ตัวแทนข้าราชการพลเรือนทหารเรือในขบวนเรือพยุหยาตราชลมารค ถวายผ้าพระกฐินวัดอรุณราชวราราม, 12 กงสุลกิตติมศักดิ์ เดินลงนามถวายพระพร-สำนักพระราชวังจัดจุดลงนามถวายพระพรพระพี่นางฯ
เมื่อเวลา 09.40 น.นายวัชรินทร์ พลับแก้ว อายุ 56 ปี นายท้ายเรือ “เสือคำรณสินธุ์” และนายสายชล เกตุกุล อายุ 60 ปี นายท้ายเรือแซง “แซงห้า” ตัวแทนข้าราชการพลเรือนทหารเรือในขบวนเรือพยุหยาตราชลมารค ถวายผ้าพระกฐินวัดอรุณราชวราราม เดินทางมาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายวัชรินทร์กล่าวว่า ขบวนเรือจะมีการซ้อมใหญ่ ในวันนี้ เวลา 15.23 น.ซึ่งเป็นการซ้อมใหญ่ครั้งแรก การซ้อมใหญ่จะมีทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคม และในครั้งที่ 3 จะจัดขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายน โดยตามกำหนดการเดิม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค วันที่ 5 พฤศจิกายน โดยจะเริ่มเคลื่อนขบวนจากท่าวาสุกรีไปถึงวัดอรุณ ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 45 นาที
“ขณะนี้การเตรียมความพร้อมในการซ้อมถือว่า อยู่ในระดับ 100% แล้ว มั่นใจว่า วันที่ 5 พ.ย.นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีพระพลานามัยดีขึ้น และเสด็จพระราชดำเนินได้ โดยข้าราชการกองทัพเรือทุกคนดีใจที่ทรงแข็งแรงขึ้น และเสด็จพระราชดำเนินในวันที่ 5 นี้ได้แน่นอน
เวลา 09.56 น. นายถิรชัย วุฒิธรรม ประธานมูลนิธินักฟุตบอลทีมชาติไทย นำคณะอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยเดินทางมาลงนามถวายพระพรในหลวง โดยซิโก้ - เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นักฟุตบอลชื่อดัง กล่าวว่า จริงๆ ในวันนี้เดินทางมาในฐานะตัวแทนมูลนิธิ ซึ่งนักกีฬาทุกคนเป็นห่วงพระองค์ จึงร่วมใจกันเดินทางมาถวายพระพรให้ทรงหายจากพระอาการประชวร และร่วมกันตั้งจิตอธิษฐาน คณะนักกีฬาก็มีความพร้อมแข่งกีฬาซีเกมส์ ทุกคนตั้งใจที่จะสร้างผลงานที่ดี คว้าเหรียญทองถวายแด่พระองค์ท่านและประเทศชาติ
“ทราบข่าวพระอาการประชวรของสมเด็จพระพี่นางฯ รู้สึกตกใจ อยากให้พระองค์ทรงหายประชวรโดยเร็ว ซึ่งพระบรมวงศ์ทุกพระองค์ ทรงงานหนักเพื่อประชาชน”
เมื่อเวลา 10.05 น.นายศรีภูมิ ศุขเนตร ประธานคณะกงสุลกิตติมศักดิ์แห่งประเทศไทยนำคณะกงสุลกิตติมศักดิ์จำนวน 12 ประเทศ ได้แก่ โมนาโก, เอสโตเนีย, เยเมน, สโลวาเนีย, กานา, ซีเรีย, นามิเบีย, ปานามา, ซูดาน, ซิมบับเว, เบนิน, มอลตา ได้นำแจกันและพานพุ่มมาทูลเกล้าฯถวาย และร่วมลงนามถวายพระพร ด้าน นายศรีภูมิ กล่าวว่า ได้รวบรวมกงสุลกิตติมศักดิ์จากประเทศต่างๆ ที่ไม่ได้สร้างสถานกงสุลในประเทศไทย เพื่อเป็นตัวแทนแต่ละประเทศมาลงนามถวายพระพร ซึ่งพระเกียรติของพระเจ้าอยู่หัว ได้ปรากฏพระบารมีไปทั่วทุกสารทิศ และรวมไปถึงความสัมพันธ์อันดีในหมู่ประเทศเหล่านี้ที่มีต่อประเทศไทย เมื่อทราบข่าวว่าพระอาการดีขึ้น ทุกคนก็รู้สึกดีใจ ถวายพระพรให้ทรงเป็นมิ่งขวัญต่อปวงชนชาวไทย ตราบนานเท่านาน โดยหลังจากกงสุลกิตติมศักดิ์แต่ละประเทศลงนามถวายพระพรแล้ว จะนำความดีที่พระอาการดีขึ้น ไปนำเสนอให้แก่ประเทศของตนได้ทราบ
10.30 น.สำนักพระราชวัง ได้จัดโต๊ะสำหรับลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่บริเวณโถงศาลาอาคาร 100 ปี โดยจุดลงนามอยู่ที่แถวแรกของทุกโต๊ะลงนาม โดยมีสมุดลงนามถวายพระพรต่างหากแยกกับสมุดลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ล่าสุด สำนักพระราชวังได้จัดให้ประชาชนถวายพระพรในหลวง ลงนามที่ใต้โถงศิริราช 100 ปี ด้านซ้าย และจัดโต๊ะลงนามถวายพระพรพระพี่นางฯ ด้านฝั่งขวามือ โดยประชาชนก็เดินทางมาลงนามถวายพระพรทั้งสองพระองค์เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ เวลา 11.30 น.พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าคณะพราหมณ์ประจำสำนักพระราชวัง เดินทางมาลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยพระราชครู เปิดเผยว่า จะทำพิธีทางพราหมณ์ในการสวดถวายพระพรพร้อมอธิษฐานจิตให้พระพี่นางฯ ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง โดยประชาชนสามารถร่วมตั้งจิตอธิษฐานได้ทุกที่ทุกเวลา
จากนั้น เวลา 11.40 น.นายโอ ยัง ซัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) เดินทางมาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้สอบถามพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่ามีพระอาการอย่างไร ฝ่ายสำนักพระราชวังได้แจ้งว่าพระอาการดีขึ้น นายโอ ยัง ซัน ถวายพระพรว่าขอให้พระอาการดีขึ้นโดยเร็ววัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.30 น.พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ โปรดให้ผู้แทนพระองค์เชิญแจกันดอกไม้มาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รวมถึงผู้อำนวยการโรงเรียนราชินี และราชินีมูลนิธิได้นำดอกไม้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายด้วย
