xs
xsm
sm
md
lg

สมเด็จพระเทพฯ ทรงแนะปรับหลักสูตรยุวกาชาดให้ทันสมัยน่าเรียนรู้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำรัสให้สภากาชาดไทยร่วมกับ ศธ.สนับสนุนกิจการยุวกาชาด ทรงแนะดำเนินการ 6 ประการ เน้นความรู้สุขภาพอนามัยโภชนาการ เพศศึกษา ยุวเกษตรกร พี่เลี้ยงเด็ก และมีกระแสรับสั่งให้ปรับปรุงหลักสูตรยุวกาชาดให้ทันสมัยและน่าเรียน กระตุ้นให้นักเรียนชายสนใจเรียนยุวกาชาดมากขึ้น ด้าน คกก.บริหารยุวกาชาดรับสนองพระราชดำรัส เตรียมปรับหลักสูตร

นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังได้ร่วมกับคณะผู้บริหาร ศธ.ประชุมร่วมกับ ศาสตราภิธาน นพ.พินิจ กุลละวณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย วันนี้ (1 ต.ค.) ว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราข้อบังคับสภากาชาดไทย โดยยกเลิกข้อบังคับ หมวดที่ 9 แห่งข้อบังคับสภากาชาดไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 50) พุทธศักราช 2536 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2536 และใช้ข้อบังคับใหม่แทนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ให้กิจการยุวกาชาดอยู่ในความดูแลและกำกับทั่วไปของสภากาชาดไทย มี ศธ.เป็นหน่วยงานที่ให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและมีคณะกรรมการบริหารยุวกาชาด 6 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการบริหารยุวกาชาด มีเลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรองประธาน คณะกรรมการยุวกาชาดกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการยุวกาชาดจังหวัด คณะกรรมการยุวกาชาดเขตพื้นที่การศึกษา คณะกรรมการยุวกาชาดในสถานศึกษา และคณะกรรมการอาสายุวกาชาด

นางจรวยพร กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมแจ้งว่าการประชุมคณะกรรมการสภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์อุปนายิกาสภากาชาดไทย ประธานที่ประชุม ทรงมีพระราชดำรัสให้สภากาชาดไทย และ ศธ.ร่วมกันสนับสนุน 6 ประการดังนี้

1.ให้เน้นความรู้สุขภาพอนามัยให้ดูแลตนเองและผู้อื่นที่เป็นรูปธรรม เช่น ยุวกาชาด ชั้น ป.4 สามารถนำนมผงมาชงละลายน้ำและใช้เลี้ยงน้องได้ 2.ความรู้ด้านโภชนาการที่ถูกต้อง เช่น เรื่องสารอาหารไอโอดีน เรื่องการป้องกันพยาธิ 3.เรื่องเพศศึกษา ให้นำสู่การจัดทำหลักสูตรและฝึกอบรม 4.เรื่องยุวเกษตรกร 5.วิชาพี่เลี้ยงเด็ก และ 6.ให้ปรับปรุงหลักสูตรยุวกาชาดให้ทันสมัยและน่าเรียน กระตุ้นให้นักเรียนชายหันมาสนใจเรียนยุวกาชาดมากขึ้น

ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า ดังนั้น คณะกรรมการบริหารยุวกาชาด ตกลงร่วมมือกันว่าจะปรับปรุงหลักสูตรยุวกาชาดในสถานศึกษาให้ทันสมัยและทันเหตุการณ์ ตั้งคณะทำงานผลิตสื่อการเรียน การสอนและกิจกรรมในรูป E-Book การนำเสนอในรูปแบบคำถามและตอบ 20 คำถามหลักที่เป็นหัวใจการเรียนรู้ ให้ทดลองฝึกอบรมเทคนิคการสอดแทรกเรื่องสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศเพื่อสร้างเสริมสันติภาพและป้องกันความขัดแย้งโดยใช้หลักสูตรของสากล ซึ่งสภากาชาดไทยได้แปลเป็นไทยและมีชุดฝึกอบรมแล้ว จัดทำแผนงานและกิจกรรมประจำปี 2551 โดยเน้นขยายกิจกรรมยุวกาชาดลงสู่สมาชิกชมรมยุวกาชาด การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) โดยทำร่วมกับ กศน.ให้เข้มแข็งจริงจังมากขึ้น ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารยุวกาชาด จะจัดทำรายละเอียดและเข้าเฝ้าฯ เพื่อขอพระราชทานแนวพระราชดำริจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์อุปนายิกา สภากาชาดไทยต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น