แพทย์เผยผลสำรวจหญิงไทยใน รพ.เขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด 3 แห่ง พบกว่า 400 ราย เป็นโรคที่จุดซ่อนเร้นอันเนื่องจากการติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ขณะที่ 60 เปอร์เซ็นต์มีอากาตกขาวผิดปกติ 90 เปอร์เซ็นต์ คันบริเวณจุดซ่อนเร้น ชี้เสื้อผ้ารัดรูป กางเกงยีนส์เอวต่ำ กางเกงยีนส์รัดรูป เป็นต้นเหตุเกิดเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย
วันนี้ (29 ต.ค.) เวลา 13.10 น.ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 ปี รพ.กรุงเทพ รศ.นพ.อรรณพ ใจสำราญ สูตินรีแพทย์ ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยในการประชุมวิชาการ การประชุมสามัญประจำปี ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ว่า จากการที่คณะผู้วิจัยได้ทำการสำรวจผู้หญิงที่เข้าพบแพทย์อันเนื่องมาจากอาการผิดปกติบริเวณจุดซ่อนเร้น พบว่า ในผู้หญิง 400 คน มีปัญหาตกขาวผิดปกติกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ มีอาการคันที่จุดซ่อนเร้น 90 เปอร์เซ็นต์ จะมีอาการตกขาวผิดปกติ และประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ จะมีกลิ่นเหม็น มีอาการแสบและคัน
ปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณจุดซ่อนเร้น พบได้ทุกกลุ่มอายุโดยเฉลี่ยอยู่ประมาณ 34 ปี จากการวินิจฉัยประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นเชื้อราที่จุดซ่อนเร้น และ 20 เปอร์เซ็นต์ ติดเชื้อแบคทีเรีย โดยจะมีปริมาณตกขาวที่เพิ่มมากขึ้น สีเปลี่ยนจากขาวไปเป็นสีเหลือง น้ำตาล หรือเขียว มีกลิ่น คัน บริเวณช่องคลอด หรืออวัยวะเพศ ปัสสาวะขัด และทำให้บริเวณช่องคลอดมีอาการอักเสบได้
“ลักษณะของตกขาวในคนปกตินั้น จะมีลักษณะเป็นเมือก ขาวขุ่นไม่มีกลิ่น หรือจะมีกลิ่นอับ และไม่คัน ปริมาณตกขาวจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละคน ตกขาวจะมีมากช่วงที่ไข่ตกอยู่ระหว่างวันที่ 14 ของรอบเดือน นอกจากนั้น ขณะตั้งครรภ์ก็จะพบว่าตกขาวมากจนบางครั้งอาจจะเหนียวหนืด การกระตุ้นทางเพศสัมพันธ์ก็จะมีการหลั่งน้ำออกมาหล่อลื่นมาก หลังจากมีกิจกรรมทางเพศก็จะมีการตกขาวเป็นปริมาณมาก การใช้ยาคุมกำเนิดก็ทำให้ตกขาวเพิ่ม” รศ.นพ.อรรณพ กล่าว
สาเหตุหลักในการติดเชื้อราข้างในอวัยวะ สำหรับผู้ป่วยที่เข้าพบแพทย์ส่วนใหญ่การติดเชื้อราจะเกิดอาการคันซ้ำซาก เป็นแล้วหายแล้วกลับมาเป็นใหม่ ซึ่งกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ใช้สบู่ธรรมดาล้างและจะใช้ในช่วงที่มีประจำเดือนเท่านั้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่ถูกต้อง เพราะการทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพราะจุดซ่อนเร้นมีสภาวะเป็นกรดอ่อนๆ การใช้สบู่ที่เป็นด่างอาจทำให้สภาวะความสมดุลของจุดซ่อนเร้นเสียไป และอาจเกิดการติดเชื้อจากภายนอกได้
รศ.นพ.อรรณพ ยังกล่าวอีกว่า เสื้อผ้าที่สวมใส่โดยเฉพาะที่รัดรูป กางเกงยีนส์ที่รัด หรือกางเกงยีนส์เอวต่ำ มีผลทำให้เกิดเชื้อราที่จุดซ่อนเร้นได้เช่นเดียวกัน เพราะเนื่องจากจะเกิดการอับชื้น ไม่มีการระบายอากาศที่เหมาะสม และชุดชั้นในที่ทำจากไนลอนก็จะมีผลต่อระบบการระบายของอากาศได้ยากกว่าผ้าฝ้ายอีกด้วย ดังนั้น เสื้อผ้าที่ไม่รัดเน้นเกินไป หรือชุดชั้นในที่ผลิตจากผ้าที่ไม่ระคายเคืองต่อจุดซ่อนเร้น การดูแลรักษาความสะอาดอย่างถูกวิธีเพื่อรักษาสมดุลของจุดซ่อนเร้นตามธรรมชาติจึงเป็นปัจจัยที่ควรปฏิบัติควบคู่กัน นอกเหนือจากการใช้ยาตามคำสั่งของแพทย์
