xs
xsm
sm
md
lg

รายงานพิเศษ : ครั้งแรก!! ที่ ปชช.จะได้ชม “วงดนตรีของในหลวง”(อ.ส.วันศุกร์)!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อัครศิลปิน ผู้เปี่ยมด้วยพระอัจฉริยภาพด้านดนตรี
นานๆ ครั้ง ประชาชนจะได้มีโอกาสฟังเรื่องราวที่น่าประทับใจจากผู้ถวายงานใกล้ชิด “ในหลวง” ...วันที่ 30 พ.ย.นี้ จะเป็นอีกครั้งที่น่าบันทึกและจดจำ เพราะไม่เพียงประชาชนจะได้มีโอกาสชมการแสดงดนตรีของ “วง อ.ส.วันศุกร์” ซึ่งเป็นวงดนตรีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นครั้งแรก แต่ผู้ที่ได้มีโอกาสชม ยังจะได้สัมผัสถึงพระอัจฉริยภาพด้านดนตรี และพระอารมณ์ขันของพระองค์ผ่านนักดนตรีวง อ.ส.วันศุกร์ ด้วย โดยการแสดงดนตรีครั้งประวัติศาสตร์นี้ จะมีขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายงานพิเศษ

หลังการเข้าร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของสมาชิกวงดนตรี “อ.ส.วันศุกร์” จำนวน 10 คน ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนนึกถึงวงดนตรีวงนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ในฐานะวงดนตรีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือวงดนตรีส่วนพระองค์ ที่ทรงเป็นหัวหน้าวงและทรงร่วมเล่นดนตรีกับวงนี้มาเป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว

แต่สิ่งที่ประชาชนอาจนึกไม่ถึง ก็คือ แม้จะทรงมีพระราชกรณียกิจมากมายเพียงใด หรือทรงมีพระชนมพรรษาเพิ่มมากขึ้นแล้ว หรือทรงมีพระอาการประชวรบ้างในบางครั้งบางคราว แต่ก็มิอาจบั่นทอนความโปรดปราน หรือความสนพระทัยในด้านดนตรีของพระองค์ลงได้แต่อย่างใด โดยยังทรงร่วมวงดนตรี และทรงเครื่องดนตรีกับวง อ.ส.วันศุกร์ อย่างสม่ำเสมอทุกวันเสาร์ของสัปดาห์ ที่พระราชวังสวนจิตรลดาบ้าง และที่พระราชวังไกลกังวลบ้าง

และแทบไม่น่าเชื่อว่า วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ ที่เคยแสดงแต่ในวัง จะได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้ออกมาแสดงให้ประชาชนได้รับชมเป็นครั้งแรกในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ศ.(พิเศษ) ดร.แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ ศิลปินแห่งชาติและสมาชิกวง อ.ส.วันศุกร์ เป็นผู้เปิดเผยเรื่องนี้หลังลงนามถวายพระพร ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ จัดแสดงดนตรีให้ประชาชนได้ชมในวันที่ 30 พ.ย.นี้ที่พระราชวังพญาไท ตามที่ชมรมคนรักวัง ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าภคนีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต โดยก่อนที่พระองค์จะทรงพระประชวรครั้งนี้ ก็ยังทรงควบคุมการฝึกซ้อมวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ และทรงแซกโซโฟนด้วยพระองค์เอง อาจารย์แมนรัตน์ ยังเผยด้วยว่า พระองค์ทรงชื่นชอบเพลงพระราชนิพนธ์ทั้ง 48 เพลง

ก่อนจะทราบรายละเอียดและที่มาที่ไปของงานแสดงดนตรีของวง อ.ส.วันศุกร์ ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ว่าเป็นอย่างไร ลองมาทำความรู้จักวงดนตรีส่วนพระองค์วงนี้ให้มากขึ้น รวมถึงพระปรีชาสามารถด้านการดนตรี และการประพันธ์เพลง ที่ไม่เพียงทรงรังสรรค์บทเพลงพระราชนิพนธ์ที่ทรงคุณค่าและความหมายมากมายหลายสิบเพลง แต่ยังเป็นบทเพลงที่สร้างความประทับใจทั้งแก่คนไทยและชาวต่างประเทศ

