คอลัมน์...มหัศจรรย์นวดแผนจีนทุยหนา
โดย...หมอหลินตันเฉียน
เมื่อฟังข้อมูลเกี่ยวกับที่มาและที่ไปของโรคจมูกอักเสบกันไปเรียบร้อยแล้ว คงจะเห็นกันชัดเจนว่า โรคนี้ไม่ใช่โรคธรรมดาที่จะนิ่งเฉยเลยผ่านกันได้ แต่หากต้องเร่งรักษาให้หายขาดโดยไว มิเช่นนั้นแล้วจะนำมาซึ่งอันตรายที่ร้ายแรงในภายหลังได้

สำหรับการรักษาด้วยศาสตร์ทุยหนานั้น มีหลากหลายวิธีด้วยกัน และต้องบำบัดไปตามต้นเหตุแห่งการเกิดโรค ซึ่งในที่นี้จะมุ่งเน้นไปที่การรักษาโรคจมูกอักเสบที่มีสาเหตุมาจาก “ภูมิแพ้” เป็นหลัก
ขั้นตอนที่ 1 ของการรักษา เป็นการนวดที่จุดสำคัญยิ่งนั่นคือ “จุดอิ๋งเซียง” หรือจุดที่เรารู้จักกันในชื่อของ “ปีกจมูก” โดยการนวดในขั้นนี้ ถ้าผู้ป่วยไปให้แพทย์จีนที่เชี่ยวชาญรักษาจะต้องนอนหงายราบไปกับพื้นที่ แต่ถ้าอยากจะนวดรักษาตัวเองเบื้องต้นก็สามารถทำได้โดยที่ไม่ต้องนอน ซึ่งก็ไม่ได้ผิดกติกาประการใด
จากนั้นให้ใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้างกดลงไปไปบนปีกจมูกแล้วคลึงไปมา เสร็จแล้วให้ย้ายไปกดที่จุดสำคัญอีกจุดหนึ่งคือจุดที่อยู่บริเวณสองข้างของลูกกระเดือก ซึ่งถ้าเป็นผู้ชายก็จะสังเกตเห็นได้ง่ายหน่อย แต่ถ้าเป็นผู้หญิง เมื่อไม่มีลูกกระเดือกปรากฏให้เห็นชัดเหมือนผู้ชาย ก็ต้องให้ไปดูตำแหน่งลูกกระเดือกของผู้ชายว่าอยู่ตรงไหน แล้วย้ายมากดจุดของตัวเอง
ทั้งนี้ แต่ละจุดทั้งจุดอิ๋งเซียงและจุดที่อยู่สองข้างของลูกกระเดือก ให้กดและคลึงประมาณจุดละ 1-2 นาที
ขั้นตอนที่ 2 เป็นการกระตุ้นการทำงานของอวัยวะเจ้าปัญหาหรือจมูกเพื่อนำให้เกิดความอุ่นร้อนและกระตุ้นเลือดลมให้ไหลเวียนได้สะดวกขึ้น ด้วยการใช้นิ้วมือถูขึ้นลงตั้งแต่บริเวณจุดอิ๋งเซียงไล่ขึ้นไปจนถึงบริเวณดั้งจมูก ถูขึ้นลงไปมาประมาณสัก 4-5 ครั้ง หรือจนกระทั่งเกิดความร้อน
ขั้นตอนที่ 3 ก็เป็นการนวดจุดที่เกี่ยวข้องอีกจุดหนึ่งคือจุดที่บริเวณหน้าผาก โดยให้ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างกดลงตรงจุดที่อยู่หว่างกลางของนิ้วทั้งสองข้าง จากนั้นให้แยกนวดซ้ายขวาเรื่อยไปจนถึงบริเวณขมับ
ขั้นตอนที่ 4 จะเปลี่ยนจากการกดเป็นการจับนวด โดยใช้นิ้วหัวแม่และนิ้วชี้จับบริเวณจุดสำคัญ 4 จุดในลักษณะของก้ามปูที่บริเวณจุดบริเวณท้ายทอย จุดที่ตรงหัวไหล่ จุดข้อพับของข้อมือ และจุดที่อยู่บริเวณง่ามมือระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้
