%

ขณะที่ระยะเวลาการใช้อินเทอร์เน็ตน้อยกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน 13.6% ระหว่าง 1-2 ชั่วโมง 23.9% ระหว่าง 2-3 ชั่วโมง 20.3% ระหว่าง 3-4 ชั่วโมง 12.6% ระหว่าง 4-5 ชั่วโมง 12% และ 5 ชั่วโมงขึ้นไป 17.6%

ส่วนช่วงเวลาที่นิยมใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุด คือ ระหว่าง 20.01-24.00 น. 56.7% และ ระหว่าง 16.01-20.00 น. 44.1%
ดร.นพดล กล่าวว่า จากการจัดอันดับเว็บไซต์ที่เด็กเข้าชมบ่อยที่สุด 5 ลำดับแรก คือ

1. Google.co.th 30.8%

2. Sanook.com 11.3%

3. Hotmail.com 9.9%

4. Kapook.com 5.9% และ

5. Hi5.com 3.9%

นอกจากนี้ ยังพบว่า วัยรุ่นที่ใช้อินเทอร์เน็ตชาย 20.8% และกลุ่มวัยรุ่นเพศหญิง 12.2% เคยประกาศหาคู่ทางอินเทอร์เน็ต

ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับสื่อลามกอันตรายบนอินเทอร์เน็ต กลุ่มตัวอย่าง 53.2% เคยดูสื่อลามกทางอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ยังพบว่า 63.7% ของผู้ที่เคยดูสื่อลามกในอินเทอร์เน็ตเคยใช้บริการดาวน์โหลดภาพ/วิดีโอโป๊ เล่นเกมผ่านเว็บโป๊ 15.7% และใช้บริการขอรับภาพ/วิดีโอผ่านอีเมล 13.9%

ทั้งนี้ ช่องทางที่ทำให้รับรู้สื่อลามกทางอินเทอร์เน็ตคือ รู้โดยบังเอิญ 52.2% เพื่อนแนะนำ 45.2% รับรู้จากเว็บบอร์ด/กระทู้ต่างๆ 29.8% และค้นหาจากเว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูล เช่น Google.co.th MSN Siamguru.com 29.3% โดยส่วนใหญ่เห็นว่า ภาพโป๊/วิดีโอโป๊เปลือยทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมทางเพศ เช่น ข่มขืน อนาจาร 81.4% ทำให้วัยรุ่นหมกมุ่นเรื่องเซ็กซ์ 77.4% และทำให้มีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล 76.4% และเกิดการเลียนแบบ 76.5%

สำหรับผู้ที่ตนเองหรือมีคนที่รู้จักเคยประสบปัญหา หรือได้รับผลกระทบจากการใช้อินเทอร์เน็ต อันดับ 1 คือ มีพฤติกรรมทางเพศไม่เหมาะสม เช่น มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือมีเพศสัมพันธ์กับคนใกล้ชิดหรือคนในครอบครัว 39.9% ตามด้วยถูกผู้อื่นกลั่นแกล้งผ่านสื่อออนไลน์ 37.2% ถูกคุกคาม/ถูกกระทำอาชญากรรม 23.2% และเสพยาเสพติด 18.5% ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่เคยเข้าเว็บไซต์ที่มีเนื้อหารุนแรง พบว่า อันดับ 1.คือ เนื้อหาเกี่ยวกับการฆาตกรรม 2.การฆ่าตัวตาย 3.เนื้อหาที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ 4.การทำระเบิด 5.การใช้ยาพิษ และ 6.ลัทธินิยม ทั้งนี้ ความเห็นต่อเว็บไซต์ที่มีเนื้อหารุนแรง ส่วนใหญ่ 66.5% เห็นว่าเป็นอันตรายต่อสังคม

จากการสำรวจการเข้าใช้บริการเว็บไซต์ที่มีสาระ เมื่อเทียบกับเว็บไซต์บันเทิง พบว่า ส่วนใหญ่ 56.3% อยู่ในระดับปานกลาง โดยปัจจัยที่ทำให้เข้าชมเว็บไซต์ที่มีสาระเพราะต้องการหาความรู้ทั่วไป 72.5% และหาข้อมูลประกอบการศึกษา 70.3% ส่วนปัจจัยที่ทำให้ไม่สนใจเข้าใช้เว็บไซต์ที่มีสาระ คือ ไม่มีความจำเป็นเข้าใช้ 43.8% ไม่รู้จักเว็บไซต์ดีๆ ที่มีเนื้อหาเป็นภาษาไทย 25.5% และไม่สนใจเข้าใช้ 21%

สำหรับการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์ เด็กและเยาวชนที่ใช้อินเทอร์เน็ตถึง 65.4% เคยใช้บริการออนไลน์ หรือเว็บไซต์ ที่ต้องสมัครสมาชิกและกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ เพศ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ และ 33.6% ของจำนวนที่กรอกข้อมูลในเว็บไซด์เคยถูกบุคคลที่ไม่รู้จักติดต่อเข้าถึงตัว ผ่านทางโทรศัพท์และอีเมล ซึ่งมีทั้งการพูดคุยธรรมดา ชักชวนออกไปพบกัน และใช้คำพูดลวนลามเรื่องเพศ โดยเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น กรณีที่มีการติดต่อพบกับบุคคลที่ไม่รู้จักที่เข้าพบแบบถึงตัว พบว่า ก่อให้เกิดความไม่สบายใจ 30.4% ถูกลวนลาม 21.4% และถูกข่มขืนหรือทำร้ายร่างกาย 8.9% ทั้งนี้ ความเห็นของเยาวชนต่อการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวทางเว็บไซต์ 44.5% เห็นว่าไม่ควรเปิดเผยเลย และ 25.9% เห็นว่าทำได้ แต่ควรเปิดเผยเฉพาะข้อมูลบางส่วน

ส่วนความเห็นเกี่ยวกับการสนทนาออนไลน์ พบว่า วัยรุ่นที่ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ 83.8% เคยพูดคุยผ่านทางโปรแกรมสนทนา และ 80.4% เคยพูดคุยกับคนแปลกหน้า นอกจากนี้ในกลุ่มวัยรุ่นชาย 38.8% เคยนัดพบคนที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นหญิง 22.4% เคยนัดพบคนที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ยังพบว่า ในกลุ่มวัยรุ่นชายที่เคยสนทนาบนอินเทอร์เน็ต 26.6% เคยมีเพศสัมพันธ์กับคนที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต

ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นหญิง 8.2% เคยมีเพศสัมพันธ์กับคนที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต และ 59.4% ของวัยรุ่นหญิง (ที่มีเพศสัมพันธ์กับคนที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต) ไม่เต็มใจต่อการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ เยาวชนส่วนใหญ่ 60.1% เห็นว่าแนวโน้มความรุนแรงของอาชญากรรมทางโลกออนไลน์ในอนาคตเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ จากการสำรวจพฤติกรรมการเล่นเกมส์ออนไลน์ พบว่า 64.2% เคยเล่นเกมส์ออนไลน์ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา และ 35.8% ไม่เคยเล่น

สำหรับเนื้อหาสาระของเกมออนไลน์ที่ชอบเล่น 10 ลำดับแรก คือ 1.เกมต่อสู้ เช่น ยิงปืน ฟัน เตะ ต่อย 60.9% 2.เกมแฟนตาซี 36.8% 3.เกมยิงตำรวจ 35.4% 4.เกมแข่งขันกีฬา เช่นฟุตบอล เทนนิส 28.8% 5. เกมเปลื้องผ้า 15.2% 6. เกมสะสมของ 13.1% 7.เกมลับสมอง 12.9% 8.เกมฝึกทักษะ เช่น ภาษา พิมพ์ดีด 10.3% 9.เกมดักฉุดหญิงสาว 4.5% และ 10. อื่นๆ 2.5%

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่าการได้รับการควบคุมดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตจากผู้ปกครอง 41.5% ยังคงปล่อยให้บุตรหลานใช้เหมือนเดิม ขณะที่ 23.9% จำกัดเวลาการใช้อินเทอร์เน็ต ส่วนความเห็นเกี่ยวกับมาตรการจากภาครัฐในการแก้ปัญหาเว็บลามกอันตรายต่อเยาวชน ประเด็นที่สนับสนุนมากที่สุดประกอบด้วย เห็นด้วยต่อการให้ความรู้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันแก่เยาวชน 84.6% การปราบปรามผู้ผลิตเว็บลามกอันตราย 79.1% และออกกฎหมายเพิ่มเติมให้เข้มงวด 72.4%

กำลังโหลดความคิดเห็น