ก่อนจะเป็นวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตั้งวงดนตรี “ลายคราม” ขึ้นมาก่อน หลังเสด็จนิวัตประเทศไทยในปี พ.ศ.2494 โดยได้ทรงรวบรวมพระประยูรญาติบางองค์และคนสนิทมาเล่นดนตรีกัน หลังจากนั้น ปีต่อมา เมื่อกรมประชาสัมพันธ์ได้น้อมเกล้าฯ ถวายเครื่องส่งวิทยุกำลังส่ง 100 วัตต์ พระองค์จึงทรงตั้ง “สถานีวิทยุ อ.ส.” ขึ้นที่พระที่นั่งอัมพรสถาน ซึ่งคำว่า“อ.ส.” ก็ย่อมาจาก”พระที่นั่งอัมพรสถาน

เหตุที่ทรงตั้งสถานีวิทยุ อ.ส.ก็เพื่อเป็นสื่อกลางให้ความบันเทิง รวมทั้งให้ข่าวสารสาระประโยชน์แก่ประชาชน ต่อมาภายหลังเมื่อนักดนตรีวงลายครามเริ่มชราภาพมากขึ้นไม่สามารถร่วมเล่นดนตรีได้อย่างเต็มที่ พระองค์จึงทรงปรับปรุงวงดนตรีลายครามด้วยการโปรดเกล้าฯ ให้นักดนตรีหนุ่มๆ มาผสมวงร่วมเล่นกับวงลายคราม หลังจากนั้นได้พระราชทานชื่อวงใหม่ว่า “วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์”

พล.ท.ทพ.ทวีศักดิ์ ทวีศรี สมาชิกวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ ที่ถวายตัวเข้ามาร่วมเล่นดนตรีกับวงดนตรีส่วนพระองค์เป็นเวลา 40 กว่าปีแล้ว เล่าให้ฟังว่า เหตุที่ต้องเป็น อ.ส.วันศุกร์ ก็เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงร่วมบรรเลงกับสมาชิกของวงด้วย และออกอากาศทางสถานีวิทยุเป็นประจำทุกวันศุกร์นั่นเอง โดยทรงเปิดให้ประชาชนโทรศัพท์ขอเพลงได้ด้วย

“ที่เล่นวันศุกร์ เนื่องจากสมัยก่อน สถานีวิทยุ อ.ส.มีรายการเพลง เราก็จะซ้อมวันอาทิตย์ แล้วเราก็มาเล่นรายการสดทางวิทยุ อ.ส.วันศุกร์ พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงอยู่ด้วย สมัยก่อนก็มีคนขอเพลงเข้ามา แล้วก็เล่น แต่คนที่ขอคงไม่ทราบว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงดนตรีด้วย หรือบางคนเขาก็ทราบ เขาก็ขอเพลงมา และเราก็บรรเลงให้ฟัง”

ไม่เพียงวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ จะบรรเลงเพลงให้ประชาชนได้ฟังทางวิทยุ และทรงเปิดโอกาสให้พสกนิกรโทรศัพท์ขอเพลงได้ แต่หลายครั้งที่เกิดอุบัติภัยทำให้ราษฎรของพระองค์เดือดร้อน วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ ก็พร้อมจะเป็นที่พึ่งพิงของประชาชน เช่น กรณีเกิดเหตุการณ์วาตภัย “แหลมตะลุมพุก” ที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2505 ที่ยังผลให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ ก็ได้แสดงบทบาทด้วยการประกาศเชิญชวนประชาชนให้ช่วยกันบริจาคทรัพย์สิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากจะทรงเป็นผู้มีพระอัจฉริยภาพด้านการทรงเครื่องดนตรีได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นแซกโซโฟน, คลาริเนต, ทรัมเปต, เปียโน และกีตาร์แล้ว ยังทรงเป็นเลิศด้านการประพันธ์เพลงชนิดที่ชาวโลกต่างยอมรับในพระปรีชาสามารถด้วย บทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระองค์นั้น นอกจากจะมีมากมายหลายแบบหลายจังหวะ เช่น วอลทซ์, มาร์ช, แจ๊ส, บลูส์, ฟ็อกซ์ทร็อต ฯลฯ แล้ว ยังมีความหมายและมีความไพเราะแตกต่างกันไป หลายเพลงที่แม้จะมีความเศร้าเพราะเป็นเพลงบลูส์ แต่พระองค์ก็ทรงไม่ต้องการให้เศร้าอย่างเดียว แต่ต้องให้แง่คิดให้ความหวังแก่ผู้ฟังด้วย

เช่น เพลง “แสงเทียน” ซึ่งแม้จะเป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกที่ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อเดือน เม.ย.2489 แต่ก็มิได้โปรดเกล้าฯ ให้นำออกบรรเลงเป็นเพลงแรก เนื่องจากทรงมีพระราชประสงค์ที่จะทรงแก้ไขให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยทรงรู้สึกว่า เพลงแสงเทียนซึ่งเป็นเพลงบลูส์ยังมีความเศร้าเกินไป ดังเช่นคำร้องที่ว่า“ทนทรมานมามากแล้วจะกราบลา” จึงทรงต้องการให้เพลงนี้มีปรัชญาชีวิตว่า จะต่อสู้ต่อไปหรือยังมีความหวังอยู่ ดังจะเห็นได้จากคำร้องที่ว่า “ทำบุญทำทานกันไว้เถิดเกิดเป็นคน ไว้เตรียมผจญชีวิตใหม่...”

