สธ. เผยหอยแครงกินได้ปลอดภัย หากลวกนาน 2 นาทีขึ้นไป เพราะเชื้อโรคในโคลนที่อยู่ในหอยตายง่าย เผยเหตุที่ประชาชนป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงรวมทั้งอหิวาตกโรค พบว่าเกิดจากการกินสุกๆดิบๆ หรือกินดิบเป็นหลัก เช่น หอยแครงลวกเพียงไม่ถึงครึ่งนาที ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศควบคุม ป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด เชื่อลาวยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าหอยแครงจากไทย ภายใน 10 วัน หากไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม พร้อมเฝ้าระวังเข้มจับมือกรมประมง เลี้ยงหอยไม่ให้มีเชื้อ ถูกสุขลักษณะ
ตามที่มีข่าวกระทรวงสาธารณสุขประเทศลาว ได้มีคำสั่งห้ามนำเข้าหอยแครงจากไทย ที่จำหน่ายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น หนองคาย อุดรธานี ไปจำหน่ายที่ลาว เนื่องจากมีการพบว่าคนลาวป่วยเป็นอหิวาตกโรค หลังบริโภคหอยแครงที่ซื้อจากจังหวัดอุดรธานี จำนวน 1 ราย นั้น
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันควบคุมอหิวาตกโรคของกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ทำการควบคุมป้องกันอหิวาตกโรคอย่างใกล้ชิด และได้ประสานความร่วมมือควบคุมโรคร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขของลาวมาโดยตลอด ในปี 2550 นี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2550 มีผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง ที่ยืนยันว่าติดเชื้ออหิวาตกโรคทั้งหมด 761 ราย เสียชีวิต 5 ราย ซึ่งส่วนมากเป็นแรงงานต่างด้าว ขณะนี้ควบคุมจำกัดวงระบาดได้แล้ว โดยจำนวนผู้ป่วยมีน้อยลงอย่างมาก ยังมี 12 จังหวัดที่ยังอยู่ในระยะการเฝ้าระวังเป็นเวลา 10 วัน ในชุมชนที่มีผู้ป่วย ได้แก่ ขอนแก่น อุดรธานี สกลนคร ลำพูน ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ นครพนม สมุทรสาคร หนองคาย พระนครศรีอยุธยา และมุกดาหาร
จากการสอบสวนสาเหตุของการป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงและอหิวาตกโรค พบว่าเกือบทุกรายกินอาหารสุกๆ ดิบๆ หรือปรุงไม่สุก ซึ่งมีทั้งหอยแครงลวก ยำต่างๆ ลาบ ก้อย โดยเฉพาะหอยแครงลวกนั้น พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ นิยมกินหอยแครงลวกที่ยังมีเลือดสดๆ เพราะมีรสหวานอร่อย จึงมักใช้เวลาลวกในน้ำที่กำลังเดือดไม่ถึงครึ่งนาที ทำให้เชื้อโรคต่างๆ ในดินโคลนที่ปนเปื้อนมากับหอยแครงไม่ตาย เมื่อคนกินเข้าไปจึงเกิดการติดเชื้อ ซึ่งจากการตรวจฟาร์มเลี้ยงหอยแครง รวมทั้งน้ำที่ใช้เลี้ยง โดยกรมประมงที่ผ่านมา ซึ่งแหล่งเลี้ยงอยู่จังหวัดภาคกลางและภาคใต้ ไม่พบเชื้ออหิวาตกโรค เพราะฉะนั้น จึงขอยืนยันว่าหอยแครงกินได้ โดยต้องทำให้สุก ขอให้ลวกในน้ำเดือดนาน 2 นาทีขึ้นไป หรือสังเกตง่ายๆ คือลวกจนปากหอยอ้าออก จะทำให้เชื้อโรคในหอยตายทั้งหมด คนสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและนักวิชาการควบคุมโรคทั่วประเทศ พร้อมทั้งรณรงค์ให้มีการล้างและใส่น้ำยาฆ่าเชื้อในตลาดสดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ให้ผู้ประกอบการที่มีความเสี่ยง ได้แก่ แม่ค้าหอยแครงในตลาด ขอให้คำแนะนำแก่ผู้ที่มาซื้อ รวมทั้งผู้ประกอบอาหารประเภทยำต่างๆ แม่ค้าอาหารปรุงสำเร็จ ให้เน้นการปรุงหอยรวมทั้งอาหารอื่นๆ ให้สุก 100 เปอร์เซ็นต์ และล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดภายหลังใช้ห้องน้ำห้องส้วมและก่อนรับประทานอาหาร
อย่างไรก็ตามนพ.ไพจิตร์ วราชิต กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุขสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.) เพื่อสืบหาสาเหตุอาการป่วยเป็นอหิวตกโรคจำนวน 1 ราย หลังจากบริโภคหอยแครงที่ซื้อจากจ.อุดรธานี ซึ่งแน่ชัดแล้วว่าหอยแครงที่ได้รับประทานเข้าไปมีแบคทีเรียที่มากับโคลน หรือสาหร่ายปนเปื้อนมากับหอยแครงประกอบกับการรับประทานแบบสุกๆ ดิบๆ ทำให้เกิดโรคดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่มีผู้ป่วยเพิ่มหลังจากที่พบผู้ป่วยรายแรกในระยะเวลา 10 วัน โรคก็จะหมดไป ดังนั้นคำสั่งห้ามนำเข้าหอยแครงจากไทยก็จะยกเลิกทันที
“เมื่อเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ขึ้น กรมประมงก็ไม่สบายใจ จึงได้ร่วมกันในการเฝ้าระวังสุ่มตรวจเชื้อแบททีเรีย ในหอยแครงแต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด เพื่อให้เกิดความมั่นใจยิ่งขึ้นจึงได้ตรวจคัดกรองการเลี้ยงหอยแครงไม่ให้มีเชื้อโดยเลี้ยงอย่างถูกสุขลักษณะ ซึ่งการพบหอยมีสิ่งปนเปื้อนครั้งนี้เป็นเรื่องที่แปลก เพราะปกติเราจะพบสาหร่าย หรือโคลนที่ปนเปื้อนหอยตามชายฝัง ในช่วงหน้าร้อน และพบได้ไม่บ่อย อย่างไรก็ตาม หากรับประทานหอยแครงสุก ยืนยันว่าปลอดภัยอย่างแน่นอน” นพ.ไพจิตร์กล่าว