วันนี้ (29 ต.ค.) เวลา 13.10 น.ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 ปี รพ.กรุงเทพ รศ.นพ.อรรณพ ใจสำราญ สูตินรีแพทย์ ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยในการประชุมวิชาการ การประชุมสามัญประจำปี ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ว่า จากการที่คณะผู้วิจัยได้ทำการสำรวจผู้หญิงที่เข้าพบแพทย์อันเนื่องมาจากอาการผิดปกติบริเวณจุดซ่อนเร้น พบว่า ในผู้หญิง 400 คน มีปัญหาตกขาวผิดปกติกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ มีอาการคันที่จุดซ่อนเร้น 90 เปอร์เซ็นต์ จะมีอาการตกขาวผิดปกติ และประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ จะมีกลิ่นเหม็น มีอาการแสบและคัน
ปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณจุดซ่อนเร้น พบได้ทุกกลุ่มอายุโดยเฉลี่ยอยู่ประมาณ 34 ปี จากการวินิจฉัยประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นเชื้อราที่จุดซ่อนเร้น และ 20 เปอร์เซ็นต์ ติดเชื้อแบคทีเรีย โดยจะมีปริมาณตกขาวที่เพิ่มมากขึ้น สีเปลี่ยนจากขาวไปเป็นสีเหลือง น้ำตาล หรือเขียว มีกลิ่น คัน บริเวณช่องคลอด หรืออวัยวะเพศ ปัสสาวะขัด และทำให้บริเวณช่องคลอดมีอาการอักเสบได้
“ลักษณะของตกขาวในคนปกตินั้น จะมีลักษณะเป็นเมือก ขาวขุ่นไม่มีกลิ่น หรือจะมีกลิ่นอับ และไม่คัน ปริมาณตกขาวจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละคน ตกขาวจะมีมากช่วงที่ไข่ตกอยู่ระหว่างวันที่ 14 ของรอบเดือน นอกจากนั้น ขณะตั้งครรภ์ก็จะพบว่าตกขาวมากจนบางครั้งอาจจะเหนียวหนืด การกระตุ้นทางเพศสัมพันธ์ก็จะมีการหลั่งน้ำออกมาหล่อลื่นมาก หลังจากมีกิจกรรมทางเพศก็จะมีการตกขาวเป็นปริมาณมาก การใช้ยาคุมกำเนิดก็ทำให้ตกขาวเพิ่ม” รศ.นพ.อรรณพ กล่าว
สาเหตุหลักในการติดเชื้อราข้างในอวัยวะ สำหรับผู้ป่วยที่เข้าพบแพทย์ส่วนใหญ่การติดเชื้อราจะเกิดอาการคันซ้ำซาก เป็นแล้วหายแล้วกลับมาเป็นใหม่ ซึ่งกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ใช้สบู่ธรรมดาล้างและจะใช้ในช่วงที่มีประจำเดือนเท่านั้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่ถูกต้อง เพราะการทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพราะจุดซ่อนเร้นมีสภาวะเป็นกรดอ่อนๆ การใช้สบู่ที่เป็นด่างอาจทำให้สภาวะความสมดุลของจุดซ่อนเร้นเสียไป และอาจเกิดการติดเชื้อจากภายนอกได้
รศ.นพ.อรรณพ ยังกล่าวอีกว่า เสื้อผ้าที่สวมใส่โดยเฉพาะที่รัดรูป กางเกงยีนส์ที่รัด หรือกางเกงยีนส์เอวต่ำ มีผลทำให้เกิดเชื้อราที่จุดซ่อนเร้นได้เช่นเดียวกัน เพราะเนื่องจากจะเกิดการอับชื้น ไม่มีการระบายอากาศที่เหมาะสม และชุดชั้นในที่ทำจากไนลอนก็จะมีผลต่อระบบการระบายของอากาศได้ยากกว่าผ้าฝ้ายอีกด้วย ดังนั้น เสื้อผ้าที่ไม่รัดเน้นเกินไป หรือชุดชั้นในที่ผลิตจากผ้าที่ไม่ระคายเคืองต่อจุดซ่อนเร้น การดูแลรักษาความสะอาดอย่างถูกวิธีเพื่อรักษาสมดุลของจุดซ่อนเร้นตามธรรมชาติจึงเป็นปัจจัยที่ควรปฏิบัติควบคู่กัน นอกเหนือจากการใช้ยาตามคำสั่งของแพทย์