xs
xsm
sm
md
lg

โรคริดสีดวงทวารหนัก/ผศ.นพ.วิรุณ บุญนุช ศัลยแพทย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์สายตรงสุขภาพกับศิริราช ในนสพ.ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 17 พ.ค. 2550

หลายท่านคงเคยได้ยินมาว่าถ้าหากระบบขับถ่ายอุจจาระดีย่อมหมายถึงการมีสุขภาพดี ผิวพรรณสดใสตามไปด้วย แต่อุปสรรคสำคัญในการขับถ่ายอุจจาระที่เรารู้จักกันดี นั่นคือ โรคริดสีดวงทวารหนัก มารู้จักโรคริดสีดวงทวารหนัก


โรคริดสีดวงทวารหนัก เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของกลุ่มหลอดเลือดรอบรูทวารหนักที่เกิดเนื้อเยื่อพังผืดจากการถูกรัดด้วยพังผืดที่ยึดติดกับกล้ามเนื้อหูรูดบริเวณลำไส้ตรง ส่งผลให้เกิดก้อนที่รูทวารหนักโป่งพองยืดออกมาและโตขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อเบ่งถ่าย ความดันในช่องท้องจะเพิ่มปริมาณมากกว่าปกติ ทำให้อุจจาระเสียดสีกับกลุ่มหลอดเลือดที่โป่งพองขึ้นจนฉีกขาด ทำให้มีเลือดซึมฉาบอุจจาระที่ขับออกมาบางรายจะมีเลือดพุ่งเป็นสายขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ

โดยทั่วไปผู้ป่วยจะไม่สามารถคลำพบก้อนดังกล่าวได้ในระยะแรก แต่ในระยะต่อมาจะคลำพบติ่งหรือก้อนที่โผล่ออกมาจากรูก้น โดยทั่วไปจะพบผู้ที่เป็นโรคริดสีดวงทวารหนักในช่วงอายุระหว่าง 45 – 65 ปี แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี จะไม่เป็นโรคนี้ เพราะเนื้อเยื่อยืดที่ยึดคลุมกลุ่มหลอดเลือดยังแข็งแรงอยู่

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคริดสีดวงทวารหนัก
1. พันธุกรรม
2. อาชีพ ผู้มีอาชีพที่ต้องยืนนาน ๆ จะมีผลให้ความดันเลือดในหลอดเลือดดำบริเวณปากทวารไหลกลับสู่หลอดเลือดดำในช่องท้องช้าลง โดยทั่วไปหลอดเลือดดำมีลิ้นเพื่อให้เลือดดำไหลกลับได้ทางเดียว แต่เมื่อการไหลของเลือดดำช้าลงประกอบกับมีความดันในช่องท้องสูง จึงเกิดการคั่งของหลอดเลือดดำบริเวณกลุ่มหลอดเลือดปากรูทวารหนัก ส่งผลให้กลุ่มหลอดเลือดดำโป่งพองจนเกิดอาการของโรคริดสีดวงทวารหนักขึ้น

3. จากโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น โรคตับแข็ง ตามหลังโรคตับอักเสบไวรัสบี ซึ่งจะมีอาการท้องมานในระยะสุดท้าย และเมื่อมีน้ำในช่องท้องมาก ๆ จะส่งผลไปกดการไหลเวียนเลือดดำในช่องท้อง เป็นสาเหตุทำให้หลอดเลือดดำไหลกลับเข้าช่องท้องได้ไม่ดี

อาการน่าสงสัยเมื่อเป็นริดสีดวงทวารหนัก

เมื่อถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด ๆ ร่วมกับ คลำพบก้อนที่ปากรูทวารหนัก จะแบ่งตามอาการโรคออกเป็น 4 ระยะ
ระยะที่ 1 พบก้อนข้างในรูทวารหนัก ผู้ป่วยมาพบแพทย์แล้วได้รับการส่องกล้องตรวจทางทวารหนัก
ถือเป็นระยะแรกของโรค