ขณะที่ เพลง “ยามเย็น” ซึ่งแม้จะเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับสอง ที่ทรงพระราชนิพนธ์หลังเพลงแสงเทียน แต่ก็นับเป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกที่ได้พระราชทานให้นำออกบรรเลง และด้วยเป็นเพลงในจังหวะฟ็อกซ์ทร็อต เหมาะสำหรับการเต้นรำของคนไทยในสมัยนั้น จึงเป็นเพลงที่ประทับใจพสกนิกรมากและได้รับความนิยมในทันที

แต่ถึงกระนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ได้ทรงมีพระราชดำรัสว่า แม้เพลงยามเย็นจะเป็นที่รู้จัก แต่ไม่โด่งดังเหมือนเพลง”สายฝน” ที่ทรงพระราชนิพนธ์ออกมาเป็นลำดับสาม โดยมีจังหวะวอลทซ์นุ่มนวล และน่าจะพูดได้ว่า เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ที่พสกนิกรชื่นชอบมากที่สุดเพลงหนึ่ง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเคยเล่าถึงความปีติยินดีที่เพลงสายฝนได้รับความนิยมอย่างมากว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ(ผู้ทรงนิพนธ์คำร้องภาษาไทยให้กับเพลงนี้ ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชนิพนธ์ทำนอง) ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อท่านไปเชียงใหม่หลังเพลงพระราชนิพนธ์สายฝนออกมาได้ประมาณ 6 เดือน ปรากฏว่า ขณะที่เดินเข้าไปในตรอกซอยเล็กๆ แห่งหนึ่ง ได้ยินคนผิวปากทำนองเพลงสายฝน เมื่อเดินไปถึงต้นเสียง พบว่า คนที่ผิวปากเป็นชาวจีนกำลังซักผ้าอยู่ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตรัสถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า นับว่าสายฝนนี้มีประสิทธิภาพสูงซักผ้าได้สะอาด...

นอกจากเพลงพระราชนิพนธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างเพลงแสงเทียน-ยามเย็น และสายฝนแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงมีพระราชประสงค์จะพระราชทานพรปีใหม่แก่พสกนิกรของพระองค์เป็นบทเพลง จึงเป็นที่มาของเพลงพระราชนิพนธ์”พรปีใหม่”ที่ได้พระราชทานแก่ประชาชนเมื่อปี 2494 ซึ่งได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน คงไม่มีปีใหม่ปีไหนที่คนไทยจะไม่ได้ยินเพลงนี้

นอกจากจะทรงให้พรปีใหม่แก่พสกนิกรผ่านบทเพลงแล้ว หลายครั้งที่บ้านเมืองต้องการความสมัครสมานสามัคคีหรือรวมพลังกันต่อสู้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระราชนิพนธ์เพลงแนวปลุกใจให้รักชาติบ้านเมืองหลายเพลงด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เพลง”เราสู้”,เพลง”แผ่นดินของเรา” หรือเพลง”ความฝันอันสูงสุด”ก็ปลุกใจคนไทยให้รักชาติได้ไม่แพ้กัน

เพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่เพียงเป็นที่ชื่นชอบของพสกนิกรชาวไทย แม้แต่ประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นนครแห่งดนตรีของโลกก็ยังประทับใจในบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระองค์เป็นอันมาก หลังจากได้อัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระองค์ไปบรรเลงเมื่อคราวที่พระองค์เสด็จฯ เยือนประเทศออสเตรียอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2507 โดยความประทับใจของชาวออสเตรียนั้น นอกจากแสดงออกด้วยการปรบมือให้อย่างยาวนานประมาณ 5-10 นาทีแล้ว สื่อประเทศออสเตรียยังเสนอข่าวยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ทรงเป็นกษัตริย์แห่งเอเชียพระองค์แรกที่ได้เสนอผลงานในนครแห่งดนตรีของโลกจนเป็นที่ประจักษ์ด้วย

