xs
xsm
sm
md
lg

ร.ร.โสมาภานุสสรณ์ ต่อยอดธนาคารความดีสู่ต้นกล้าคุณธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไหว้พระก่อนเข้าสู่เนื้อหา
"จุดเริ่มต้นของการบ่มเพาะที่ดี จะทำให้ได้ต้นกล้าที่มีคุณภาพ”

คำเปรียบเปรยนี้ยังคงใช้ได้อยู่กับสังคมไทยปัจจุบัน เพราะถ้าเปรียบเด็กเป็นต้นกล้า ผู้ใหญ่ก็คือเกษตรกรที่คอยรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ให้ต้นกล้าเหล่านั้นเจริญงอกงามไปเป็นต้นไม้ที่สูงใหญ่ แข็งแรง ทนต่อคลื่นแรงลม แต่จะมีสักกี่โรงเพาะชำที่ให้การดูแล ปลูกฝังต้นกล้า เพื่อเป็นต้นไม่ใหญ่ที่แข็งแรง มีคุณค่าในอนาคต


โรงเพาะชำที่ว่าก็คือโรงเรียน ซึ่งมีหน้าที่ในการให้ความรู้และปลูกฝังเด็กๆให้เป็นเยาวชนที่ดีของชาติ เพื่อให้ได้โรงบ่มเพาะที่ดี ด้วยเหตุดังกล่าว “โครงการต้นกล้าคุณธรรม” จึงเกิดขึ้นภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงศึกษาธิการและกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อคัดเลือกโรงเรียนที่เน้นการเรียนการสอนแบบบูรณาการ นั่นคือ สอนทั้งที่เป็นวิชาการ และความเข้าใจในหลักศาสนา เพื่อให้เด็กๆนำไปปฏิบัติและดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

วันนี้....มีตัวอย่างจากหนึ่งในโรงเรียนที่ได้รับการคัดเลือกในเขตพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลจากทั้งหมด 262 โรงเรียน ซึ่งได้รับรางวัลสถานศึกษาขนาดใหญ่ส่งเสริมคุณธรรมต้นแบบดีเด่นระดับภาคประจำปี 2549 นั่นคือ โรงเรียนโสมาภานุสสรณ์ เขตบางกะปิ

ทั้งนี้ โรงเรียนดังกล่าวเน้นการเรียนการสอนแบบบูรณาการทั้งทางวิชาการและเสริมสร้างคุณธรรมให้กับนักเรียน จะเห็นได้จากโครงการ ธนาคารความดี ที่ขณะนี้ก็ได้มีหลายโรงเรียนนำไปปฏิบัติตามและต่อยอดจนเกิดผลต่อจิตสำนึกที่ดีของเยาวชน

**ห้องเรียนคุณธรรมจริยธรรม
ภาพที่อยู่เบื้องหน้าตอนนี้คือเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กำลังเดินเข่าเข้าห้องเรียนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย จากนั้นก็ไหว้พระและสวดมนต์ เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่บทเรียน แต่ห้องเรียนที่เด็กๆ กำลังเข้าเรียนนี้ไม่ใช่ห้องเรียนธรรมดา หากเป็นห้องเรียนคุณธรรมจริยธรรม ที่มี “พระไทวัฒน์ กิตฺติวฒฺฑโน” จากวัดศรีบุญเรือง เป็นผู้สอน

พระไทวัฒน์เล่าว่า มาสอนที่โรงเรียนนี้เป็นเวลา 6 ปีแล้ว ซึ่งก็เห็นถึงวิวัฒนาการของเด็กที่มีต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี สำรหับรูปแบบการเรียนการสอนนั้นไม่ได้เน้นแต่เพียงพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า แต่ยังสอนให้เป็นคนที่มีจิตใจอารี เอื้อเฟื้อแก่เพื่อนมนุษย์ เน้นให้รู้จักการใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหา

ทั้งนี้ ในการเรียนมีข้อปฏิบัติที่ต้องให้นักเรียนฝึกให้เป็นนิสัย อยู่ 5 ข้อ คือ 1.หัวอ่อน หมายถึงไม่ดื้อดึง รู้จักเรียนรู้ทำความเข้าใจในบทเรียน ครูพูดก็ฟัง ครูสั่งก็เชื่อ ว่านอนสอนง่าย 2.มืออ่อน คือต้องเป็นคนที่รู้จักไปมาลาไหว้ ขอโทษ ขอบคุณ ต้องฝึกให้เป็นนิสัย 3.หลังอ่อน คือเวลาเดินผ่านผู้ใหญ่ต้องรู้จักก้ม เพื่อแสดงความเคารพนอบน้อม 4.เข่าอ่อน คือการนั่งคุกเข่าขณะคุยกับผู้ใหญ่ที่นั่งเก้าอี้ หรือไม่ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ และ5. ปากอ่อนคือ พูดจาไพเราะอ่อนหวาน ไม่พูดคำหยาบ

