ศธ.-วธ.มหาวิทยาลัยรัฐ-เอกชนกว่า 30 แห่ง ร่วมกันหาหนทางให้นักศึกษาเลิกใส่ชุดนักศึกษาฟิตเปรี้ยะ โป๊ ไซส์ S เผยเตรียมเจรจากับผู้ผลิตเสื้อนักศึกษา ให้ผลิตเสื้อไซส์ปกติ พร้อมทำหนังสือถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยทุกแห่ง กวดขันให้นิสิต นักศึกษา แต่งกายให้ถูกระเบียบ แนะครูผู้สอนเห็นลูกศิษย์แต่งวาบหวิวไม่ให้เข้าห้องเรียน
ที่โรงแรม สยามซิตี้ รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงศึกษา คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยที่เป็นเครือข่ายของรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต นักศึกษา มหาวิทยาลัยรัฐและมหาวิทยาลัยเอกชน รวมทั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยราชมงคล จำนวน 30 แห่ง เพื่อร่วมกันกำหนดการแต่งกายของนักศึกษา โดยตั้งเป้าให้นักศึกษาทุกคนแต่งกายอย่างถูกต้อง เหมาะสมตามกาลเทศะ ทั้งนี้ จะดำเนินการเรื่องนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติ
รศ.ดร.วรากรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า แนวทางในการแก้ปัญหาการแต่งกายชุดนักศึกษาที่ไม่เหมาะสมนั้น จะให้มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งไปเข้มงวดกับนิสิต นักศึกษา โดยแต่งกายถูกต้องตามระเบียบของแต่ละสถาบัน ไม่ปล่อยให้นักศึกษาแต่งกายที่ล่อแหลมหรือไม่เหมาะสมเข้ามาในมหาวิทยาลัย จึงตกลงกันว่า จะมีการทำหนังสือถึงอธิการบดีและนายกสภามหาวิทยาลัยทุกแห่ง ขอความร่วมมือในเรื่องนี้ เรื่องการแต่งกายอยากฝากอาจารย์มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะอาจารย์ที่ปรึกษา เข้ามามีบทบาทในการควบคุมนักศึกษาให้แต่งกาย ถูกต้องตามระเบียบด้วย ที่ผ่านมา อาจารย์ผู้สอนไม่สนใจที่จะตักเตือนเมื่อเห็นนักศึกษาแต่งกายผิดระเบียบหรือไม่เหมาะสมมาเรียน เมื่อคนหนึ่งแต่งได้เพื่อนคนอื่นก็แต่งบ้าง
“มติในที่ประชุมมีความเห็นทิศทางเดียวกันว่า ควรมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อช่วยกันคิดว่าจะมีวิธีไหนปลุกกระแสการแต่งกายที่ถูกระเบียบ เช่น อาจจะมีการทำโฆษณา รณรงค์ระดับชาติ รวมทั้งเจรจากับผู้ผลิตเสื้อ ให้ผลิตเสื้อนักศึกษาหญิง ขนาดทั่วไปออกมาด้วย ลดการผลิตเสื้อไซส์ S เพราะในปัจจุบันเสื้อนักศึกษาหญิงที่ขายในท้องตลาดมีแต่ไซส์ S ส่งผลนักศึกษาหญิงต้องใส่เสื้อตัวเล็กไปโดยปริยาย”
นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวเสริมว่า ที่ประชุมมีความเห็นว่าไม่ควรบังคับให้นิสิต นักศึกษาของทุกมหาวิทยาลัยเปลี่ยนมาแต่งชุดนัก ศึกษาไปเรียนเหมือนกันหมด เพราะระเบียบการแต่งกายของแต่ละมหาวิทยาลัยมีความหลาก หลาย เพียงแค่บังคับให้นิสิต นักศึกษาแต่งชุดสุภาพ ส่วนจะให้แต่ละมหาวิทยาลัยไปรณรงค์ให้นักศึกษาของตนแต่งกายอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นชุดนักศึกษา หรือชุดไปรเวท ไม่ใช่แข่งกันแต่งตัวโป๊มาเรียน ในปัจจุบันนักศึกษาคิดว่าการแต่งกายเป็นเสรีภาพเป็นสิทธิส่วนบุคคล จะแต่งตัวอย่างไรก็ได้ ตรงนี้คงเป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยจะต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ว่าแม้จะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่นักศึกษาจะต้องใช้สิทธิโดยรับผิดชอบต่อสังคม อย่างไรก็ตาม หากสามารถรณรงค์ให้เกิดเทรนด์ ว่า การแต่งกายโป๊เป็นเรื่องที่น่าละอาย การแก้ปัญหาน่าจะได้ผลมากกว่าการใช้วิธีบังคับหรือควบคุม
คุณหญิงไขศรี แสดงความเห็นว่า มาตรการภาคบังคับนั้นไม่น่าจะใช้กับนักศึกษาที่เป็นปัญญาชน และจากการประชุมแลกเปลี่ยนความเห็นของหลายมหาวิทยาลัย ต่างมีมาตรการที่น่าสนใจ มีการสร้างเครือข่ายในสถาบันเพื่อให้เกิด จิตสำนึกในเรื่องการแต่งกาย เพราะการแต่งกายของนักศึกษาเป็นหนึ่งในหลายๆ ปัญหาของเยาวชน นอกจากเรื่องการติดเกม เหล้า อย่างไรก็ตาม การรณรงค์การแต่งกายให้ถูกต้องตามกาลเทศะและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนั้นสามารถที่จะโยงไปในเรื่องอื่นๆ ได้ อย่างเช่น ในหลายสถาบันที่เปิดเทอมได้จัดทำ ค่ายจริยธรรม คุณธรรม กันนักศึกษาปีที่ 1 นั้น ซึ่งเป็นตุ๊กตาที่ดี สามารถเป็นตัวอย่างให้หลายๆ มหาวิทยาลัยได้นำไปใช้ต่อไป
ดร.กฤษณพงศ์ ในฐานะเลขาธิการ กกอ.กล่าวว่า ตนจะประชุมร่วมกับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ ทุก 2 เดือน จะนำเรื่องนี้ไปย้ำในการประชุมครั้งต่อไปด้วย เพราะเป็นห่วงลูกศิษย์ ทั้งนี้ ตนเข้าใจว่าเสรีภาพในแต่ละคนจะต้องมี แต่ก็จะต้องสอนให้นิสิต นักศึกษารู้จักและเข้าใจที่รับผิดชอบต่อสังคม
ผศ.ธวัชชัย รัตนธรรมมา รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและกิจการพิเศษ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ระบุว่า อาจารย์ประจำวิชา สามารถที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ โดยหากพบว่านักศึกษาแต่งกายไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้องตามระเบียบของมหาวิทยาลัยนั้นๆ ก็ไม่ต้องอนุญาตให้เด็กเข้าชั้นเรียน เมื่อถูกทำโทษ เชื่อว่า วิธีนี้นักศึกษาจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการแต่งกายให้เหมาะสมเอง นอกจากอาจารย์ผู้สอนแล้ว ฝ่ายอื่นๆ เช่น ฝ่ายบริการ ก็ใช้วิธีเดียวกัน ถ้านักเรียนแต่งกายไม่เหมาะสมมาก็ไม่ให้บริการแก่นักศึกษารายนั้น