ไม่เท่านั้น สถาบันการดนตรีและศิลปะการแสดงแห่งกรุงเวียนนา ยังได้ทูลเกล้าฯ ถวายประกาศนียบัตรเกียรติคุณชั้นสูงแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงดำรงตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ พร้อมทั้งจารึกพระปรมาภิไธยลงบนแผ่นหินสลักของสถาบัน นับเป็นชาวเอเชียพระองค์แรกที่ได้ทรงเป็นสมาชิกของสถาบันแห่งนี้

จากพระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพด้านดนตรี ทั้งในแง่ทรงเครื่องดนตรีและการประพันธ์เพลงที่ยกตัวอย่างมา รวมทั้งความพอพระราชหฤทัยและพระเกษมสำราญที่ได้ทรงดนตรีร่วมกับวง อ.ส.วันศุกร์ที่พระองค์ทรงตั้งขึ้น นับเป็นโอกาสอันดีสำหรับประชาชนชาวไทยที่จะได้มีโอกาสชมการบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์โดยสมาชิกวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ที่พระองค์ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ไปแสดงที่พระราชวังพญาไทในวันศุกร์ที่ 30 พ.ย.นี้ ตามที่ชมรมคนรักวังฯ ขอพระราชทานมา

พล.ท.นพ.ดำรงค์ ธนะชานันท์ กรรมการชมรมคนรักวังฯ และประธานกรรมการดำเนินงานครั้งนี้ เล่าให้ฟังถึงที่มาของการขอพระบรมราชานุญาตให้วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์มาแสดงที่พระราชวังพญาไทว่า เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผ่านวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ที่ไม่เคยมีการแสดงให้ประชาชนได้ชมมาก่อน

“ชมรมคนรักวังฯ เห็นว่า ก็มีหน่วยงานต่างๆ ได้พยายามที่จะเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านทุกเรื่อง เช่น การเกษตร การชลประทาน ดนตรีอะไรต่างๆ เรามีความเห็นว่า เรื่องส่วนพระองค์ของพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงดนตรี ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์รัก ทำมาตั้ง 50 ปีแล้ว และมีบุคคลกลุ่มหนึ่งซึ่งได้ถวายงาน เล่นดนตรีกับวงพระองค์ท่านทุกอาทิตย์เลย เป็นเวลา 40-50 ปี และคนเหล่านี้ก็เป็นเพื่อนกับผมก็มาเล่าให้ฟังถึงความน่ารักของพระเจ้าอยู่หัว ผมก็เลยตั้งไว้ว่า เราน่าจะเอาเรื่องส่วนพระองค์ที่พระองค์ทรงมีธรรมะพร้อมถ้วน คือมีความวิริยะอุตสาหะ มีขันติธรรมสูง ท่านเอานักดนตรีที่เป็นนักดนตรีสมัครเล่นหลายอาชีพ ทันตแพทย์ สถาปัตย์ฯ นักบัญชี บิสซิเนสแมนอะไรต่างๆ มาเล่นกับพระองค์ท่าน ซึ่งพระองค์ท่านเก่งมากเลยดนตรี ระดับโลกยัง recognize(ยอมรับ) พระองค์ท่าน ซึ่งจริงๆ ท่านจะเอานักดนตรีเก่งๆ มาร่วมเล่นกับท่านทุกอาทิตย์ก็ย่อมได้ใช่มั้ย แต่พระองค์ท่านพอเพียง พระเจ้าอยู่หัวให้นักดนตรีสมัครเล่นเริ่มมาเล่นกับท่าน พระองค์สอนด้วยเป็นครูที่ดีด้วย มีความอดทนอดกลั้น และสม่ำเสมอ มีวิริยะอุตสาหะ มีขันติธรรมสูงมาก เพราะฉะนั้นผมว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งซึ่งประชาชนน่าจะได้ทราบ”

พล.ท.นพ.ดำรงค์ ยังบอกด้วยว่า การจัดงานครั้งนี้ นอกจากเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว รายได้จากการจัดงานยังจะนำไปบูรณะพระราชวังพญาไทที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ด้วย ส่วนสาเหตุที่เลือกงานวันศุกร์ที่ 30 พ.ย.นั้น พล.ท.นพ.ดำรงค์ บอกว่า เพื่อให้เข้ากับวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์

