กรรมการชุมชนเคหะดินแดง เผยชาวแฟลตอาคารที่ 1-8 และ 21-32 ประมาณ 6,000 คน จะหารือกันวันที่ 23 มิ.ย.นี้ เพื่อทำหนังสือถึง กคช.ขอยับยั้งการรื้อถอน อาจขอตกลงระยะเวลาอยู่ต่อ 5-10 ปี ค่อยรื้อถอน ถ้าทำตอนนี้ยอมไม่ได้ ด้านหัวหน้าฝ่ายโยธา เขตดินแดง ระบุยังไม่ได้รับติดต่อขอทุบแฟลต หากมีจริงต้องมีแผนรองรับให้ผู้อยู่อาศัย
นายกิตติพันธ์ บุญเกลือ กรรมการชุมชนเคหะดินแดง เปิดเผยกรณีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) อาจมีการรื้อถอนแฟลตดินแดงว่า รู้สึกมติของ กคช.กลับไปกลับมา เมื่อชาวบ้านจะต่อต้านการทุบรื้อ กคช.จะหยุด แต่รู้สึกเสียใจมากที่รัฐบาลไม่ฟังเสียงประชาชน แม้ว่าจะมีการตรวจสอบความแข็งแรงจากสภาวิศวกร วิศวกรรมสถานฯ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) แล้ว ให้ซ่อมแซมบางส่วนของแฟลตได้ แต่รัฐมนตรีช่วยฯ กลับบอกว่างบประมาณ 50 ล้านบาท ซ่อมไม่คุ้มค่า เรื่องนี้ตนมองว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์อย่างเดียว เพราะถ้า กคช.สร้างใหม่จะสามารถเก็บค่าเช่าเพิ่มขึ้นจากเดิม 300-500 บาท เป็นเดือนละ 3,000-4,000 บาท เนื่องจากมีการก่อสร้างใหม่
อย่างไรก็ตาม ชาวแฟลตดินแดงประมาณ 6,000 คน อาคารที่ 1-8 และอาคารที่ 21-32 จะประชุมหารือร่วมกันในวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายนนี้ ที่แฟลตหลังที่ 23 เพื่อมีมติว่าจะทำหนังสือไปถึง กคช.อีกครั้ง เพื่อขอยับยั้งการรื้อถอน หรือจะเป็นวิธีการอื่นต่อไป
“ในความเห็นของผม ยังยืนยันการเจรจาที่จะพบกันได้ คือแนวทางร่วมกันของ กคช.กับชาวบ้าน อาจตกลงระยะเวลาที่จะอยู่ต่อไปได้ 5-10 ปีขึ้นไป และเมื่อนั้น ก็จะทุบก็ได้ แต่ขอเตรียมตัวเพื่อรับความเปลี่ยนแปลง ชาวบ้านจะได้มีเวลาหาที่ทำงาน ที่อยู่ใหม่ โรงเรียนใหม่ แต่ถ้ากะทันหันแบบนี้รับไม่ได้ ยอมไม่ได้ และคิดว่าเป็นช่วงสุญญากาศ ไม่มีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง คิดว่าทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง” นายกิตติพันธ์ กล่าว
ด้าน ว่าที่ ร.ต.วรพจน์ ประทุมวัน กรรมการชุมชนเคหะดินแดง ซึ่งทำงานวิศวกรของเอกชน เปิดเผยว่า แฟลตยังมีความแข็งแรงอยู่ได้อีกนับสิบปี ชาวแฟลตทุกคนยืนยันจะต่อสู้เอาสิทธิคืนมา เพราะการกระทำเช่นนี้ไม่ถูกต้อง คิดว่าเงินที่ให้ชดเชยมั่นใจว่าไม่คุ้มแน่นอน ยกเว้นได้เงินหลักล้านขึ้นไปถึงจะคุ้มค่ากับการต้องเปลี่ยนแปลง
นายสถาพร ชูทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายโยธา เขตดินแดง เปิดเผยว่า ยังไม่ได้มีหนังสือขออนุญาตอย่างเป็นทางการจาก กคช.เพื่อขอทุบแฟลต เพิ่งทราบจากข่าว คงนำหารือกับผู้บริหารในวันนี้ และเขตดินแดงในฐานะเจ้าของท้องที่จะต้องประสานกับ กคช. พม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือถึงแผนการย้าย รองรับอาชีพ ที่อยู่อาศัยชั่วคราว รวมถึงโรงเรียน แต่คิดว่าคงไม่ใช่ระยะเวลาอันใกล้นี้ ต้องทำแผนกันก่อน
