xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดโรงเกลือ –ลมหายใจที่ชายแดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แม้ฝนยามวสันต์ในเดือนสิงหาคมจะโปรยลงมาเป็นช่วงๆ แต่เดือนนี้มีวันหยุดสุดสัปดาห์แถมด้วยวันหยุดชดเชยหลายหน บวกกับยังมีวันหยุดเพราะงานกีฬามหาวิทยาลัยโลกด้วย เรียกว่าเหมาะสำหรับการพาครอบครัว ไปพักผ่อนเปิดหูเปิดตาตามต่างจังหวัด

ตลาดโรงเกลือ ชายแดนอรัญประเทศ เป็นที่หมายตาไว้นานแล้ว คราวนี้จึงได้โอกาสไปให้ถึงสักครั้งหนึ่ง
เราเดินทางจากกรุงเทพฯด้วยถนนมอเตอร์เวย์ แยกซ้ายไปทางฉะเชิงเทรา เลี้ยวขวาไปตามถนนหมายเลข304ไปยังพนมสารคาม เลี้ยวขวาอีกครั้งเข้าสู่ถนนหมายเลข 33 ตรงไปยังสระแก้ว-วัฒนานคร-อรัญประเทศ ใช้เวลาราวสามชั่วโมงก็ถึงที่หมาย

ตลาดโรงเกลือ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันคุ้นปากว่า ตลาดชายแดนบ้านคลองลึก ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกใน อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 245 กิโลเมตร

ในอดีตแถบนี้เคยเป็นชุมชนสำคัญที่มีความเจริญรุ่งเรือง ตั้งแต่สมัยอาณาจักรสุวรรณภูมิ และอาณาจักรทวาราวดี มีร่องรอยให้เห็นได้จากกลุ่มปราสาทโบราณ ที่มีมากมายอยู่ทั่วจังหวัดและโบราณวัตถุที่หลงเหลือ บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ ของแผ่นดินในอดีตให้แก่คนรุ่นหลัง

สระแก้วเป็นจังหวัดที่ 74 ของประเทศไทย เดิมมีฐานะเป็นเมืองบริวารของปราจีนบุรี (เมืองประจิมในสมัยโบราณ) และในปี พ.ศ.2476 เมื่อมีการยกเลิกระบบเทศาภิบาล ปราจีนบุรีได้รับการยกฐานะให้เป็นจังหวัด สระแก้วจึงกลายเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดปราจีนบุรี ต่อมาได้แยกตัวออกมาจากปราจีนบุรี และได้รับการประกาศให้เป็นจังหวัดอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2536

สุดชายแดนอรัญประเทศ เป็นประตูบานใหญ่ที่เปิดไปสู่ประเทศกัมพูชา เชื่อมการคมนาคม และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศให้เป็นเส้นทางเดียวกัน มีตลาดโรงเกลือที่เต็มไปด้วยสินค้าราคาถูก และสินค้ามือสองจากนานาประเทศ เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่นับว่าใหญ่ที่สุดในเอเชีย

คำว่าโรงเกลือเป็นคำที่ใช้เรียกสถานที่ดังกล่าวมาตั้งแต่เดิม เพราะในอดีตตรงบริเวณนี้เป็นสถานที่ใช้เก็บเกลือ เพื่อขายให้แก่ชาวกัมพูชา เมื่อเกิดการสู้รบในประเทศกัมพูชา ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2522-2536 ทางการไทยได้เปิดให้ตลาดโรงเกลือเป็นจุดผ่อนผันในการซื้อขายสินค้าชายแดน

ตลาดปอยเปตในฝั่งกัมพูชา ที่เป็นแหล่งซื้อสินค้าราคาถูกซบเซาลง บัดนี้ได้ กลับกลายเป็นแหล่งกาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมายของกัมพูชา มีนักพนันทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าไปแสวงโชคกันอย่างคึกคัก

ปัจจุบันตลาดโรงเกลือได้ขยับขยายพื้นที่ ให้กว้างใหญ่ขนาดสนามฟุตบอล 10 สนามมารวมกัน ประกอบด้วยตลาดถึง 5 ตลาดเชื่อมต่อกัน คือ ตลาดโรงเกลือเดิม ตลาดเดชไทย , ตลาดเทศบาล 3, ตลาดเบญจวรรณ และตลาดทรัพย์สมบูรณ์ มีร้านค้ามากกว่า 3,000 ร้าน

นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมเลือกซื้อสินค้าได้ แต่ต้องใช้เวลาและเหน็ดเหนื่อยกับการเดินพอสมควร เพื่อทุ่นแรงในการเดินและไม่ต้องหอบหิ้วสินค้า ที่นี่จึงมีบริการรถจักรยานให้เช่า รวมทั้งจักรยานสามล้อที่มีกระบะใส่ของได้..ก็มีให้เลือกเช่าด้วย