-2-
ระยะที่ 2 คลำพบก้อนที่รูทวารหนักเป็นบางครั้งและจะกลับเข้าไปด้านในได้เอง
ระยะที่ 3 พบก้อนโผล่พ้นรูทวารหนักออกมา และสามารถใช้นิ้วดันกลับเข้าไปได้เพราะก้อนยังไม่แข็ง
ระยะที่ 4 พบก้อนยื่นออกมา และใช้นิ้วดันกลับเข้าไปไม่ได้ ทั้งนี้นอกจากกลุ่มหลอดเลือดดำโป่งพอง
และบางที่โผล่ออกมานอกรูทางทวารหนักแล้ว ยังถูกกล้ามเนื้อหูรูดปากทวารหนักรัดเอาไว้
จนเลือดไหลเวียนไม่สะดวกจน ทำให้เกิดการแข็งตัวเป็นลิ่มเลือดขังอยู่ภายในเส้นเลือดดำ
ส่งผลให้เจ็บปวดอย่างรุนแรง ซึ่งแพทย์จะวินิจฉัยให้ทำการผ่าตัด

การรักษาโรคริดสีดวงทวารหนัก
จะมีแนวทางรักษาไปตามระยะของโรค ดังนี้
ระยะที่ 1 ใช้ยาเหน็บทางทวารหนักเพื่อลดการบวมการอักเสบ ยาระบายเพื่อให้อุจจาระนิ่มลง
แนะนำให้ดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน รับประทานผักและผลไม้เป็นประจำ หมั่นออกกำลังกาย
สม่ำเสมอ
ระยะที่ 2 รักษาแบบเดียวกับระยะที่ 1 บางรายอาจใช้ยางรัดหัวริดสีดวงทวารหนัก
ระยะที่ 3 รักษาแบบเดียวกับระยะที่ 2 บางรายอาจใช้การผ่าตัดรักษา
ระยะที่ 4 มักลงเอยด้วยการผ่าตัดรักษาร่วมกับการรักษาแบบเดียวกับระยะที่ 1

ปฏิบัติตัวอย่างไรห่างไกลโรคริดสีดวงทวารหนัก
1. รับประทานอาหารที่มีกาก ( Fiber Food) เช่น ผักสด ผลไม้สด เพราะผักและผลไม้จะไม่สามารถย่อยสลายได้หมด และสามารถดูดน้ำกลับจากลำไส้ ส่งผลให้กากอุจจาระมีลักษณะนุ่มและอุ้มน้ำอยู่ภายใน และเมื่อถ่ายอุจจาระจะทำให้ไม่ต้องออกแรงเบ่งมาก
2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะเมื่อร่างกายเคลื่อนไหว ลำไส้ก็จะมีการเคลื่อนไหว และไปบีบให้อุจจาระมีการเคลื่อนตัวทำให้ขับถ่ายสบาย
3. ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ เพื่อให้อุจจาระมีน้ำอุ้มอยู่ ส่งผลให้กากอุจจาระนุ่ม โดยทั่วไปการที่ร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่น้อยกว่าความต้องการจะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย เพราะโดยปกติร่างกายจะมีปริมาณน้ำในลำตัวคงที่ เมื่อเราดื่มน้ำน้อย ลำไส้ต้องทำหน้าที่ดูดน้ำกลับจากกากอาหารที่เคลื่อนที่ผ่านไป เพื่อเข้าสู่ระบบการไหลเวียนของเลือด ซึ่งเป็นการรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายตลอดเวลา และย่อมส่งผลต่อการแข็งตัวของอุจจาระอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เห็นไหมล่ะครับว่าไม่ยากเลยที่เราจะดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคริดสีดวงทวารหนัก ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ
----------------------------------------------------------
นวดเส้น ช่วยสะเก็ดเงิน?
ขอเชิญเข้าฟังการประชุม เรื่อง “นวดเส้น ยืดสาย ช่อยผ่อนคลาย ช่วยสะเก็ดเงิน” เพื่อให้ความรู้แบบองค์รวมแก่ญาติและผู้ป่วยสะเก็ดเงิน รวมทั้งผู้สนใจ ในวันพุธ 23 พ.ค. 50 เวลา 13.00 -15.00 น. ณ ห้องประชุมเมระนี ฯ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 9 รพ.ศิริราช สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2419 7000 ต่อ 4332-3
กำลังโหลดความคิดเห็น