จากกรณีข่าวการปิดตัวเองเป็นการชั่วคราวโดยไม่มีกำหนดของมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืช ในพระบรมราชินูปถัมภ์ในยุคของ “พิสิษฐ์ ณ พัทลุง” เป็นประธานมูลนิธิฯ นั้นเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะนับกว่า 20 ทศวรรษแห่งการก่อตั้งโดย นพ.บุญส่ง เลขะกุล มูลนิธิฯแห่งนี้ได้สร้างคุณประโยชน์แก่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง
ในโอกาสนี้ผู้จัดการออนไลน์ขอนำจุดเริ่มต้น การเดินทาง และการเติบโตของมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืช ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ก่อนที่จะปิดตัวลงอย่างไม่มีกำหนดจะเปิดมาให้ชมกัน...
ในปี พ.ศ.2526 นพ.บุญส่ง เลขะกุล และสมาชิกนิยมไพรสมาคม ได้จัดตั้งมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ขึ้น โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จฯเป็นองค์ประธานในงานกาลาดินเนอร์ ร่วมกับ เจ้าชายฟิลิปส์ ดยุคแห่งเอดินเบอระ ณ โรงแรมโอเรียนเต็ล กรุงเทพมหานคร ในงานดังกล่าวนี้ ได้มีการจัดระดมทุนเพื่อจัดตั้งมูลนิธิ คุ้มครองสัตว์ป่าฯขึ้น เพื่อให้เป็นองค์กรอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในภาคเอกชน ซึ่งต่อมา มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯได้รับการ สนับสนุนจาก World Wildlife Fund (WWF)
นพ.บุญส่ง ได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ และนายกสมาคมนิยมไพร และทำงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด โดยได้มีการอุทิศสถานที่บ้านของตัวเอง เป็นที่ทำงาน ใช้อุปกรณ์เครื่องมือ รวมทั้งการใช้เขาสัตว์ หนังสัตว์ ซากสัตว์ชนิดอื่นๆ เป็นเครื่องมือในการเขียนตำราวิชาการว่าด้วยเรื่องของสัตว์ป่า และใช้เป็นเครื่องมือในการรณรงค์และเผยแพร่ ซึ่งในขณะเดียวกัน ได้มีกลุ่มคนที่สนใจเข้าไปเรียนรู้เรื่องราวของการอนุรักษ์สัตว์ป่า จาก นพ.บุญส่ง จำนวนมากทั้งชาวไทยและต่างประเทศ และจากการมุมานะทำงาน เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมอย่างหนักมาตลอดชีวิตของท่านในที่สุด นพ.บุญส่ง เลขะกุลได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535 ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว ณ โรงพยาบาลมเหสักข์ กรุงเทพฯ
การบริหารงานและการทำงานเพื่อสังคมของมูลนิธิฯ เป็นไปอย่างต่อเนื่องจนมาถึงยุคของประธานมูลนิธิฯ คนปัจจุบันที่ชื่อว่า “พิสิษฐ์ ณ พัทลุง” ที่ค่อนข้างจะมีปัญหา และไม่เป็นที่ยอมรับทั้งกับภายในมูลนิธิฯเอง ตลอดจนกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะทันทีที่นายพิสิษฐ์เข้ามานั่งเก้าอี้ผู้บริหารคนใหม่ ก็มีการปรับเปลี่ยยโยกย้ายเจ้าหน้าที่หลายตำแหน่งนับแต่การผลัก “สุรพล ดวงแข” เลขาธิการมูลนิธิฯ คนเก่าให้ตกจากเก้าอี้แล้วเปลี่ยนให้นายสิรจิต วรมนตรี จากกรรมการมูลนิธิฯ มารักษาการเลขาธิการมูลนิธิฯ แทน พร้อมกันนั้น ได้โยกย้ายเจ้าหน้าที่ในส่วนต่าง ๆ ทั้งองค์กรอีกจำนวน 16 คน ซึ่งหมายถึงเข้ามายึดองค์กร ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.2550 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีกระแสการไม่ยอมรับในเรื่องที่นายพิสิษฐ์ได้มีส่วนเข้าเป็นเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่มีการเพาะเลี้ยง ซื้อขาย แลกเปลี่ยนสัตว์ป่าในเชิงธุรกิจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองโดยตรง เช่น การใช้ตำแหน่งประธานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ไปเป็นที่ปรึกษาให้กับ บริษัทสยามโอเชี่ยนเวิลด์ ที่สยามพารากอน ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจเอกชนแสวงหาผลกำไรจากนำสัตว์น้ำจากท้องทะเลที่หายากมาจัดแสดง และการตั้งบริษัท เอเชี่ยน ไวด์ไลฟ์ คอนซัลแตนซี (Asian Wildlife Consultancy) ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งช้างไทย 8 เชือกไปประเทศออสเตรเลียร่วมกับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมทั้งการจัดหาสัตว์ป่าที่หายากทั้งในและต่างประเทศให้กับโครงการสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุด ประธานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ได้การจัดตั้งบริษัท บ้านเพื่อนเดรัจฉาน จำกัด มีการเปิดร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม และการจัดแสดงสัตว์ป่าที่หายาก อีกทั้งยังเป็นที่สงสัยว่าร้านอาหารดังกล่าวจะเป็นแหล่งที่มีการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสัตว์ป่า และการดำเนินการธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์ป่าด้วย
คลิกอ่าน!!! "เงินเกลี้ยง!ปิดชั่วคราวมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ "โซไรดา"แฉต้องการถ่ายเลือดเก่า" ได้ที่นี่!!!