ขั้นตอนที่ 5 เปลี่ยนจากนอนหงายย้ายไปเป็นนอนคว่ำราบลงไปกับพื้น จากนั้นให้ใช้อุ้งมือ “ถู” บริเวณแผ่นหลังจากบนลงล่างขึ้นลงจนเกิดความร้อนเพื่อให้เลือดลมไหวเวียนสะดวก
นั่นคือ 5 ขั้นตอนพื้นฐานสำหรับการนวดเพื่อรักษาโรคจมูกอักเสบที่มีเหตุจากโรคภูมิแพ้
อย่างไรก็ตาม เมื่อนวดมาถึงขั้นตอนที่ 5 ก็ต้องมาแยกแยะวิเคราะห์เหตุของโรคกันอีกครั้งว่าเป็นผลมาจากอะไร คือเป็นผลมาจากภาวะความพร่องของม้าม ตับหรือไต ก่อนที่จะเลือกใช้วิธีการรักษา “เฉพาะ” เพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อไป
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นเพราะปอดพร่อง ก็จะกด คลึงและนวดลงไปในจุดที่เกี่ยวข้องกับปอด ถ้าเป็นม้ามพร่องก็จะกด คลึงและนวดลงไปในจุดที่เกี่ยวข้องกับม้าม หรือถ้าเป็นไตพร่องก็จะกด คลึงและนวดลงไปในจุดที่เกี่ยวข้องกับไต
ทีนี้ ก็มาถึงวิธีการนวดเพื่อรักษาตัวเองเป็นการเฉพาะ เนื่องจากบางวิธีที่กล่าวมาข้างต้นก็ไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ เช่น จุดที่ต้องนวดบริเวณแผ่นหลัง ซึ่งวิธีการนวดก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร แล้วก็สามารถนวดได้ในทุกที่ทุกเวลาที่สะดวก โดยที่เกิดประสิทธิผลในการรักษาเช่นเดียวกัน
จุดแรกนำคือ “จุดชิงหมิง” ที่อยู่ด้านข้างของจมูกด้านบน หรือจุดที่อยู่บริเวณมุมของหัวตาทั้งสองข้าง โดยให้ใช้ปลายนิ้วชี้กดและคลึง จากนั้นให้ย้ายไปที่จุดที่สอง โดยใช้หัวแม่มือกดและคลึงที่ขมับทั้งสองข้าง
ส่วนจุดที่สาม ก็ให้กดและคลึง “จุดอิ้นถาง” ที่อยู่บริเวณหว่างคิ้วทั้งสองข้าง เสร็จแล้วก็ต่อเนื่องในจุดที่สี่คือนวดตั้งแต่บริเวณหัวคิ้วกลางหน้าผากแล้วนวดแยกไปซ้ายขวา
สำหรับจุดที่ห้า ให้ใช้ปลายนิ้วชี้กดและคลึงที่บริเวณปีกจมูกทั้งสองข้าง จุดที่หกให้ใช้โคนนิ้วหัวแม่มือถูข้างจมูกทั้งสองข้าง และจุดที่เจ็ดให้ใช้โคนนิ้วหัวแม่มือนวดไล่ตั้งแต่สองข้างจมูกแล้วลากอ้อมผ่านโหนกแก้มวนขึ้นไปด้านบนตรงขมับทั้งสองข้าง
ส่วนจุดที่แปด ให้กดจุดสำคัญสองจุดที่อยู่บริเวณท้ายทอยหรือต้นคอทั้งสองข้างและปิดท้ายด้วยการกดจุดที่เก้าซึ่งอยู่บริเวณตรงกลางของกะโหลกศีรษะด้านหลัง แล้วนวดลงมาถึงจุดต้นคอ
...เป็นไงครับ จะเห็นว่า การนวดเพื่อรักษาโรคจมูกอักเสบไม่ได้ยากเย็นอะไร ซึ่งใครที่กำลังเป็นโรคนี้อยู่ก็สามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที แล้วสัปดาห์หน้ามาพบกันใหม่กับโรคใหม่นั่นคือ ทุยหนากับการนวดเพื่อ “คนสายตาสั้น” โดยเฉพาะ