นายกิตติพันธ์ บุญเกลือ กรรมการชุมชนเคหะดินแดง เปิดเผยกรณีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) อาจมีการรื้อถอนแฟลตดินแดงว่า รู้สึกมติของ กคช.กลับไปกลับมา เมื่อชาวบ้านจะต่อต้านการทุบรื้อ กคช.จะหยุด แต่รู้สึกเสียใจมากที่รัฐบาลไม่ฟังเสียงประชาชน แม้ว่าจะมีการตรวจสอบความแข็งแรงจากสภาวิศวกร วิศวกรรมสถานฯ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) แล้ว ให้ซ่อมแซมบางส่วนของแฟลตได้ แต่รัฐมนตรีช่วยฯ กลับบอกว่างบประมาณ 50 ล้านบาท ซ่อมไม่คุ้มค่า เรื่องนี้ตนมองว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์อย่างเดียว เพราะถ้า กคช.สร้างใหม่จะสามารถเก็บค่าเช่าเพิ่มขึ้นจากเดิม 300-500 บาท เป็นเดือนละ 3,000-4,000 บาท เนื่องจากมีการก่อสร้างใหม่
อย่างไรก็ตาม ชาวแฟลตดินแดงประมาณ 6,000 คน อาคารที่ 1-8 และอาคารที่ 21-32 จะประชุมหารือร่วมกันในวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายนนี้ ที่แฟลตหลังที่ 23 เพื่อมีมติว่าจะทำหนังสือไปถึง กคช.อีกครั้ง เพื่อขอยับยั้งการรื้อถอน หรือจะเป็นวิธีการอื่นต่อไป
“ในความเห็นของผม ยังยืนยันการเจรจาที่จะพบกันได้ คือแนวทางร่วมกันของ กคช.กับชาวบ้าน อาจตกลงระยะเวลาที่จะอยู่ต่อไปได้ 5-10 ปีขึ้นไป และเมื่อนั้น ก็จะทุบก็ได้ แต่ขอเตรียมตัวเพื่อรับความเปลี่ยนแปลง ชาวบ้านจะได้มีเวลาหาที่ทำงาน ที่อยู่ใหม่ โรงเรียนใหม่ แต่ถ้ากะทันหันแบบนี้รับไม่ได้ ยอมไม่ได้ และคิดว่าเป็นช่วงสุญญากาศ ไม่มีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง คิดว่าทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง” นายกิตติพันธ์ กล่าว
ด้าน ว่าที่ ร.ต.วรพจน์ ประทุมวัน กรรมการชุมชนเคหะดินแดง ซึ่งทำงานวิศวกรของเอกชน เปิดเผยว่า แฟลตยังมีความแข็งแรงอยู่ได้อีกนับสิบปี ชาวแฟลตทุกคนยืนยันจะต่อสู้เอาสิทธิคืนมา เพราะการกระทำเช่นนี้ไม่ถูกต้อง คิดว่าเงินที่ให้ชดเชยมั่นใจว่าไม่คุ้มแน่นอน ยกเว้นได้เงินหลักล้านขึ้นไปถึงจะคุ้มค่ากับการต้องเปลี่ยนแปลง
นายสถาพร ชูทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายโยธา เขตดินแดง เปิดเผยว่า ยังไม่ได้มีหนังสือขออนุญาตอย่างเป็นทางการจาก กคช.เพื่อขอทุบแฟลต เพิ่งทราบจากข่าว คงนำหารือกับผู้บริหารในวันนี้ และเขตดินแดงในฐานะเจ้าของท้องที่จะต้องประสานกับ กคช. พม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือถึงแผนการย้าย รองรับอาชีพ ที่อยู่อาศัยชั่วคราว รวมถึงโรงเรียน แต่คิดว่าคงไม่ใช่ระยะเวลาอันใกล้นี้ ต้องทำแผนกันก่อน