อย่างไรก็ตาม นอกจาพระไทวัฒน์แล้ว ในวิชาคุณธรรมจริยธรรมยังมีพระรูปอื่นๆ จากวัดศรีบุญเรืองมาร่วมสอนอีก 3 รูป คือ 1.พระยชัย ปวรชโย 2.พระสมคิด จิตฺตวิปุโล และ 3.พระจำเนียร ธมฺมานนฺโท โดยทั้ง 4 รูปจะเวียนกันสอนในทุกระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ด้าน ด.ญ.ปาลิตา รุจิรอาภรณ์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/5 พูดถึงความรู้สึกที่ได้เรียนวิชาคุณธรรมจริยธรรมว่า ทำให้รู้ประวัติพระพุทธเจ้า และหลักการเป็นชาวพุทธที่ดี การไหว้อย่างถูกวิธีและการปฏิบัติตนต่อพระสงฆ์ที่ถูกต้อง

“ถามว่าชอบวิชานี้หรือไม่ แฟร์ชอบฟังพระอาจารย์ท่านเล่าประวัติพระพุทธเจ้า ฟังแล้วน่าสนใจ โดยเฉพาะนิทานชาดกฟังแล้วสนุกและได้สาระดี”

ส่วน ด.ญ.วฑันยา เกียรติประเสริฐ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 เล่าว่า เรียนที่นี่มา 9 ปีแล้ว ตั้งแต่อนุบาล สนใจในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์มาก เพราะเรียนแล้วเข้าใจ สนุก ส่วนวิชาพุทธศาสนาก็ช่วยทำให้เราอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างมีความสุขและถ้าปฏิบัติตามก็จะทำให้จิตใจแจ่มใส เพื่อนๆก็จะรักและอยากคบหาด้วย

“การเรียนวิชานี้จะช่วยสอนให้เราอยู่ร่วมกับสังคมอย่างมีความสุข เพื่อนที่เป็นอิสลามก็มาเรียนด้วย แต่เรียนเพื่อให้รู้ว่าพุทธศาสนาเป็นอย่างไร เพื่อเราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข”

เช่นเดียวกับ ด.ญ.ศุภรัตน์ บุญชูวงศ์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 ที่บอกว่า ก่อนเข้าห้องเรียนจะต้องเข้าแถวก่อนทั้งช่วงเช้าและช่วงเที่ยง จากนั้นเดินเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ เพื่อเป็นการฝึกความมีวินัยในการเข้าชั้นเรียน และตรงต่อเวลา ส่วนการเรียนวิชาคุณธรรมจริยธรรมนั้นช่วยเสริมให้เป็นคนที่จิตใจดี มีเมตตา อีกทั้งพระอาจารย์จะสอนให้รู้จักใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหา เช่นธนาคารความดีถ้าเราทำความดีก็สามารถที่จะนำไปฝากเป็นคะแนนได้ ช่วงทำกิจกรรมโรงเรียนก็สามารถเอาคะแนนที่สะสมมาแลกเป็นของขวัญได้

**ทำไมต้องบ่มเพาะต้นกล้าคุณธรรม
สมเกียรติ โสมาภา ประธานบริหารกลุ่มโรงเรียนโสมาภา อธิบายข้อมูลเพิ่มเติมว่า การสอนให้เด็กเป็นคนที่มีคุณธรรมจริยธรรม ตั้งแต่อายุยังน้อย สิ่งเหล่านี้จะติดตัวพวกเขาไปตลอด ทำให้รู้สึกละอายในการทำบาป หรือแม้แต่กับเพื่อนฝูงพวกเขาก็จะเป็นคนที่มีน้ำใจ เอื้ออารี และมีเมตตา กิจกรรมบางอย่างที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นก็เพื่อบ่มเพาะให้นักเรียนเป็นคนที่มีคุณธรรม อาทิ ธนาคารความดี ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เด็กเกิดจิตสำนึกที่ดี เมื่อมีจิตสำนึกที่ดีแล้ว สิ่งไหนที่ไม่ดีก็ไม่สามารถเข้ามาครอบงำได้ หรืออย่างการเรียนวิชาคุณธรรมจริยธรรม ก็เช่นกันจะช่วยทำให้เด็กซึมซับสิ่งดีๆจากครูผู้สอน