โดย...หมอหลินตันเฉียน
เมื่อฟังข้อมูลเกี่ยวกับที่มาและที่ไปของโรคจมูกอักเสบกันไปเรียบร้อยแล้ว คงจะเห็นกันชัดเจนว่า โรคนี้ไม่ใช่โรคธรรมดาที่จะนิ่งเฉยเลยผ่านกันได้ แต่หากต้องเร่งรักษาให้หายขาดโดยไว มิเช่นนั้นแล้วจะนำมาซึ่งอันตรายที่ร้ายแรงในภายหลังได้
สำหรับการรักษาด้วยศาสตร์ทุยหนานั้น มีหลากหลายวิธีด้วยกัน และต้องบำบัดไปตามต้นเหตุแห่งการเกิดโรค ซึ่งในที่นี้จะมุ่งเน้นไปที่การรักษาโรคจมูกอักเสบที่มีสาเหตุมาจาก “ภูมิแพ้” เป็นหลัก
ขั้นตอนที่ 1 ของการรักษา เป็นการนวดที่จุดสำคัญยิ่งนั่นคือ “จุดอิ๋งเซียง” หรือจุดที่เรารู้จักกันในชื่อของ “ปีกจมูก” โดยการนวดในขั้นนี้ ถ้าผู้ป่วยไปให้แพทย์จีนที่เชี่ยวชาญรักษาจะต้องนอนหงายราบไปกับพื้นที่ แต่ถ้าอยากจะนวดรักษาตัวเองเบื้องต้นก็สามารถทำได้โดยที่ไม่ต้องนอน ซึ่งก็ไม่ได้ผิดกติกาประการใด
จากนั้นให้ใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้างกดลงไปไปบนปีกจมูกแล้วคลึงไปมา เสร็จแล้วให้ย้ายไปกดที่จุดสำคัญอีกจุดหนึ่งคือจุดที่อยู่บริเวณสองข้างของลูกกระเดือก ซึ่งถ้าเป็นผู้ชายก็จะสังเกตเห็นได้ง่ายหน่อย แต่ถ้าเป็นผู้หญิง เมื่อไม่มีลูกกระเดือกปรากฏให้เห็นชัดเหมือนผู้ชาย ก็ต้องให้ไปดูตำแหน่งลูกกระเดือกของผู้ชายว่าอยู่ตรงไหน แล้วย้ายมากดจุดของตัวเอง
ทั้งนี้ แต่ละจุดทั้งจุดอิ๋งเซียงและจุดที่อยู่สองข้างของลูกกระเดือก ให้กดและคลึงประมาณจุดละ 1-2 นาที
ขั้นตอนที่ 2 เป็นการกระตุ้นการทำงานของอวัยวะเจ้าปัญหาหรือจมูกเพื่อนำให้เกิดความอุ่นร้อนและกระตุ้นเลือดลมให้ไหลเวียนได้สะดวกขึ้น ด้วยการใช้นิ้วมือถูขึ้นลงตั้งแต่บริเวณจุดอิ๋งเซียงไล่ขึ้นไปจนถึงบริเวณดั้งจมูก ถูขึ้นลงไปมาประมาณสัก 4-5 ครั้ง หรือจนกระทั่งเกิดความร้อน
ขั้นตอนที่ 3 ก็เป็นการนวดจุดที่เกี่ยวข้องอีกจุดหนึ่งคือจุดที่บริเวณหน้าผาก โดยให้ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างกดลงตรงจุดที่อยู่หว่างกลางของนิ้วทั้งสองข้าง จากนั้นให้แยกนวดซ้ายขวาเรื่อยไปจนถึงบริเวณขมับ
ขั้นตอนที่ 4 จะเปลี่ยนจากการกดเป็นการจับนวด โดยใช้นิ้วหัวแม่และนิ้วชี้จับบริเวณจุดสำคัญ 4 จุดในลักษณะของก้ามปูที่บริเวณจุดบริเวณท้ายทอย จุดที่ตรงหัวไหล่ จุดข้อพับของข้อมือ และจุดที่อยู่บริเวณง่ามมือระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้
