โฆษกกรมสุขภาพจิตแนะลูก ๆ ที่ไม่สามารถกราบแม่และบอกรักด้วยตนเอง ให้ใช้ประโยชน์จากสื่อยุคไฮเทค พูดคุยทางโทรศัพท์ ส่งบัตรอวยพร เอสเอ็มเอส ระบุบอกรักแม่ได้ตลอด 365 วัน ย้ำครอบครัวไทยยังเข้มแข็ง
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ที่ไม่มีโอกาสกลับไปบอกรักและกราบแม่ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมนี้ สามารถนำสื่อต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ได้ เช่น การพูดคุยกันทางโทรศัพท์ ให้แม่รับรู้ว่า เรายังรักและคิดถึงเป็นห่วง แต่เนื่องจากหลายคนมีความจำเป็นไม่สามารถไปพบแม่ในวันที่ 12 สิงหาฯ ได้ แต่วันอื่น ๆ เราสามารถดูแลแม่ให้ได้รับความสะดวกสบายได้
“แม่อยู่ในใจของทุกคน ความสำคัญของวันแม่เป็นเชิงสัญลักษณ์ ให้เห็นภาพทั้งประเทศ ถ้าติดภารกิจจริง ๆ เมื่อเราได้ทำหน้าที่ก่อนหน้านี้เป็นอย่างดี ผมเชื่อว่า แม่เข้าใจเรา รับรู้ถึงความรักที่ลูกมีต่อแม่อย่างดี อย่างน้อยที่สุดใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสื่อสาร ส่งข้อความสั้น หรือเอสเอ็มเอส ส่งบัตรอวยพร จดหมาย หากมีใครกลับไปเยี่ยมแม่ก็ฝากข้าวของให้ การระลึกนึกถึงแม่ ถือเป็นเชิงสัญลักษณ์เหมือนการรักใครสักคน การนึกถึง ทำอะไรให้ก็สื่อถึงกันได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ความสัมพันธ์ในครอบครัวไทยยังมีความเข้มแข็งอยู่ ประเทศไทยพัฒนาได้ ส่วนหนึ่งมาจากการมีคนดี จิตใจดีในประเทศไทย มีส่วนน้อยที่ยังมีปัญหาในครอบครัว แต่สัญชาตญาณระหว่างแม่ลูกย่อมสื่อถึงกัน บางครั้งเราได้ดูละคร ฟังเพลงที่เกี่ยวกับแม่ต่างระลึกถึงแม่ได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม มีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับครอบครัวอาจทำให้เห็นความสำคัญของสถาบันครอบครัวลดลง แต่ตนเชื่อว่า ถ้าเราหมั่นเสนอข่าวเชิงบวกกับครอบครัว สิ่งดี ๆ ย่อมปรากฏขึ้น
“เมื่อถึงวัยสมควร ได้เป็นแม่คน จะมีความเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย คือตั้งครรภ์ 9 เดือน การเลี้ยงลูกให้รอดปลอดภัย แม่ต้องผ่านร้อนผ่านหนาว ทั้งสุขและทุกข์ ตรงนี้ทำให้เราเติบโตทางจิตใจ การคาดหวังว่า ลูกจะเลี้ยงเรากลับคืน ตอบแทนเราคืนนั้น ความจริงคือ แม่ทุกคนที่เลี้ยงลูกต้องการให้ลูกเป็นคนดี ลูกต้องพยายามปฏิบัติตัวให้ดีสมกับที่แม่ยากลำบาก ส่วนแม่เองไม่ต้องคาดหวังมาก การที่แม่ให้ตลอดชีวิต ไม่ต้องกังวล ในบั้นปลายของชีวิตจะได้รับสิ่งตอบแทนแน่นอน ลูกคิดถึงแม่ทุกวันตลอดทั้ง 365 วันอยู่แล้ว” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ที่ไม่มีโอกาสกลับไปบอกรักและกราบแม่ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมนี้ สามารถนำสื่อต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ได้ เช่น การพูดคุยกันทางโทรศัพท์ ให้แม่รับรู้ว่า เรายังรักและคิดถึงเป็นห่วง แต่เนื่องจากหลายคนมีความจำเป็นไม่สามารถไปพบแม่ในวันที่ 12 สิงหาฯ ได้ แต่วันอื่น ๆ เราสามารถดูแลแม่ให้ได้รับความสะดวกสบายได้
“แม่อยู่ในใจของทุกคน ความสำคัญของวันแม่เป็นเชิงสัญลักษณ์ ให้เห็นภาพทั้งประเทศ ถ้าติดภารกิจจริง ๆ เมื่อเราได้ทำหน้าที่ก่อนหน้านี้เป็นอย่างดี ผมเชื่อว่า แม่เข้าใจเรา รับรู้ถึงความรักที่ลูกมีต่อแม่อย่างดี อย่างน้อยที่สุดใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสื่อสาร ส่งข้อความสั้น หรือเอสเอ็มเอส ส่งบัตรอวยพร จดหมาย หากมีใครกลับไปเยี่ยมแม่ก็ฝากข้าวของให้ การระลึกนึกถึงแม่ ถือเป็นเชิงสัญลักษณ์เหมือนการรักใครสักคน การนึกถึง ทำอะไรให้ก็สื่อถึงกันได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ความสัมพันธ์ในครอบครัวไทยยังมีความเข้มแข็งอยู่ ประเทศไทยพัฒนาได้ ส่วนหนึ่งมาจากการมีคนดี จิตใจดีในประเทศไทย มีส่วนน้อยที่ยังมีปัญหาในครอบครัว แต่สัญชาตญาณระหว่างแม่ลูกย่อมสื่อถึงกัน บางครั้งเราได้ดูละคร ฟังเพลงที่เกี่ยวกับแม่ต่างระลึกถึงแม่ได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม มีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับครอบครัวอาจทำให้เห็นความสำคัญของสถาบันครอบครัวลดลง แต่ตนเชื่อว่า ถ้าเราหมั่นเสนอข่าวเชิงบวกกับครอบครัว สิ่งดี ๆ ย่อมปรากฏขึ้น
“เมื่อถึงวัยสมควร ได้เป็นแม่คน จะมีความเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย คือตั้งครรภ์ 9 เดือน การเลี้ยงลูกให้รอดปลอดภัย แม่ต้องผ่านร้อนผ่านหนาว ทั้งสุขและทุกข์ ตรงนี้ทำให้เราเติบโตทางจิตใจ การคาดหวังว่า ลูกจะเลี้ยงเรากลับคืน ตอบแทนเราคืนนั้น ความจริงคือ แม่ทุกคนที่เลี้ยงลูกต้องการให้ลูกเป็นคนดี ลูกต้องพยายามปฏิบัติตัวให้ดีสมกับที่แม่ยากลำบาก ส่วนแม่เองไม่ต้องคาดหวังมาก การที่แม่ให้ตลอดชีวิต ไม่ต้องกังวล ในบั้นปลายของชีวิตจะได้รับสิ่งตอบแทนแน่นอน ลูกคิดถึงแม่ทุกวันตลอดทั้ง 365 วันอยู่แล้ว” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว