xs
xsm
sm
md
lg

สาวออฟฟิศหน้าใส ...กิ๊ง ด้วยเศรษฐกิจพอเพียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แดดแรง ฝุ่นควันพิษ การจราจรติดขัดพาหงุดหงิดใจ ไหนจะปัญหาในที่ทำงานที่ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวใบหน้าหารอยยิ้มไม่เจอ...สารพัด สารพัน ปัจจัยที่ทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าทวีจำนวนมากขึ้นจนน่าตกใจ แต่ “สาวออฟฟิศอย่างดั๊นหน้าใสกิ๊งได้ ด้วยเศรษฐกิจพอเพียง”

เคล็ดลับหน้าใสนี้ ได้มาจากวงเสวนา “สาวออฟฟิศอย่างดั๊นหน้าใสกิ๊งได้ ด้วยเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งจัดโดยโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท เพื่อให้ความรู้กับสาวๆ ออฟฟิศที่อยากจะมีใบหน้าสวยใส โดยไม่ต้องเจ็บตัวพึ่งมีดหมอทำศัลยกรรม

สำหรับสาเหตุของความเหี่ยวย่นบนใบหน้านั้น พ.ญ.เรขา กลลดาเรืองไกร จิตแพทย์โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ระบุว่า มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งอารมณ์ ความเครียดที่ส่งผลให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า รวมถึงแสงแดดตัวร้ายที่นอกจากทำให้ใบหน้าแก่ก่อนวัยแล้ว ยังทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ที่สำคัญมลพิษทั้งฝุ่นและควันรถล้วนส่งผลให้ผิวหน้าปรากฏร่องรอยลึกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่เพียงแต่แสงแดดแต่แสงจากจอคอมพิวเตอร์ หรือจากหลอดไฟล้วนทำให้สาวออฟฟิศใบหน้าไม่ใส ยิ่งทำงานอยู่ในห้องแอร์ก็จะทำให้สภาพผิวแห้งอีกด้วย

ส่วนการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่ พ.ญ.เขรา แนะนำให้สาวออฟฟิศนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพและใบหน้าให้สวยใสนั้น คุณหมอแนะนำว่า ควรทานอาหารครบ 5 ดื่มน้ำเปล่า เช่น น้ำต้ม หรือน้ำกรองช่วยให้ร่างกายขับถ่ายของเสียดีขึ้น การเผาผลาญอาหารดีขึ้น ร่างกายได้น้ำเพียงพอเซลล์ไม่แห้ง ผิวหนังก็ไม่แห้ง ผิวหนังประกอบด้วยเซลล์ ความยืดหยุ่นดี

รับประทานแค่อิ่ม เมื่ออิ่มแล้วก็หยุด ไม่ใช่ว่าท้องอิ่มแล้ว แต่ปากยังอยากอยู่ก็รับประทานต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งการรับประทานแค่อิ่ม ก็คือ “ความพอประมาณ” ในหลักเศรษฐกิจพอเพียงนั่นเอง ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพแล้ว ยังไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการซื้อของกินด้วย

การเที่ยวกลางคืนอันเป็นสาเหตุหนึ่งของริ้วรอยแก่เกินวัย คุณหมอก็ขอให้สาวออฟฟิศทั้งหลายหยุดการเที่ยวดึก(หากไม่จำเป็น) เพราะการไปอยู่ในสถานที่บันเทิงในยามค่ำคืนนั้น นอกจากจะพักผ่อนไม่เพียงพอแล้ว สาวๆ ยังต้องเผชิญกับควันบุหรี่ในสถานที่แออัด แอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มมึนเมา ทำให้เซลล์แห้ง เหี่ยว ก่อให้เกิดริ้วรอยเกินวัย

“เมื่อหยุดเที่ยวดึก ร่างกายก็ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ เมื่อพักผ่อนเพียงพอ หน้าก็ไม่โทรม เราก็ไม่ต้องเสียเงินไปเข้าคอร์สทำหน้า นี่คือ ความมีเหตุผล ในหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พ.ญ.เรขา กล่าวอีกว่า หลักอีกประการคือ “การมีภูมิคุ้มกันที่ดี” ซึ่งสาวในออฟฟิศส่วนใหญ่ล้วนเสียเงินซื้อเครื่องสำอางเพื่อบำรุงผิวหน้า หากสาวๆ มีภูมิคุ้มกัน รู้จักเลือกรับประทานอาหาร พักผ่อนอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงการไปอยู่ในสถานที่อโคจร หรือการเสพของมึนเมา ได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สาวๆ ก็จะมีร่างกายที่แข็งแรง ใบหน้าสดใส เงินที่เคยไหลออกจากกระเป๋าให้กับสถานเสริมความงามก็ไม่จำเป็นอีกไป

