อดีตเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชฯ ลั่นปิดมูลนิธิชั่วคราวเพราะปัญหาทางการเงินฟังไม่ขึ้น บี้ “พิสิษฐ์ ณ พัทลุง” แจงสาเหตุที่แท้จริง พร้อมขีดเส้นตายใน 2 สัปดาห์นี้ไม่กระจ่าง ฟ้องแน่ ด้านประธานยันไม่ปิดนานเกินไป
วันนี้ (25 ก.ค.) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม จัดเสวนา “การปิดมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า ใครเสียประโยชน์ ?”
นายสุรพล ดวงแข อดีตเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชฯ กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวที่ระบุต้องยุติมูลนิธิและเลิกจ้างเจ้าหน้าที่เกิดจากปัญหาทางการเงิน ฟังไม่ขึ้นแต่มาจากปัญหาความไม่พอใจของประธานฯ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ขอเรียกร้องให้นายพิสิษฐ์ ณ พัทลุง ประธานมูลนิธิฯ ชี้แจงสาเหตุที่แท้จริงในการประกาศยุติครั้งนี้ และจะให้เวลาภายใน 2 สัปดาห์นี้ หากยังไม่มีการชี้แจงหรือทำความกระจ่างให้เกิดขึ้นในข้อสงสัยต่าง ๆ กลุ่มเจ้าหน้าที่คงจะพิจารณาเรื่องฟ้องร้องตามช่องทางกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ การยุติมูลนิธิฯ ได้ส่งผลให้การดำเนินโครงการอนุรักษ์ในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น โครงการช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ชายฝั่งอันดามันที่ประสบภัยสึนามิ 6 จังหวัด ต้องสะดุดลงไปด้วย ถึงขณะนี้ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนยังพร้อมจะทำงานต่อแม้จะไม่มีเงินเดือนก็ตาม โดยจะยังมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ในพื้นที่ ส่วนการประสานงานส่วนกลาง ได้รับการเอื้อเฟื้อสถานที่จากมูลนิธิเพื่อนช้างใช้เป็นออฟฟิศชั่วคราว รวมทั้งทราบมาว่าประธานมูลนิธิฯ ได้ทำหนังสือขอส่งคืนเงินกับแหล่งทุน อาทิ ธนาคารโลก สถานทูตสหรัฐ และแหล่งทุนอื่นๆ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 7-8 ล้านบาท
ด้านนายพิสิษฐ์กล่าวว่า ยืนยันว่าจะไม่ให้มูลนิธิฯ ปิดนานจนเกินไป แต่ยังกำหนดระยะเวลาไม่ได้ในขณะนี้ ทั้งนี้คำสั่งยุติการดำเนินการซึ่งได้เลิกจ้างเจ้าหน้าที่จำนวน 37 คน จะมีผลวันที่ 27 กรกฎาคมนี้