“วิจิตร” เตรียมฟันโรงเรียนออกวุฒิปลอมให้นักการเมือง นักธุรกิจ ดารา นักแสดง หากพบว่ามีมูลให้ผู้ว่าราชการสั่งปิดโรงเรียน ระบุวุฒิปลอมสร้างความเสียหายแก่วงการศึกษา เห็นด้วยที่ สช.เพิ่มบทลงโทษ
จากกรณีที่มี ดารา นักแสดง ปลอมวุฒิการศึกษา ออกโดยสถานศึกษาเอกชน สังกัดสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า การปลอมวุฒิการศึกษาปัจจุบันมีการทำกันหลายกลุ่ม มีทั้งกลุ่มนักการเมือง นักธุรกิจ และดารา นักแสดงบางคนที่ทำ ซึ่งที่ผ่านมาจับไม่ได้ และการปลอมวุฒิเกิดจากค่านิยมในการมีปริญญา ทั้งนี้ การปลอมวุฒิการศึกษาทางกระทรวงคงไม่จำแนกแยกแยะออกเป็นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ถ้าหากพบว่าสถานศึกษาหรือใครก็ตามที่ทำให้เกิดปลอมวุฒิ ต้องรับผิดชอบ
กระทรวงได้รับรายงานข้อมูลการปลอมวุฒิจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ตนได้มอบให้ สช.ศึกษาอำนาจทางกฎหมายเพิ่มเติม แม้ว่า พ.ร.บ.การศึกษาเอกชน เดิมกำหนดให้กรณีสถานศึกษาเอกชนที่ทำผิดเรื่องการปลอมวุฒิ ในต่างจังหวัดจะเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่จะสั่งปิดหรือเพิกถอนใบอนุญาต และสถานศึกษาในกรุงเทพมหานคร จะเป็นอำนาจของ ผอ.สช.
ศ.ดร.วิจิตร กล่าวต่อว่า ตนจะประสานไปยังผู้ว่าราชการ หากตรวจพบว่าโรงเรียนใดที่มีความผิดฐานปลอมวุฒิก็ต้องปิดสถานศึกษา ถ้าไม่ปิดผู้ว่าฯต้องแจกแจงเหตุผล อย่างไรก็ตาม ก่อนถึงขั้นสั่งปิดโรงเรียนจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่า ผิดจริง ถ้าหากปล่อยเรื่องนี้ไว้จะส่งผลเสียหายต่อวงการศึกษา
“ปัญหาวุฒิปลอมผมปล่อยไว้ไม่ได้อีกแล้ว ขืนปล่อยไว้ก็เสียหายต่อวงการศึกษา เพราะการปลอมวุฒิไม่ใช่มีที่เดียว พบว่ามีหลายที่ อะไรที่มีผลเสียกับการศึกษากับสังคมผมก็ต้องเข้าไปดูแล อยากให้สช.ยกเรื่องนี้มาเป็นเรื่องจริงจังที่จะต้องเร่งแก้ไข หากตรงจุดอย่างร่าง พ.ร.บ.การศึกษาเอกชนที่เพิ่มบทลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปลอมวุฒิ เห็นด้วยที่เพิ่มบทลงโทษ” รมว.ศธ.กล่าวทิ้งท้าย
จากกรณีที่มี ดารา นักแสดง ปลอมวุฒิการศึกษา ออกโดยสถานศึกษาเอกชน สังกัดสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า การปลอมวุฒิการศึกษาปัจจุบันมีการทำกันหลายกลุ่ม มีทั้งกลุ่มนักการเมือง นักธุรกิจ และดารา นักแสดงบางคนที่ทำ ซึ่งที่ผ่านมาจับไม่ได้ และการปลอมวุฒิเกิดจากค่านิยมในการมีปริญญา ทั้งนี้ การปลอมวุฒิการศึกษาทางกระทรวงคงไม่จำแนกแยกแยะออกเป็นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ถ้าหากพบว่าสถานศึกษาหรือใครก็ตามที่ทำให้เกิดปลอมวุฒิ ต้องรับผิดชอบ
กระทรวงได้รับรายงานข้อมูลการปลอมวุฒิจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ตนได้มอบให้ สช.ศึกษาอำนาจทางกฎหมายเพิ่มเติม แม้ว่า พ.ร.บ.การศึกษาเอกชน เดิมกำหนดให้กรณีสถานศึกษาเอกชนที่ทำผิดเรื่องการปลอมวุฒิ ในต่างจังหวัดจะเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่จะสั่งปิดหรือเพิกถอนใบอนุญาต และสถานศึกษาในกรุงเทพมหานคร จะเป็นอำนาจของ ผอ.สช.
ศ.ดร.วิจิตร กล่าวต่อว่า ตนจะประสานไปยังผู้ว่าราชการ หากตรวจพบว่าโรงเรียนใดที่มีความผิดฐานปลอมวุฒิก็ต้องปิดสถานศึกษา ถ้าไม่ปิดผู้ว่าฯต้องแจกแจงเหตุผล อย่างไรก็ตาม ก่อนถึงขั้นสั่งปิดโรงเรียนจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่า ผิดจริง ถ้าหากปล่อยเรื่องนี้ไว้จะส่งผลเสียหายต่อวงการศึกษา
“ปัญหาวุฒิปลอมผมปล่อยไว้ไม่ได้อีกแล้ว ขืนปล่อยไว้ก็เสียหายต่อวงการศึกษา เพราะการปลอมวุฒิไม่ใช่มีที่เดียว พบว่ามีหลายที่ อะไรที่มีผลเสียกับการศึกษากับสังคมผมก็ต้องเข้าไปดูแล อยากให้สช.ยกเรื่องนี้มาเป็นเรื่องจริงจังที่จะต้องเร่งแก้ไข หากตรงจุดอย่างร่าง พ.ร.บ.การศึกษาเอกชนที่เพิ่มบทลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปลอมวุฒิ เห็นด้วยที่เพิ่มบทลงโทษ” รมว.ศธ.กล่าวทิ้งท้าย