แพทยสภาเตือนสถาบันการศึกษารวมทั้งผู้แอบอ้าง ออกเอกสารหรือใช้คำนำหน้าชื่อว่า “นายแพทย์-แพทย์หญิง” โดยบุคคลนั้นไม่จบการศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต มีความผิดฐานละเมิดมาตรา 27 และ 28 พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม ปี 2525
นพ.อำนาจ กุสลานันท์ เลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยว่า การประชุมกรรมการบริหารแพทยสภา ครั้งที่ 16/2550 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้สอบถามว่าผู้จบหลักสูตรแพทย์แผนจีน และไคโรแพรกเตอร์ เป็นแพทย์จริงหรือไม่ เพราะใช้คำนำหน้าว่า “นายแพทย์ ” ใช้ตัวย่อว่า นพ. หรือ “แพทย์หญิง” ตัวย่อ พญ. ทางแพทยสภาได้ตรวจสอบหลักฐานพบว่า หลักสูตรบางอย่างไม่มีการเรียนการสอน หรือปริญญา หรือประกาศนียบัตรในวิชาแพทยศาสตร์ของประเทศไทย และมีการขออนุญาตที่ถูกต้องบางรายเท่านั้น
ทั้งนี้ ตามมาตรา 27 และมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 บัญญัติว่า มาตรา 27 ห้ามมิให้ผู้ใดใช้คำว่า แพทย์ นายแพทย์ แพทย์หญิง หรือนายแพทย์หญิง หรือใช้อักษรย่อของคำดังกล่าว หรือใช้คำแสดงวุฒิการศึกษาทางแพทยศาสตร์ หรืออักษรย่อของวุฒิดังกล่าว ประกอบกับชื่อหรือนามสกุลของตน หรือใช้คำหรือข้อความอื่นใดที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทั้งนี้ รวมถึงการใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำดังกล่าวให้แก่ตน เว้นแต่ผู้ได้รับปริญญา หรือประกาศนียบัตรในวิชาชีพแพทยศาสตร์ มาตรา 28 ห้ามมิให้ผู้ใดใช้คำหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาต่างๆ ทั้งนี้ รวมถึงการใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำดังกล่าวให้แก่ตน เว้นแต่ผู้ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขานั้นๆ จากแพทยสภา หรือที่แพทยสภารับรอง หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมผู้มีคุณสมบัติตามที่กำหนดในข้อบังคับแพทยสภา
นพ.อำนาจ กล่าวว่า ขอเตือนมายังสถาบันต่างๆ ห้ามมิให้ออกใบอนุญาต หรือประกาศนียบัตร โดยใช้คำนำหน้าชื่อดังกล่าวกับบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติตามมาตรา 27 และมาตรา 28 ผู้ฝ่าฝืนจะต้องถูกระวางโทษ และถ้ายังไม่ปฏิบัติตามแพทยสภา จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายกับสถาบันและบุคคลผู้ใช้คำนำหน้าดังกล่าวต่อไป
นพ.อำนาจ กุสลานันท์ เลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยว่า การประชุมกรรมการบริหารแพทยสภา ครั้งที่ 16/2550 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้สอบถามว่าผู้จบหลักสูตรแพทย์แผนจีน และไคโรแพรกเตอร์ เป็นแพทย์จริงหรือไม่ เพราะใช้คำนำหน้าว่า “นายแพทย์ ” ใช้ตัวย่อว่า นพ. หรือ “แพทย์หญิง” ตัวย่อ พญ. ทางแพทยสภาได้ตรวจสอบหลักฐานพบว่า หลักสูตรบางอย่างไม่มีการเรียนการสอน หรือปริญญา หรือประกาศนียบัตรในวิชาแพทยศาสตร์ของประเทศไทย และมีการขออนุญาตที่ถูกต้องบางรายเท่านั้น
ทั้งนี้ ตามมาตรา 27 และมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 บัญญัติว่า มาตรา 27 ห้ามมิให้ผู้ใดใช้คำว่า แพทย์ นายแพทย์ แพทย์หญิง หรือนายแพทย์หญิง หรือใช้อักษรย่อของคำดังกล่าว หรือใช้คำแสดงวุฒิการศึกษาทางแพทยศาสตร์ หรืออักษรย่อของวุฒิดังกล่าว ประกอบกับชื่อหรือนามสกุลของตน หรือใช้คำหรือข้อความอื่นใดที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทั้งนี้ รวมถึงการใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำดังกล่าวให้แก่ตน เว้นแต่ผู้ได้รับปริญญา หรือประกาศนียบัตรในวิชาชีพแพทยศาสตร์ มาตรา 28 ห้ามมิให้ผู้ใดใช้คำหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาต่างๆ ทั้งนี้ รวมถึงการใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำดังกล่าวให้แก่ตน เว้นแต่ผู้ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขานั้นๆ จากแพทยสภา หรือที่แพทยสภารับรอง หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมผู้มีคุณสมบัติตามที่กำหนดในข้อบังคับแพทยสภา
นพ.อำนาจ กล่าวว่า ขอเตือนมายังสถาบันต่างๆ ห้ามมิให้ออกใบอนุญาต หรือประกาศนียบัตร โดยใช้คำนำหน้าชื่อดังกล่าวกับบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติตามมาตรา 27 และมาตรา 28 ผู้ฝ่าฝืนจะต้องถูกระวางโทษ และถ้ายังไม่ปฏิบัติตามแพทยสภา จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายกับสถาบันและบุคคลผู้ใช้คำนำหน้าดังกล่าวต่อไป