ส่วน “กินรี ดาร์ริงตัน” ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บ.ดับเบิล อิมแพค มาร์เก็ตติ้ง คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด สาวออฟฟิศที่นำเอาหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพตนเองอย่างได้ผล ให้ข้อแนะนำว่า การดูแลสุขภาพนั้นต้องไม่สุดโต่งเกินไป แม้แสงแดดจะทำให้เกิดริ้วรอยแต่แสงแดดก็มีประโยชน์ ดังนั้น แม้ตัวเองจะหลีกเลี่ยงการออกแดดแรงๆ แต่ก็ไม่ถึงกับไม่ยอมโดนแดดเลย โดยก่อนออกจากบ้านจะใช้ครีมกันแดดทาผิวหน้าก่อน ซึ่งครีมกันแดดที่ใช้นั้นก็ซื้อหาจากซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป

“เครื่องสำอางหรือครีมบำรุงผิวที่ใช้ส่วนใหญ่ จะเลือกดูที่คุณภาพ แต่ไม่ได้พิจารณาว่ายี่ห้ออะไร มาจากประเทศไหน แต่เราจะดูว่าผลิตภัณฑ์แต่ละตัวมีสารประกอบอะไร สารประกอบแต่ละตัวให้ผลอย่างไรกับผิว และเราต้องการคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์แบบไหน นำมาเปรียบเทียบกัน อย่างครีมกันแดดที่ใช้อยู่ราคาไม่กี่ร้อยบาท แต่ที่สำคัญคือ เราควรจะศึกษาไว้บ้างว่า เครื่องสำอางค์แต่ละชนิดมีสารอะไรบ้าง สารแต่ละชนิดออกฤทธิ์อย่างไร เพื่อจะได้มีข้อมูลในการตัดสินใจอย่างคุ้มค่าที่สุด หรือจะบอกว่าเราศึกษาเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อเครื่องสำอางค์จากเมืองนอกราคาหลายพัน หรืออาจจะเป็นหมื่น ทั้งๆ ที่มีสารประกอบเหมือนๆ กับผลิตภัณฑ์ของไทย”

พ.ญ.เรขา
ได้เสริมด้วยว่า สำหรับครีมกันแดดนั้น มีส่วนในการช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า โดยเฉพาะเมืองไทยมีแดดแทบทั้งวัน ซึ่งครีมกันแดดที่ใช้นั้น ควรเลือกที่มีค่า SPF 40 เท่านั้น เพราะครีมกันแดดจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุดที่ค่า SPF 40 ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF มากกว่านี้ ไม่ได้ให้ประสิทธิภาพมากไปกว่า SPF 40 มีเพียงแค่ราคาเท่านั้นที่เพิ่มขึ้น

สิ่งที่ กินรี พิถีพิถันพอๆ กับการเลือกใช้เครื่องสำอางค์ คืออาหารการกิน เพราะเธอเชื่อมั่นว่าอะไรที่เข้าสู่ร่างกายเรา มีผลต่อสุขภาพของเราโดยตรง ดังนั้น เธอจึงเลือกสรรอาหารที่ให้คุณค่าครบ 5 หมู่ รวมถึงศึกษาหาความรู้ด้วยว่า อาหาร หรือ ผัก ผลไม้แต่ละชนิด ให้ให้ผลต่อสุขภาพร่างกายอย่างไร ที่สำคัญคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งปัจจุบันกินรีฝึกมวยไชยาอยู่ด้วย

ส่วน ม.ล.จันทนิภา เกษมศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โรงแรมแลนด์มาร์ค(กรุงเทพฯ) เปิดเผยเคล็ดลับสำหรับสาวออฟฟิศที่อาจจะมีปัญหา ไม่ชอบกินผักเหมือนกับเธอว่า เคล็ดลับการกินผักซึ่งเธอไม่ “โปรด”สักเท่าไหร่นั้น จะใช้วิธีสกัดเอาน้ำผัก ร่วมกับผลไม้อื่นๆ ดื่มแทนการกินผักสด และเลือกที่จะกินผักที่ชอบบางชนิดทดแทน ซึ่ง ม.ล.จันทนิภา ยอมรับว่ามีบ้างที่เธอกินวิตามินเสริม เนื่องจากต้องทำงานหนัก บางครั้งทำให้ร่างกายอ่อนเพลียก็จะกินวิตามินเสริมบ้าง แต่วิตามินเม็ดจะกินเฉพาะเวลาจำเป็นเท่านั้น สิ่งที่สำคัญกว่า คือการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่

“การทำงานอยู่ในออฟฟิศเป็นเวลานาน อาจทำให้เรารู้สึก เหนื่อย หรือเพลีย ดังนั้น เราจึงควรหาเวลาว่างออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ และออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งบ้าง ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้น”

ม.ล.จันทนิภา ยังบอกด้วยว่า สมุนไพรไทยหลายตัวให้ผลในการบำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพมากกว่าผลิตภัณฑ์เสริมความงามจากต่างประเทศเสียอีก โดยปัจจุบันเธอจะใช้มะขามเปียกแช่น้ำสำหรับขัดผิวกาย และผิวหน้า สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ซึ่งนอกจากเป็นวิธีธรรมชาติและประหยัดแล้ว เธอยืนยันว่ารู้สึกได้ทันทีว่าผิวนุ่มขึ้นหลังขัดผิวด้วยน้ำมะขาม

หลัก “พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันที่ดี” ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับทุกเรื่อง...ไม่เว้นแม้แต่เรื่องความสวยความงาม








กำลังโหลดความคิดเห็น