ขั้นตอนที่ 5 เปลี่ยนจากนอนหงายย้ายไปเป็นนอนคว่ำราบลงไปกับพื้น จากนั้นให้ใช้อุ้งมือ “ถู” บริเวณแผ่นหลังจากบนลงล่างขึ้นลงจนเกิดความร้อนเพื่อให้เลือดลมไหวเวียนสะดวก
นั่นคือ 5 ขั้นตอนพื้นฐานสำหรับการนวดเพื่อรักษาโรคจมูกอักเสบที่มีเหตุจากโรคภูมิแพ้
อย่างไรก็ตาม เมื่อนวดมาถึงขั้นตอนที่ 5 ก็ต้องมาแยกแยะวิเคราะห์เหตุของโรคกันอีกครั้งว่าเป็นผลมาจากอะไร คือเป็นผลมาจากภาวะความพร่องของม้าม ตับหรือไต ก่อนที่จะเลือกใช้วิธีการรักษา “เฉพาะ” เพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อไป
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นเพราะปอดพร่อง ก็จะกด คลึงและนวดลงไปในจุดที่เกี่ยวข้องกับปอด ถ้าเป็นม้ามพร่องก็จะกด คลึงและนวดลงไปในจุดที่เกี่ยวข้องกับม้าม หรือถ้าเป็นไตพร่องก็จะกด คลึงและนวดลงไปในจุดที่เกี่ยวข้องกับไต
ทีนี้ ก็มาถึงวิธีการนวดเพื่อรักษาตัวเองเป็นการเฉพาะ เนื่องจากบางวิธีที่กล่าวมาข้างต้นก็ไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ เช่น จุดที่ต้องนวดบริเวณแผ่นหลัง ซึ่งวิธีการนวดก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร แล้วก็สามารถนวดได้ในทุกที่ทุกเวลาที่สะดวก โดยที่เกิดประสิทธิผลในการรักษาเช่นเดียวกัน
จุดแรกนำคือ “จุดชิงหมิง” ที่อยู่ด้านข้างของจมูกด้านบน หรือจุดที่อยู่บริเวณมุมของหัวตาทั้งสองข้าง โดยให้ใช้ปลายนิ้วชี้กดและคลึง จากนั้นให้ย้ายไปที่จุดที่สอง โดยใช้หัวแม่มือกดและคลึงที่ขมับทั้งสองข้าง
ส่วนจุดที่สาม ก็ให้กดและคลึง “จุดอิ้นถาง” ที่อยู่บริเวณหว่างคิ้วทั้งสองข้าง เสร็จแล้วก็ต่อเนื่องในจุดที่สี่คือนวดตั้งแต่บริเวณหัวคิ้วกลางหน้าผากแล้วนวดแยกไปซ้ายขวา
สำหรับจุดที่ห้า ให้ใช้ปลายนิ้วชี้กดและคลึงที่บริเวณปีกจมูกทั้งสองข้าง จุดที่หกให้ใช้โคนนิ้วหัวแม่มือถูข้างจมูกทั้งสองข้าง และจุดที่เจ็ดให้ใช้โคนนิ้วหัวแม่มือนวดไล่ตั้งแต่สองข้างจมูกแล้วลากอ้อมผ่านโหนกแก้มวนขึ้นไปด้านบนตรงขมับทั้งสองข้าง
ส่วนจุดที่แปด ให้กดจุดสำคัญสองจุดที่อยู่บริเวณท้ายทอยหรือต้นคอทั้งสองข้างและปิดท้ายด้วยการกดจุดที่เก้าซึ่งอยู่บริเวณตรงกลางของกะโหลกศีรษะด้านหลัง แล้วนวดลงมาถึงจุดต้นคอ
...เป็นไงครับ จะเห็นว่า การนวดเพื่อรักษาโรคจมูกอักเสบไม่ได้ยากเย็นอะไร ซึ่งใครที่กำลังเป็นโรคนี้อยู่ก็สามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที แล้วสัปดาห์หน้ามาพบกันใหม่กับโรคใหม่นั่นคือ ทุยหนากับการนวดเพื่อ “คนสายตาสั้น” โดยเฉพาะ