สินค้าที่ตลาดโรงเกลือ ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้า กางเกงยีนส์ รองเท้า เข็มขัด กระเป๋า ผ้าม่าน นาฬิกา เครื่องทองเหลือง เครื่องเคลือบ เครื่องกระเบื้อง ถ้วยชาม เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศรัสเซียและจีน เครื่องจักสาน ปลาแห้ง สินค้าบางประเภทเป็นของใหม่และของมือสองที่มีคุณภาพ ผู้ซื้อใช้เวลาเลือกสักหน่อยอาจได้ของดีมีคุณภาพและราคาย่อมเยา

ย่านเศรษฐกิจการค้าแถบนี้ เป็นแหล่งงานแหล่งเงินของชาวบ้านทั้งคนไทยและเขมร ที่สร้างรายได้ให้อย่างเป็นกอบเป็นกำ จึงไม่แปลกที่บรรยากาศการซื้อขาย ในตลาดแห่งนี้จะดูคึกคักอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ด่านเปิดตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าไปจนถึงสองทุ่ม มีชั่วโมงเร่งด่วนเพียงชั่วโมงเดียว คือ ประมาณ 7.00-08.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวและคนกัมพูชา จะผ่านแดนเข้าออกนับหมื่นคน ภาพพ่อค้าแม่ค้าที่ขนสินค้าเข้ามาขายที่ตลาดโรงเกลือ มีทั้งหิ้วบ้าง หาบบ้าง ผู้หญิงบางคนเทินสินค้าบนหัว แต่เธอก็สามารถเดินคอตรงรักษาข้าวของที่เทินไว้เหนือศีรษะได้อย่างชำนิชำนาญน่าทึ่งจริงๆ

คนเขมรอีกกลุ่มใหญ่ก็จะเข้ามารับจ้างเข็นของในตลาด ขนกระเป๋าสัมภาระนักท่องเที่ยวที่เดินทางข้ามแดน สินค้าจากฝั่งไทยประเภทผัก ปลาสด ผลไม้ ฯลฯ จำนวนมากถูกห่อด้วยถุงพลาสติกห่อใหญ่ๆ แรงงานที่รับจ้างเข็นหรือแบกหามมีทั้งเด็กชายหญิงตัวเล็กตัวน้อย ช่วยกันแบกหามชักลากรถเข็นที่เทินของกองมหึมา เด็กบางคนผอมแห้งแต่ต้องหาบคอนของน้ำหนักหลายสิบกิโล เพื่อให้การข้ามด่านของพวกเขาแต่ละเที่ยวสามารถขนของให้ได้มากที่สุด

รถเข็นปุปะบางคันรับสินค้าหนักเกินตัว ทำให้เด็กๆบางคนต้องออกแรงโหนเกร็งจนเท้าลอย พ่อแม่ที่อุ้มลูกเล็กๆมารับจ้างขนของ คนพิการหลายคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ขาขาด ต้องใช้รถเข็นที่ใช้ลำแขนทั้งสองข้างออกแรง หมุนรอกให้รถเข็นเคลื่อนตัวไปได้อย่างน่าทึ่ง ผู้พิการที่เห็นแล้วน่าสะเทือนใจเหล่านี้ เป็นบาดแผลจากสงครามที่หฤโหดในกัมพูชานั่นเอง

ตลาดโรงเกลือ มีการค้าขายจนเงินสะพัดเป็นร้อยล้านพันล้าน แต่ความยากจนก็ยังเกาะกินชีวิตผู้ด้อยโอกาสตามชายแดนตลอดเวลา ภาพการใช้แรงงานเด็ก ผู้หญิง แม่ลูกอ่อน คนพิการ คนด้อยโอกาส ยังคงมีให้เห็นมากมาย พวกเขาควรได้รับการดูแลทั้งการศึกษาเล่าเรียน ทั้งด้านสุขภาพและการทำงานที่เหมาะสม ฯลฯ กว่านี้

ต้องยอมรับว่า ตลาดโรงเกลือวันนี้ ลมหายใจจากชีวิตผู้คนตามชายแดนแผ่วเบาลงเรื่อยๆ พวกเขากำลังรอการเหลียวแลช่วยเหลือจากรัฐ และจากคนในสังคมที่มีโอกาสมากกว่า

ใครที่เกี่ยวข้อง..ว่างๆลองไปตรวจลมหายใจผู้คนที่พรมแดน ที่ตลาดโรงเกลือสักหน่อย ดีไหมคะ

เรื่อง ยุพา ชุมจันทร์   ภาพ ชัชวาลย์  ชาติสุทธิชัย







กำลังโหลดความคิดเห็น