“ที่เลือกวันศุกร์เพราะว่า วงดนตรี อ.ส.เรียกว่า วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ เพราะฉะนั้นเราก็เลือกในวันศุกร์ที่ 30 พ.ย. ก็ได้เตรียมงานมานานตามสมควรแล้ว และนักดนตรีก็มีหลายคนที่มาในครั้งนี้ และเราจำหน่ายบัตรในราคา 2,000 บาท ที่นั่งทั้งหมดมีประมาณ 600 ที่นั่ง ที่หน้าพระที่นั่งพิมานจักรี พระราชวังพญาไท ในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ เราก็คิดว่าผลงานอันนี้ก็อยากจะให้ทุกคนได้มีส่วนรับฟัง และเราก็ทำหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง หนังสือ “วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ ณ พระราชวังพญาไท” ในนั้นก็จะมีบทสัมภาษณ์นักดนตรีแต่ละคน เช่น ฯพณฯ อัสนี ปราโมช ,คุณแมนรัตน์ ศรีกรานนท์ ,คุณหมอทวีศักดิ์ ทวีศรี ,คุณถาวร เยาวขันธ์ ฯลฯ เราก็ไปสัมภาษณ์ แล้วก็เอามาเขียนเรื่องความน่ารักของพระองค์ท่านลงในหนังสือ นอกจากนั้นหนังสือนี้ก็จะมีเพลงทั้งหมด 12 เพลง ที่จะนำมาเล่น และไม่ใช่เราจะมาฟังดนตรีเฉยๆ เราจะมีพิธีกรสัมภาษณ์นักดนตรีสดๆ เลยว่า เพลงนี้เบื้องหลังอย่างไรพระองค์ท่านมีพระอารมณ์ขันอย่างไรบ้าง ก็จะพูดกันต่อหน้าคนฟัง อันนี้เป็นไฮไลต์”

ด้าน พล.ท.ทพ.ทวีศักดิ์ ทวีศรี สมาชิกวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์(มือเป่าทรัมเป็ต) แย้มความประทับใจในพระอัจริยภาพด้านดนตรี รวมทั้งพระอารมณ์ขันของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวระหว่างที่เคยทรงร่วมเล่นดนตรีกับวง อ.ส.วันศุกร์ในช่วงที่ผ่านมาให้ฟัง

“ความประทับใจคือ พระเจ้าอยู่หัวท่านอัจฉริยะนะ เครื่องดนตรีทุกเครื่องท่านทรงได้ และเสียง สมมติว่าใครเป่าผิดเป่าอะไร ท่านจะทรงทราบหมด และท่านก็ทรงสอนพวกเรา ระหว่างซ้อม พระองค์ก็จะบอกหมอ..เป่าผิดนะ ขาดโน้ต กดเสียงผิดครึ่งเสียงอะไรอย่างนี้ ท่านก็จะทรงสอนพวกเราทุกคนว่า สิ่งที่เราเล่นนั้นบกพร่องอะไร แล้วเราก็แก้ไข (ถาม-ช่วยยกตัวอย่างพระอารมณ์ขันของพระองค์ระหว่างทรงดนตรีให้ฟังบ้างได้มั้ย?) พระอารมณ์ขันของพระองค์ก็มี เป็นต้นว่า อย่างผมเป็นคนที่แปลก เวลาเล่น ตัวเองจะฟังไม่ออก เวลาเป่า เสียงต่ำเพี้ยนสูง สูงเพี้ยนต่ำ ตัวเองฟังไม่ออก แต่เมื่อจบปุ๊บ ท่านจะหันมาบอกว่า “หมอเนี่ยไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง” ก็สะดุ้งพอสมควร คำว่า”ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง”ก็หมายความว่า ไม่รู้ว่าสูงเพี้ยนต่ำ-ต่ำเพี้ยนสูง”

นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความประทับใจในพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีและพระอารมณ์ขันของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้เคยตรัสอย่างเป็นกันเองกับนักดนตรีในวง อ.ส.วันศุกร์ หากต้องการฟังความประทับใจและพระอารมณ์ขันของพระองค์มากกว่านี้ รวมถึงเบื้องหลังของเพลงพระราชนิพนธ์ต่างๆ คงต้องติดตามอีกครั้งจากการแสดงของวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.นี้ เวลา 19.00น. ที่พระราชวังพญาไท โดยวันดังกล่าว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ ร่วมชมการแสดงครั้งประวัติศาสตร์นี้ด้วย!!

* หมายเหตุ * - ชมรมคนรักวังฯ จะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการแสดงดนตรีของวง อ.ส.วันศุกร์ ในวันจันทร์ที่ 29 ต.ค.นี้ เวลา 14.00น. ที่พระราชวังพญาไท

เรื่อง....อมรรัตน์ ล้อถิรธร
กำลังโหลดความคิดเห็น