ชุมชน “บ้านล่างพูนทรัพย์” หรือ “ชุมชนกองขยะ” ตั้งอยู่บนกองขยะหน้าโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาล ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี มาตั้งแต่ปี 2510 ซึ่งนับเป็นแห่งที่ 3 ของการตั้งหลักปักฐานหลังถูกไล่ที่มาสองครั้งสองครา
ตอนแรกๆ มีชาวบ้านเพียง 6 หลังคาเรือนเท่านั้น โดยสร้างเพิงไม้อย่างกระจัดกระจายไร้ระเบียบ ต่อมาเทศบาลเอาขยะมาทิ้ง ชาวบ้านจึงถอยร่อนเข้าไปอยู่ในหนองบึงเรื่อยๆ จนชิดกับรั้วโรงพยาบาล โดยส่วนใหญ่ชาวบ้านจะมีอาชีพเป็นลูกจ้างเทศบาล รับจ้างรายวัน ค้าขาย และเก็บของเก่าขายไม่มีความมั่นคงในที่อยู่อาศัย มีปัญหาการไล่ที่ สภาพบ้านผุพัง น้ำเน่าเสีย สภาพแวดล้อมเป็นพิษ และขาดสาธารณูปโภค
ปี 2516 ชาวบ้านได้มีความคิดร่วมกันว่าจะทำอย่างไรให้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม มีบ้านที่มั่นคงไม่มีใครมาไล่ได้อีก มีสภาพแวดล้อมที่ดีเหมือนคนอื่นเขา จึงได้รวมกลุ่มกัน เริ่มจากการตั้งกลุ่มออมทรัพย์ มีการตั้งคณะกรรมมาทำงานหนึ่งชุด มีการแบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆ 19 กลุ่ม ๆ ละ 6 คนบ้าง 5 คนบ้าง แล้วแต่ขนาดของกลุ่ม จึงคิดว่าออมกันอย่างไรถึงจะได้มีบ้าน มีที่อยู่ที่มั่นคงและชาวบ้านสามารถออมได้ จึงตกลงกันว่าใครมีเท่าไหร่ก็ออมเท่านั้น มีมากก็ออมมาก มีน้อยก็ออมน้อย โดยมีการออมเป็นรายวันกันทุกวัน ส่วนรายเดือนสมาชิกก็ฝากประมาณ 330 บาทบ้าง 630 บาทบ้างแล้วแต่ความสามารถของแต่ละราย
นายสามารถ สุนทรวงศ์ ประธานกลุ่มออมทรัพย์กล่าวว่า หลังจากได้ตั้งกลุ่มออมทรัพย์เราก็มีการประชุมทุกเดือนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดกันและมีมติร่วมกันในชุมชน ส่วนการบริหารจัดการของคณะกรรมการออมทรัพย์ จะฝากทุกวันที่ 5 ของเดือน โดยหัวหน้ากลุ่มย่อยทำหน้าที่เก็บเงินภายในกลุ่มเพื่อนำมาเก็บไว้ที่คณะกรรมการ ปัจจุบันมีเงินออมเพื่อที่อยู่อาศัยรวม 706,389 บาท เงินออมอื่นๆ 30,000 บาท มีการจัดสวัสดิการการรักษาพยาบาล, การฌาปนกิจสงเคราะห์ , การส่งเสริมการศึกษาและกิจกรรมของเด็ก นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการในการช่วยเหลือผู้สูงอายุในชุมชนกรณีไม่มีญาติพี่น้อง เดือนละ 50 บาท
หลังจากมีการพัฒนาความเข้มแข็ง โดยจัดตั้งกลุ่มต่างๆ มาระยะหนึ่งแล้ว ทางกลุ่มจึงได้หันไปทำเรื่องที่อยู่อาศัย โดยชาวบ้านช่วยกันหาที่ดินเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยประมาณ 10 ไร่ 2 งาน 97 ตารางวา ซึ่งที่ดินอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับชุมชนเก่า โดยทางกรมที่ดินและที่ดินจังหวัดจันทบุรีเห็นชอบให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินที่มีการบุกรุก โดยคิดค่าเช่า 1 บาท / ตารางวา / เดือน สัญญา 5 ปี / ครั้ง จากนั้นทาง พอช. จึงได้สนับสนุนงบประมาณในการทำสาธารณูปโภคจำนวน 3,100,000 บาท ในระยะที่ 1 เป็นค่าสร้างถนน ทำทางระบายน้ำ บ่อบำบัดน้ำเสีย ประปา ไฟฟ้า
ในเมื่อมีที่ดินชาวบ้านร่วมกันประชุมหารือกันในการออกแบบบ้าน โดยมีสถาปนิกจาก พอช. ให้การแนะนำและช่วยเหลือในการออกแบบบ้าน โดยชาวบ้านเลือกแบบบ้านสองชั้น ขนาด 4X8 เมตร ใช้งบประมาณ 170,000 บาท/หลัง ส่วนบ้านชั้นเดียวขนาด 5X8 เมตร ใช้งบประมาณ 150,000 บาท/หลัง โดยจ้างช่างในชุมชนที่ราคาถูก มีสมาชิกทั้งหมด 119 ครัวเรือน ที่เข้าโครงการ 88 ครัวเรือน และครัวเรือนที่ไม่เข้าโครงการอีก 31 ครัวเรือน เจะเข้าร่วมในระยะต่อไป โดยให้ชุมชนเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูและควบคุมงานก่อสร้าง
นางอรทิพา จรกิ่ง เล่าว่า เมื่อก่อนอยู่อาศัยด้วยความยากลำบากมากบ้านเป็นเพิงไม้เล็กๆ เพียงเอาไม้เสม็ดตัดเป็นท่อนๆ มาขัดไว้เป็นพื้นบ้าน ส่วนฝาบ้านและหลังคาทำด้วยจาก เวลาเดินเสาบ้านก็เอนไปมา พื้นบ้านก็ติดกับพื้นน้ำพอเดินน้ำก็ซึมเข้ามาในบ้าน
“ขณะตอนกินข้าวต้องกางมุ้งกินข้าว เพราะมันมีหนอนและแมลงวันเต็มไปหมด เนื่องจากบ้านตั้งอยู่บนกองขยะ แต่ตอนนี้ดีใจมากถึงแม้ว่าบ้านยังสร้างไม่เสร็จ แต่อย่างน้อยชีวิตนี้เราก็สามารถมีบ้านอยู่ โดยไม่ต้องกินข้าวกางมุ้งอีกแล้ว” นางอรทิพากล่าว
“หากใครถามพวกเราว่ามาจากชุมชนไหน พวกเราตอบได้อย่างเต็มปากว่า “ชุมชนกองขยะ” และก็ตอบอย่างไม่อายใคร เพราะว่าพวกเราไม่เคยลืมรากเหง้าของตัวเองทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเรา มีที่อยู่อาศัย มีชีวิตที่ดีขึ้นในทุกวันนี้ เพราะพวกเรามีความเข้มแข็ง ความรักสามัคคีกัน ความร่วมมือร่วมใจ ความเข้าใจซึ่งกันและกันในชุมชน มันคือความภาคภูมิใจของพวกเรา”
เรื่อง...จิรวรรณ ชูชำนาญ