กระทรวงศึกษาธิการ ไทย-จีน ร่วมเปิดตัวหนังสือเรียน “ชุดสัมผัสภาษาจีน” ที่จะนำไปเป็นสื่อการเรียนการสอนในโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาทั่วประเทศ เป็นครั้งแรก มีเนื้อหาให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมไทย โดยมีครูอาสาสมัครจีน 600 คน ร่วมโครงการ
นายวรากรณ์ สามโกเศศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้การต้อนรับมาดาม ซู หลิน (MRS. XU LIN) ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนนานาชาติ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีฐานะเทียบเท่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจีน, นายจาง กัว ฉิ่ง (MR. ZHANG GUA QING) อัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย, ผู้บริหารการศึกษาและคณะครูอาสาสมัครจีน ที่เดินทางมาเป็นครูอาสาสมัครตามสถานศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศไทย ประจำปีการศึกษา 2550 จำนวน 600 คน ตามโครงการความร่วมมือและความช่วยเหลือของจีนที่ให้แก่ประเทศไทย ตามแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนในไทยให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับความต้องการและมาตรฐานสากล โดยได้มีการเปิดตัวหนังสือเรียนชุดสัมผัสภาษาจีน ซึ่งเป็นหนังสือชุดแรกที่มีเนื้อหาปรับปรุงให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมไทย และจะนำไปเป็นสื่อการเรียนการสอนภาษาจีนในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศ ประกอบด้วย 6 เล่ม ระดับละ 2 เล่ม พร้อมซีดี จำหน่ายในราคาเล่มละตั้งแต่ 60-130 บาท จัดพิมพ์อย่างละ 50,000 เล่ม คาดว่าจะเพียงพอ
พร้อมกันนี้ ได้มีการแนะนำหนังสือพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เรื่อง “เมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนนอก” ฉบับแปลเป็นภาษาจีน ซึ่งเหมาะสมกับนักเรียนและครูได้อ่าน ให้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนการสอนภาษาจีน
นายวรากรณ์ กล่าวว่า ครูอาสาสมัครทั้งหมดจะลงไปสอนยังโรงเรียนทั่วประเทศ รวมทั้งพื้นที่ภาคใต้ด้วย เช่น ที่ อ.เบตง จ.ยะลา มีโรงเรียนสอนภาษาจีนที่ใหญ่มาก ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้ว แม้จะเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา แต่ถือว่าเป็นโครงการที่ดี รัฐบาลชุดนี้จึงสานต่อเพื่อยกระดับการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย เพราะประเทศจีนจะเป็นใหญ่ในเชิงเศรษฐกิจโลกอีกไม่นานนี้ ประชากรมีถึง 1,300 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรโลก ขณะที่นักเรียนไทยที่เรียนภาษาจีนทั่วประเทศ คาดว่าประมาณ 150,000-200,000 คน
ด้านคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้ มีโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดสอนภาษาจีน จำนวน 342 แห่ง เป็นโรงเรียนเอกชน 480 แห่ง โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) 71 แห่ง รวม 900 แห่ง ปีหน้าคงเพิ่มอีก 400-500 แห่ง ซึ่งโครงการนี้จะช่วยให้การเรียนการสอนภาษาจีนพัฒนาอย่างแน่นอน เพราะว่าที่ผ่านมามีนักเรียน ผู้ปกครองต้องการเรียนภาษาจีนมาก แต่ครูที่มีคุณภาพไม่เพียงพอ ความร่วมมือครั้งนี้ ยังรวมถึงการให้ทุนครูไทยไปอบรมที่ประเทศจีน ประมาณ 300 คน และทุนดูงานสำหรับผู้อำนวยการโรงเรียนและอธิการบดีอีก 200 คน และเท่าที่ประเมิน น่าจะขาดแคลนครูภาษาจีนอีกหลายพันคน สำหรับโครงการนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากแรงบันดาลใจที่คนไทยเห็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจที่สาธารณรัฐประชาชนจีนบ่อยครั้ง ทำให้เด็กสนใจเรียนภาษาจีนมากขึ้น ทั้งนี้ ได้มีพระราชดำริให้ครูสอนอย่างมีคุณภาพ อย่าเร่งรัดมากนัก
นายจาง กัว ฉิ่ง กล่าวว่า ขณะนี้คนไทยเรียนภาษาจีนอย่างกว้างขวาง รวมถึงพระบรมวงศ์ เช่น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเรียนภาษาจีนมานานกว่า 20 ปี และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เสด็จไปยังสถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย นำภาพถ่ายที่จีนมาฉายและอธิบายให้ฟัง เป็นที่ชื่นชมของพวกเรามาก และยังมีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้ศึกษาภาษาจีน และเล่นเครื่องดนตรีกู่เจิ้งได้เป็นอย่างดี ขณะนี้ มีการเรียนการสอนภาษาจีนอย่างกว้างขวาง เชื่อว่าจะพัฒนาการเรียนการสอนให้สูงขึ้นอีกระดับหนึ่งได้
ด้าน มาดาม ซู หลิน กล่าวว่า ไทยและจีนเหมือนประเทศเดียวกัน การมาครั้งนี้ไม่รู้สึกว่าไปต่างประเทศ ขอชื่นชม การศึกษาของประเทศไทยที่มีนโยบายให้โรงเรียนพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีน ตนในฐานะเจ้าของภาษามีหน้าที่ในการให้การสนับสนุน คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนไทย โดยเฉพาะผู้ที่คิดจะค้าขายลงทุนกับจีนและเป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ประเทศ อีกทั้งยังยินดีต้อนรับครูไทยที่จะไปเรียนภาษาจีนด้วย
นายวรากรณ์ สามโกเศศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้การต้อนรับมาดาม ซู หลิน (MRS. XU LIN) ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนนานาชาติ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีฐานะเทียบเท่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจีน, นายจาง กัว ฉิ่ง (MR. ZHANG GUA QING) อัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย, ผู้บริหารการศึกษาและคณะครูอาสาสมัครจีน ที่เดินทางมาเป็นครูอาสาสมัครตามสถานศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศไทย ประจำปีการศึกษา 2550 จำนวน 600 คน ตามโครงการความร่วมมือและความช่วยเหลือของจีนที่ให้แก่ประเทศไทย ตามแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนในไทยให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับความต้องการและมาตรฐานสากล โดยได้มีการเปิดตัวหนังสือเรียนชุดสัมผัสภาษาจีน ซึ่งเป็นหนังสือชุดแรกที่มีเนื้อหาปรับปรุงให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมไทย และจะนำไปเป็นสื่อการเรียนการสอนภาษาจีนในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศ ประกอบด้วย 6 เล่ม ระดับละ 2 เล่ม พร้อมซีดี จำหน่ายในราคาเล่มละตั้งแต่ 60-130 บาท จัดพิมพ์อย่างละ 50,000 เล่ม คาดว่าจะเพียงพอ
พร้อมกันนี้ ได้มีการแนะนำหนังสือพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เรื่อง “เมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนนอก” ฉบับแปลเป็นภาษาจีน ซึ่งเหมาะสมกับนักเรียนและครูได้อ่าน ให้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนการสอนภาษาจีน
นายวรากรณ์ กล่าวว่า ครูอาสาสมัครทั้งหมดจะลงไปสอนยังโรงเรียนทั่วประเทศ รวมทั้งพื้นที่ภาคใต้ด้วย เช่น ที่ อ.เบตง จ.ยะลา มีโรงเรียนสอนภาษาจีนที่ใหญ่มาก ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้ว แม้จะเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา แต่ถือว่าเป็นโครงการที่ดี รัฐบาลชุดนี้จึงสานต่อเพื่อยกระดับการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย เพราะประเทศจีนจะเป็นใหญ่ในเชิงเศรษฐกิจโลกอีกไม่นานนี้ ประชากรมีถึง 1,300 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรโลก ขณะที่นักเรียนไทยที่เรียนภาษาจีนทั่วประเทศ คาดว่าประมาณ 150,000-200,000 คน
ด้านคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้ มีโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดสอนภาษาจีน จำนวน 342 แห่ง เป็นโรงเรียนเอกชน 480 แห่ง โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) 71 แห่ง รวม 900 แห่ง ปีหน้าคงเพิ่มอีก 400-500 แห่ง ซึ่งโครงการนี้จะช่วยให้การเรียนการสอนภาษาจีนพัฒนาอย่างแน่นอน เพราะว่าที่ผ่านมามีนักเรียน ผู้ปกครองต้องการเรียนภาษาจีนมาก แต่ครูที่มีคุณภาพไม่เพียงพอ ความร่วมมือครั้งนี้ ยังรวมถึงการให้ทุนครูไทยไปอบรมที่ประเทศจีน ประมาณ 300 คน และทุนดูงานสำหรับผู้อำนวยการโรงเรียนและอธิการบดีอีก 200 คน และเท่าที่ประเมิน น่าจะขาดแคลนครูภาษาจีนอีกหลายพันคน สำหรับโครงการนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากแรงบันดาลใจที่คนไทยเห็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจที่สาธารณรัฐประชาชนจีนบ่อยครั้ง ทำให้เด็กสนใจเรียนภาษาจีนมากขึ้น ทั้งนี้ ได้มีพระราชดำริให้ครูสอนอย่างมีคุณภาพ อย่าเร่งรัดมากนัก
นายจาง กัว ฉิ่ง กล่าวว่า ขณะนี้คนไทยเรียนภาษาจีนอย่างกว้างขวาง รวมถึงพระบรมวงศ์ เช่น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเรียนภาษาจีนมานานกว่า 20 ปี และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เสด็จไปยังสถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย นำภาพถ่ายที่จีนมาฉายและอธิบายให้ฟัง เป็นที่ชื่นชมของพวกเรามาก และยังมีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้ศึกษาภาษาจีน และเล่นเครื่องดนตรีกู่เจิ้งได้เป็นอย่างดี ขณะนี้ มีการเรียนการสอนภาษาจีนอย่างกว้างขวาง เชื่อว่าจะพัฒนาการเรียนการสอนให้สูงขึ้นอีกระดับหนึ่งได้
ด้าน มาดาม ซู หลิน กล่าวว่า ไทยและจีนเหมือนประเทศเดียวกัน การมาครั้งนี้ไม่รู้สึกว่าไปต่างประเทศ ขอชื่นชม การศึกษาของประเทศไทยที่มีนโยบายให้โรงเรียนพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีน ตนในฐานะเจ้าของภาษามีหน้าที่ในการให้การสนับสนุน คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนไทย โดยเฉพาะผู้ที่คิดจะค้าขายลงทุนกับจีนและเป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ประเทศ อีกทั้งยังยินดีต้อนรับครูไทยที่จะไปเรียนภาษาจีนด้วย