xs
xsm
sm
md
lg

เผยผลวิจัย “ฝังเข็ม” รักษาฝ้า “มศว” ชี้ทางเลือกใหม่ไม่ต้องใช้ยา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“มศว” เผยหญิงไทยประสบปัญหาเรื่อง “ฝ้า” มากกว่าผู้หญิงประเทศอื่น แถมยังไม่มีวิธีรักษาใดที่ให้ผลดีที่สุด ระบุขณะนี้ได้วิจัยใช้การฝังเข็มปรับสมดุลในร่างกาย ชี้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ไม่ต้องการใช้ยา

พญ.สายชลี ทาบโลกา นิสิตปริญญาโทสาขาวิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยถึงงานวิจัยเรื่องการศึกษาประสิทธิผลของการรักษาฝ้าด้วยการฝังเข็มเปรียบเทียบกับยา Hydroquinone 3% ว่า ในปัจจุบันนี้ผู้หญิงวัยกลางหรือแม่กระทั่งผู้ชายเองเกือบทุกเชื้อชาติต่างประสบปัญหาฝ้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งต้นกำเนิดฝ้าที่แน่นอนยังไม่มีข้อมูลว่าเกิดจากอะไรกันแน่ หากแต่เชื่อว่าเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ที่ไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ที่สังเคราะห์เม็ดสีในชั้นหนังกำพร้า โดยมีปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือรังสีอัลตราไวโอเลตเอ บี รวมทั้งแสงธรรมดาๆ ก็ล้วนแล้วก็เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้มากขึ้น

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้หญิงไทยจะประสบปัญหาฝ้ามากกว่าผู้หญิงในประเทศอื่นๆ เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่แสงแดดส่องตลอดทั้งปี ขณะที่การรักษาก็ยังไม่มีวิธีการใดที่ได้ผลที่ดีสีที่สุดและยังมีผลข้างเคียง อีกทั้งฝ้าก็มีโอกาสเกิดซ้ำ

สำหรับหลักการรักษา ในปัจจุบันแพทย์โรคผิวหนังจะใช้หลายวิธี โดยจะพยายามให้ผู้ที่มารักษาฝ้านั้นหลีกเลี่ยงสาเหตุการเกิดฝ้า นอกจากนี้ยังแนะนำให้ใช้ยากันแดด หรือใช้ยาลอกหน้า และยังมียาอีกหลายชนิดที่สามารถใช้รักษาได้ แต่ในงานวิจัยชิ้นนี้ใช้ยาไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) 3% เพื่อเปรียบเทียบกับการฝังเข็ม

พญ.สายชล กล่าวอีกว่า การฝังเข็มเป็นการใช้หลักการแพทย์แผนจีน เป็นการเจาะใช้เข็มเจาะหรือฝังตามผิวหนังเพื่อป้องกันและรักษาโรค โดยผู้ที่มารักษาฝ้าจะรู้สึกตื้อๆ หนักๆ หรือเสียวบริเวณที่ถูกเข็มปัก และใช้การปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านเข็มเข้าสู่ร่างกาย เพื่อช่วยในการกระตุ้นเข็มปรับสมดุลการทำงานของร่างกาย การไหลเวียนเลือดและลมปราณ ซึ่งแนวทางการฝังเข็มเพื่อรักษาฝ้าถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในผู้ป่วยที่ไม่ต้องการใช้ยา

สำหรับผู้สนใจที่ต้องการรักษาฝ้าด้วยวิธีการฝังเข็ม สามารถติดต่อได้ที่คลินิกศูนย์ผิวหนัง มศว โทร.0-2649-5000 ต่อ 5417
กำลังโหลดความคิดเห็น