“ที่นี่เราได้นิมนต์พระอาจารย์จากวัดศรีบุญเรืองมา 4 รูป เรียกว่าโครงการครูพระสอนศีลธรรม เพื่อให้ท่านสอนวิชาคุณธรรมจริยธรรมและพระพุทธศานาให้แก่เด็ก เพราะผมคิดว่าผู้ที่จะสอนเด็กในเรื่องศาสนา หรือจริยธรรมได้ดี น่าจะเป็นผู้ที่ปฏิบัติตนดีแล้ว เวลาเข้าเรียนเด็กจะให้ความเกรงใจ และตั้งใจเรียน ส่วนห้องที่ใช้ในการเรียนการสอนนั้นเป็นห้องพระ”อาจารย์สมเกียรติ เล่า

ด้าน ทิพย์วรรณ สมานรักษ์ ครูใหญ่โรงเรียนโสมาภานุสสรณ์ เปิดเผยว่า โครงการต้นกล้าคุณธรรมมีกิจกรรมที่แยกย่อยออกมาเพื่อให้นักเรียนทำร่วมกันนั้นมีทั้งค่ายชาวพุทธ ค่ายมุสลิม กิจกรรมศีล 5 ผาสุข คือถือศีลทุกวันพระ ในวันดังกล่าวเด็กนักเรียนจะต้องนุ่งขาวห่มขาวถือศีลตลอดทั้งวัน และธนาคารความดีที่ใช้ความดีในการสะสมแต้ม เป็นต้น เหล่านี้ล้วนแต่เป็นจุดเริ่มต้นในการทำความดีทั้งสิ้น ยกตัวอย่างนักเรียนที่มาช่วยงานโรงเรียน เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารความดี ก็จะได้รับคะแนนสะสม 1 เดือนได้เพิ่ม 100 แต้ม

เมื่อถามถึงนักเรียนที่มีนิสัยเกเรขณะนี้ยังมีอยู่หรือไม่ ครูทิพย์วรรณ บอกว่าแทบไม่มีเลยก็ว่าได้ เพราะส่วนมากถ้าเด็กที่มีนิสัยก้าวร้าวมักจะย้ายมาจากที่อื่นแล้วมาเรียนที่นี่ แต่เมื่อเขาอยู่ในสังคมของโรงเรียน นานๆ เข้าก็จะปรับปรุงตัวเอง เนื่องจากเห็นเพื่อนทำดี พูดดี คิดดี สิ่งแวดล้อมดีๆเหล่านี้จะทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีได้ เหมือนกับประโยคที่ว่า “เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม” เมื่อเพื่อนทำดี เราก็ต้องทำดีด้วย

ดังนั้น ที่โรงเรียนจึงมีกฎกติกาในการปฏิบัติตน 7 ข้อ คือ ตรงต่อเวลา รักษาความสะอาด มีระเบียบวินัย พูดจาสุภาพ ประหยัด ประสานประโยชน์ และรักษาสุขภาพ นักเรียนทุกคนจะต้องปฏิบัติให้ได้ เพราะนี้คือพื้นฐานของการทำความดี

อ.เกรียงศักดิ์ สมหวัง อาจารย์ผู้ดูแลกิจกรรมด้านคุณธรรมและจริยธรรมของโรงเรียน บอกว่า การสร้างคุณธรรมจริยธรรมให้กับเด็กไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่งแต่เป็นหน้าที่ของทุกคนจะต้องช่วยกัน อบรมบ่มเพาะให้เด็กเป็นคนดี นอกจากโรงเรียนแล้ว ครอบครัวก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เด็กๆเหล่านั้นเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ

“จริงๆแล้วสิ่งที่จะเป็นตัวชี้วัดก็คือพฤติกรรมของเด็ก ไม่เกี่ยวกับที่ว่าเด็กคนนั้นจะเรียนเก่งหรือไม่ เพราะถ้าเด็กเป็นคนมีคุณธรรมไม่เอาเปรียบใคร สิ่งดีๆหลายอย่างก็จะตามมา ทั้งความซื่อสัตย์ อดทน ขยัน มีน้ำใจโอบอ้อมอารี ทางโรงเรียนคิดว่ารางวัลที่โรงเรียนได้รับมาเป็นผลพลอยได้อย่างหนึ่งที่เด็กของเราเป็นคนดี ซึ่งก็เกิดมาจากการอบรมบ่มเพาะที่ดีด้วยเช่นกัน” อ.เกรียงศักดิ์สรุป
บรรยากาศที่ธนาคารความดี
สวดมนต์ก่อนเรียน
โชว์บัญชีธนาคารความดี

พระไทวัฒน์ กิตฺติวฒฺฑโนจากวัดศรีบุญเรือง ผู้สอนในห้องเรียนคุณธรรม
สมเกียรติ โสมาภา ประธานบริหารกลุ่มโรงเรียนโสมาภา
กำลังโหลดความคิดเห็น