สพฐ.วางแผนรับนักเรียน ปี 51 เตรียมตั้งโรงเรียนเพิ่ม 1 แห่ง เขตบางขุนเทียน รองรับหมู่บ้านจัดสรรขยายตัว และให้โรงเรียนยอดนิยม จับคู่พัฒนาโรงเรียนใกล้เคียง หวังผู้ปกครองและส่งบุตรเข้าเรียนแบ่งเบาภาระโรงเรียนดัง เลขา กพฐ. ดัน 3 โรงเรียนดังใน กทม. “เตรียมอุดมฯ สวนกุหลาบฯ และสามเสน” ออกนอกระบบ ให้มีอิสระในการบริหารจัดการเหมือน ร.ร.มหิดลวิทยานุสรณ์ มีอิสระในการกำหนดนโยบายรับนักเรียนของตัวเอง
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาธิการ (กพฐ.) กล่าวว่า ในขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดำเนินการหลายเรื่องเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรับนักเรียนม.1 ปี 2551 พร้อมกันนี้ยังได้วางแผนที่จัดตั้งโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา อีก 1 แห่ง เพราะปีที่ผ่านมาได้เปิดรับนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมสุวินทวงศ์ เขตหนองจอก สาเหตุที่เลือกจัดตั้งโรงเรียนที่เขตบางขุนเทียนเพราะพื้นที่ดัง กล่าวมีจำนวนนักเรียนที่จบ ป.6 เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการสร้างหมู่บ้านจัดสรรเพิ่ม ขึ้น 5,000-6,000 ครอบครัว สพฐ.จำเป็นต้องสร้างโรงเรียนเพิ่มเพื่อรอง รับการขยายตัวของหมู่บ้านเหล่านี้ โดย สพฐ.ได้เตรียม งบฯ 51 สำหรับก่อสร้างอาคารเรียนไว้แล้ว แต่ในระหว่างการก่อสร้างอาคารเรียน ต้องนำนักเรียนรุ่นแรกไปฝากเรียนไว้โรงเรียนอื่นที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง เช่นเดียวกับโรงเรียนเตรียมอุดมสุวินทวงศ์ ที่รับนักเรียนมา 240 คน แล้วนำไปฝากเรียนไว้ที่ เตรียมอุดมน้อมเกล้าในระหว่างก่อสร้างอาคารเรียนอยู่
อีกทางออกหนึ่ง ทาง สพฐ.ได้ปรับโรงเรียนประถมศึกษาบางแห่ง โดยการลดการจำนวนนักเรียนชั้นประถมศึกษาเพื่อนำห้องเรียน มารับชั้นนักเรียน ม.1 แทน นอกจากนี้ยังให้โรงเรียนยอดนิยมจับคู่โรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียงมาเป็นโรงเรียนคู่พัฒนา 27 คู่ทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 11 คู่ ภาค กลาง 1 คู่ ภาคเหนือ 1 คู่ ภาคใต้ 4 คู่ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 คู่
คุณหญิงกษมา กล่าวอีกว่า เพื่อให้โรงเรียนยอดนิยมช่วยพัฒนาโรงเรียนเหล่านี้ ให้เป็นที่ยอมรับของผู้ปกครอง เพราะทุกวันนี้โรงเรียนเหล่านี้รับนักเรียนได้อีกแต่ติดปัญหาที่ผู้ปกครองไม่ยอมส่งลูกไปเรียน ถ้าหากพัฒนาโรงเรียนคู่ขนานแล้ว จะรองรับนักเรียนเพิ่มอีก 1-2 ห้องในปี 51 วิธีนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระของโรงเรียนยอดนิยมที่มีนักเรียนมาสมัครเข้าเรียนล้นอย่างมากทุกปี
การรับนักเรียน ปี 51 ดี ขึ้นจากปีที่ผ่านมา ประกอบกับ โรงเรียนสังกัด กทม.ได้ขยายห้องเรียนเพิ่มจนสามารถรับนักเรียน ม.1 ได้เพิ่มอีก 3,000 ที่นั่ง อย่างไรก็ ตาม แต่ละพื้นที่ของกทม.มีจำนวนเด็กไม่เท่ากัน โดยเฉพาะเขต 2 มีนักเรียนล้นมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ อีกทั้งยังมีปัญหาผู้ปกครองนิมยม ส่งเด็กเข้าโรงเรียนยอดนิยม ถึงแม้ภาพรวมจะรับได้เพิ่มขึ้น แต่คงต้องมีการเกลี่ยเด็กอยู่
นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า วันนี้ (14 พ.ย.) สพฐ.ได้เชิญผู้ บริหาร โรงเรียนในโครงการโรงเรียนคู่ขนานมาหารือร่วมกัน เพื่อซักซ้อมความเข้าใจของโครงการนี้ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญต้องการให้โรงเรียนไปช่วยยกมาตรฐานคุณภาพโรงเรียนคู่ขนาน โดย ร่วมกันพัฒนาหลักสูตร ครู และปรับปรุงสภาพแวดล้อม
ขณะเดียวกันได้เชิญผู้บริหารของ ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย และ ร.ร.สามเสนวิทยาลัย มาหารือในเรื่อง ที่จะให้ ร.ร.ทั้ง 3 แห่งนี้ออกนอกระบบ เพื่อมีอิสระในการบริหารจัดการ คล้ายกับกรณีของ ร.ร.มหิดลวิทยานุสรณ์ ที่มีอิสระในการบริหารรวมทั้งสามารถกำหนดนโยบายด้านต่างๆ ได้เอง รวมทั้งสามารถกำหนดนโยบายรับ นักเรียนของตัวเองได้เองโดยไม่ต้องปฏิบัติตามนโยบายนักเรียนของ สพฐ. อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ทันปีการศึกษา 2551 คาดว่า น่าจะเริ่มได้ใน ปี 2552 และต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของสถานศึกษาด้วย
