ศธ.ล้อมคอกหลังพบนักเรียนนอกเรียนไม่จบหลักสูตรจำนวนมาก และนำวุฒิปลอม 39 รายมายื่นเพื่อขอเรียนต่อในประเทศ สพฐ.เช็กข้อมูลรายคนกันถูกย้อมแมว เพราะมีแนวโน้มเด็กขอกลับมาเรียนต่อในไทยเพียบ
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดำเนินการปรับปรุงการ เทียบโอนผลการเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานและเทียบวุฒิการศึกษา เสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้นักเรียนที่ศึกษาต่างประเทศที่ต้องการเดินทางกลับมาศึกษาต่อเมืองไทยนั้น เทียบโอนหรือเทียบวุฒิการศึกษาได้สะดวกรวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีนักเรียน นักศึกษา เดินทางไปศึกษาต่างประเทศจำนวนมาก และแต่ละประเทศมีมาตรฐานแตกต่างกัน แล้วนักเรียนบางรายเรียนไฮสคูล บางรายเรียนวิชาชีพ เมื่อจะเดินทางกลับมาเรียนต่อในประเทศจึงต้องมีการเทียบวุฒิการศึกษา หรือเทียบโอนเป็นรายคนว่า เรียนอยู่ระดับไหน โดยนักเรียนจะมายื่นขอเทียบโอนหรือเทียบวุฒิได้ที่สำนักทดสอบทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จากนั้นสำนักทดสอบฯจะออกใบรับรองให้เพื่อนำไปสมัครเรียนก่อน พร้อมทั้งเช็คข้อมูลว่านักเรียนคนนี้เรียนจากโรงเรียนนี้จริงหรือเปล่า หากว่าเรียนจบจริงก็จะส่งผลการเทียบโอนหรือเทียบวุฒิการศึกษา ไปยังสถานศึกษาที่นักเรียนคนนั้นไปสมัครเรียน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเช็กข้อมูลไปยังโรงเรียนตามที่ระบุ พบว่ามีนักเรียนบางคนไม่จบจริง คือเรียนไม่ครบหลักสูตรตามที่กำหนด อีกทั้งพบว่ามีบางคนไม่เคยเรียนเลย โดยนำวุฒิปลอมมายื่น 39 ราย เมื่อมีเหตุการณ์ดังกล่าว ทาง สพฐ.ต้องกวดขันเรื่องนี้ เพราะปีนี้มีนักเรียนมาขอเทียบโอนและเทียบวุฒิเกือบ 1 พันราย ขณะที่ปีที่ผ่านมามี 700 กว่าราย และคาดว่าแนวโน้มปีต่อๆ ไปจะมีนักเรียนมายื่นเพิ่มขึ้น
“แต่ก็มีผู้ปกครอง นักเรียน และสถานศึกษา ร้องเรียนว่า สพฐ. ตรวจสอบการเทียบโอนและวุฒิช้า จริงๆ เจ้าหน้าที่พยายามทำให้เร็วที่สุด ที่ล่าช้าไปบ้าง เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการเช็คข้อมูลกลับไปยังโรงเรียน และกว่าทางโรงเรียนจะส่งข้อมูลกลับมาให้ อย่างไรก็ตาม สพฐ.ตั้งเป้าไว้ว่าจะไม่ให้เกิน 2 สัปดาห์” คุณหญิงกษมา กล่าว และว่าในรายที่เรียนไม่ครบก็ต้องหาวิธีให้เด็กไปเรียนให้ครบอาจแนะนำไปเรียนที่ กศน. พอเรียนจบแล้วค่อยไปสมัครเรียนต่อ
ด้านแหล่งข่าวกล่าวว่า ที่ผ่านมาพ่อแม่นิยมส่งลูกไปเรียนต่างประเทศตามกระแส และอยากให้ลูกได้ภาษา พอเรียนไประยะหนึ่งเกิดมีปัญหาด้านการเงินก็ต้องนำลูกกลับมาเรียนเมืองไทย หรือเด็กบางรายคิดถึงบ้าน และเรียนไม่ไหว ซึ่งเด็กที่จะกลับมาเรียนในไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย เพราะเมื่อประมาณ 3-5 ปีที่ผ่านมา มีเด็กเดินทางยังประเทศต่างๆ จำนวนมาก