กทม.เตรียมจัดตั้งหอเกียรติยศและหอจดหมายเหตุ กทม.เป็นสถานที่รวบรวมประวัติศาสตร์เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและเรียนรู้ พร้อมเชิญผู้ที่มีสิ่งของ เอกสาร ตั้งแต่ปี 2480 โปรดมอบให้ กทม.เก็บรักษาก่อนหายไปกับกาลเวลา
นายนิพนธ์ บุญญภัทโร ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงการจัดตั้งหอเกียรติยศ และหอจดหมายเหตุแห่งกรุงเทพมหานครว่า โครงการดังกล่าวมาจากแนวคิดของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ที่ต้องการเก็บรวบรวมสิ่งของ เอกสารและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ กทม.นับตั้งแต่ได้จัดตั้งเป็นเทศบาลนครกรุงเทพฯ และเทศบาลนครธนบุรีขึ้นเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2480 หรือประมาณ 70 ปีที่ผ่านมาเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ ตลอดจนใช้เป็นแหล่งค้นคว้าอ้างอิง โดยขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดูและโครงการดังกล่าวเสร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์แล้ว
ส่วนหอเกียรติยศ กทม.นั้นจะจัดแสดงประวัติและผลงานของผู้บริหาร กทม.ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งนายกเทศมนตรี เทศมนตรี ผู้ว่าฯ กทม. ประธานสภา กทม. ปลัดเทศบาล ปลัดกทม. ฯลฯ ที่ช่วยกันบริหาร กทม.มาจนถึงทุกวันนี้
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า การจัดรวบรวมข้อมูลสิ่งของต่างๆ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดตั้งหอเกียรติยศ และหอจดหมายเหตุแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นมรดกอันทรงคุณค่าไว้ให้ลูกหลาน ดังนั้น ตนจึงขอเชิญทุกท่านที่มีข้อมูล เอกสาร สิ่งของที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์เมืองหลวงโปรดร่วมกันบริจาคให้ กทม.เป็นผู้เก็บรักษา โดย กทม.จะจัดตั้งหอดังกล่าวที่ศาลา กทม.1 หลังจากที่ได้ย้ายที่ทำการไปยังศาลาว่าการ กทม.ที่ดินแดงเมื่อสร้างแล้วเสร็จใน 2-3 ปีข้างหน้านี้ ซึ่งระหว่างนี้จะมอบให้สำนักวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และกีฬา เป็นผู้รับผิดชอบจัดหาสถานที่เก็บชั่วคราว
ทั้งนี้ สามารถติดต่อบริจาคได้ที่นายนิพนธ์ โทร.0-2226-1336 หรือกองวัฒนธรรม สำนักวัฒนธรรมฯ โทร.0-2280-7413-6
นายนิพนธ์ บุญญภัทโร ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงการจัดตั้งหอเกียรติยศ และหอจดหมายเหตุแห่งกรุงเทพมหานครว่า โครงการดังกล่าวมาจากแนวคิดของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ที่ต้องการเก็บรวบรวมสิ่งของ เอกสารและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ กทม.นับตั้งแต่ได้จัดตั้งเป็นเทศบาลนครกรุงเทพฯ และเทศบาลนครธนบุรีขึ้นเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2480 หรือประมาณ 70 ปีที่ผ่านมาเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ ตลอดจนใช้เป็นแหล่งค้นคว้าอ้างอิง โดยขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดูและโครงการดังกล่าวเสร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์แล้ว
ส่วนหอเกียรติยศ กทม.นั้นจะจัดแสดงประวัติและผลงานของผู้บริหาร กทม.ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งนายกเทศมนตรี เทศมนตรี ผู้ว่าฯ กทม. ประธานสภา กทม. ปลัดเทศบาล ปลัดกทม. ฯลฯ ที่ช่วยกันบริหาร กทม.มาจนถึงทุกวันนี้
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า การจัดรวบรวมข้อมูลสิ่งของต่างๆ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดตั้งหอเกียรติยศ และหอจดหมายเหตุแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นมรดกอันทรงคุณค่าไว้ให้ลูกหลาน ดังนั้น ตนจึงขอเชิญทุกท่านที่มีข้อมูล เอกสาร สิ่งของที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์เมืองหลวงโปรดร่วมกันบริจาคให้ กทม.เป็นผู้เก็บรักษา โดย กทม.จะจัดตั้งหอดังกล่าวที่ศาลา กทม.1 หลังจากที่ได้ย้ายที่ทำการไปยังศาลาว่าการ กทม.ที่ดินแดงเมื่อสร้างแล้วเสร็จใน 2-3 ปีข้างหน้านี้ ซึ่งระหว่างนี้จะมอบให้สำนักวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และกีฬา เป็นผู้รับผิดชอบจัดหาสถานที่เก็บชั่วคราว
ทั้งนี้ สามารถติดต่อบริจาคได้ที่นายนิพนธ์ โทร.0-2226-1336 หรือกองวัฒนธรรม สำนักวัฒนธรรมฯ โทร.0-2280-7413-6