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาธิการ (กพฐ.) กล่าวว่า ในขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดำเนินการหลายเรื่องเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรับนักเรียนม.1 ปี 2551 พร้อมกันนี้ยังได้วางแผนที่จัดตั้งโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา อีก 1 แห่ง เพราะปีที่ผ่านมาได้เปิดรับนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมสุวินทวงศ์ เขตหนองจอก สาเหตุที่เลือกจัดตั้งโรงเรียนที่เขตบางขุนเทียนเพราะพื้นที่ดัง กล่าวมีจำนวนนักเรียนที่จบ ป.6 เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการสร้างหมู่บ้านจัดสรรเพิ่ม ขึ้น 5,000-6,000 ครอบครัว สพฐ.จำเป็นต้องสร้างโรงเรียนเพิ่มเพื่อรอง รับการขยายตัวของหมู่บ้านเหล่านี้ โดย สพฐ.ได้เตรียม งบฯ 51 สำหรับก่อสร้างอาคารเรียนไว้แล้ว แต่ในระหว่างการก่อสร้างอาคารเรียน ต้องนำนักเรียนรุ่นแรกไปฝากเรียนไว้โรงเรียนอื่นที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง เช่นเดียวกับโรงเรียนเตรียมอุดมสุวินทวงศ์ ที่รับนักเรียนมา 240 คน แล้วนำไปฝากเรียนไว้ที่ เตรียมอุดมน้อมเกล้าในระหว่างก่อสร้างอาคารเรียนอยู่
อีกทางออกหนึ่ง ทาง สพฐ.ได้ปรับโรงเรียนประถมศึกษาบางแห่ง โดยการลดการจำนวนนักเรียนชั้นประถมศึกษาเพื่อนำห้องเรียน มารับชั้นนักเรียน ม.1 แทน นอกจากนี้ยังให้โรงเรียนยอดนิยมจับคู่โรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียงมาเป็นโรงเรียนคู่พัฒนา 27 คู่ทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 11 คู่ ภาค กลาง 1 คู่ ภาคเหนือ 1 คู่ ภาคใต้ 4 คู่ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 คู่
คุณหญิงกษมา กล่าวอีกว่า เพื่อให้โรงเรียนยอดนิยมช่วยพัฒนาโรงเรียนเหล่านี้ ให้เป็นที่ยอมรับของผู้ปกครอง เพราะทุกวันนี้โรงเรียนเหล่านี้รับนักเรียนได้อีกแต่ติดปัญหาที่ผู้ปกครองไม่ยอมส่งลูกไปเรียน ถ้าหากพัฒนาโรงเรียนคู่ขนานแล้ว จะรองรับนักเรียนเพิ่มอีก 1-2 ห้องในปี 51 วิธีนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระของโรงเรียนยอดนิยมที่มีนักเรียนมาสมัครเข้าเรียนล้นอย่างมากทุกปี
การรับนักเรียน ปี 51 ดี ขึ้นจากปีที่ผ่านมา ประกอบกับ โรงเรียนสังกัด กทม.ได้ขยายห้องเรียนเพิ่มจนสามารถรับนักเรียน ม.1 ได้เพิ่มอีก 3,000 ที่นั่ง อย่างไรก็ ตาม แต่ละพื้นที่ของกทม.มีจำนวนเด็กไม่เท่ากัน โดยเฉพาะเขต 2 มีนักเรียนล้นมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ อีกทั้งยังมีปัญหาผู้ปกครองนิมยม ส่งเด็กเข้าโรงเรียนยอดนิยม ถึงแม้ภาพรวมจะรับได้เพิ่มขึ้น แต่คงต้องมีการเกลี่ยเด็กอยู่
นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า วันนี้ (14 พ.ย.) สพฐ.ได้เชิญผู้ บริหาร โรงเรียนในโครงการโรงเรียนคู่ขนานมาหารือร่วมกัน เพื่อซักซ้อมความเข้าใจของโครงการนี้ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญต้องการให้โรงเรียนไปช่วยยกมาตรฐานคุณภาพโรงเรียนคู่ขนาน โดย ร่วมกันพัฒนาหลักสูตร ครู และปรับปรุงสภาพแวดล้อม
ขณะเดียวกันได้เชิญผู้บริหารของ ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย และ ร.ร.สามเสนวิทยาลัย มาหารือในเรื่อง ที่จะให้ ร.ร.ทั้ง 3 แห่งนี้ออกนอกระบบ เพื่อมีอิสระในการบริหารจัดการ คล้ายกับกรณีของ ร.ร.มหิดลวิทยานุสรณ์ ที่มีอิสระในการบริหารรวมทั้งสามารถกำหนดนโยบายด้านต่างๆ ได้เอง รวมทั้งสามารถกำหนดนโยบายรับ นักเรียนของตัวเองได้เองโดยไม่ต้องปฏิบัติตามนโยบายนักเรียนของ สพฐ. อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ทันปีการศึกษา 2551 คาดว่า น่าจะเริ่มได้ใน ปี 2552 และต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของสถานศึกษาด้วย