“วรากรณ์” ระบุไทยยังจำเป็นต้องมีหวยบนดินเพื่อแข่งกับหวยใต้ดิน แต่ต้องควบคู่การปราบเจ้ามือหวยใต้ดินจริงจัง และให้การศึกษาสร้างค่านิยมการเล่นหวยเป็นสิ่งแปลกแยก พร้อมประกาศไม่สนใช้ทุนหวยเป็นทุนการศึกษา ชี้มีงบประมาณอื่นเพียงพอ ขณะที่ รมช.พม.ค้านหวยบนดิน รัฐ “ได้ไม่คุ้มเสีย” แต่ถ้าทั้งคณะรัฐมนตรีเห็นด้วยก็ต้องยอม
มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ แผนงานส่งเสริมความมั่นคงปลอดอบายมุข จัดเสวนาเรื่อง “การกลับมาของหวยบนดิน!?” โดยมีผู้ร่วมเสวนา เช่น รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นพ.พลเดช ปิ่นประทีป รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ศ.นพ ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานกรรมการอำนวยการแผนงานส่งเสริมชีวิตมั่นคงปลอดอบายมุข นายฉิ้น บัวบาน ตัวแทนเครือข่ายชุมชน จากพื้นที่นำร่องส่งเสริมชีวิตมั่นคง
รศ.ดร.วรากรณ์ กล่าวยอมรับว่า คนไทยมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับหวยหรือกับการพนันอย่างมาก มีเงินหมุนเวียนในระบบหวยปีละกว่า 300,000 ล้านบาท ประชากรร้อยละ 50 ซื้อสลากกินแบ่ง และร้อยละ 40 เล่นหวยบนดินไปด้วย ส่วนที่เหลือเล่นหวยใต้ดิน ดังนั้น หวยบนดินเป็นความจำเป็นที่ทำให้คนสามารถซื้อหวยได้โดยที่ประโยชน์ไม่ไปตกกับเจ้ามือหวยใต้ดิน แต่ที่ดีที่สุดคือต้องไม่มีหวยไม่มีลอตเตอรี่เลย
รศ.ดร.วรากรณ์ กล่าวว่า จะต้องปราบการเล่นหวยใต้ดินอย่างจริงจัง แม้จะปราบยากเนื่องจากมีเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย แต่ก็เชื่อว่าทำได้เพราะตำรวจน่าจะรู้รายชื่อเจ้ามือหวยใต้ดินแล้ว ขณะที่ต้องไม่มอมเมาประชาชน และตอบสนองความต้องการของคนไทยที่ต้องการเล่นหวย ในระยะยาวควรมีมาตรการแก้ปัญหาสังคม เช่น ออกรางวัลน้อยลง พร้อมต่อสู้ด้วยการสอนปลูกฝังผ่านการศึกษาให้นักเรียนเห็นพิษภัยของอบายมุข ซึ่งเชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน
รศ.ดร.วรากรณ์ ยังเสนอให้การออกหวยปรับเปลี่ยนเป็นการส่งเสริมการออมเงิน สามารถนำสลากไปขึ้นเงินคืนได้ เช่นเดียวกับสลากออมสิน พร้อมรณรงค์ให้การเล่นหวยและการพนันเป็นเรื่องแปลกแยก เหมือนกับการทำให้คนสูบบุหรี่เป็นคนส่วนน้อยของสังคม
สำหรับการใช้เงินหวยเพื่อเป็นทุนการศึกษา ตนคิดว่ากระทรวงศึกษาธิการไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินหวยแต่อย่างใด รัฐบาลสามารถจัดสรรเงินอื่นสนับสนุนแทนได้ และประเทศของเราก็อยู่ได้มาอย่างยาวนานโดยไม่ต้องพึ่งเงินหวยบนดิน ที่แม้จะช่วยคนจนได้บ้าง แต่เป็นการทำร้ายคนจนมากกว่า
นพ.พลเดช กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการออกหวยบนดิน และรัฐบาลควรมีการป้องกันทางสังคม ปรับค่านิยม ลด ละ เลิก ไม่สนับสนุนการเล่นหวย พร้อมปกป้องคนรุ่นใหม่ไม่ให้เข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตนเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรตามใจสังคมไปเรื่อยๆ แต่ต้องฝึกสังคมให้อยู่ในกรอบกติกาที่เหมาะสม ซึ่งการตั้งเงื่อนไขให้เข้าถึงยากก็เป็นอีกวิธีการหนึ่ง
“เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันกับการออกหวยบนดินในขณะนี้ ซึ่งเป็นช่วงท้ายของรัฐบาลชั่วคราวเฉพาะกิจ ดูแล้วผมคิดว่าเราจะได้ไม่คุ้มเสีย ถามว่าจะทำให้ได้เงินมากขึ้นหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ ถามว่าจะแก้ปัญหาหวยใต้ดินได้หรือไม่ ก็ไม่แน่ใจ ถามว่าประชาชนพอใจหรือไม่ ทั้งผู้ซื้อผู้ขายก็เริ่มไม่พอใจ และถามว่าจะได้ประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ ก็ยังไม่แน่นัก ซึ่งผมก็ยังไม่รู้เหตุผลที่ชัดเจนของการรื้อฟื้นหวยบนดินอีกครั้ง พรุ่งนี้จะหยิบมาหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีดู แต่ถ้าทั้งคณะเห็นด้วย ผมก็ต้องทำใจ และไปด้วยเป็นทีมเดียวกัน แพ้ชนะด้วยกัน แต่จุดยืนของ พม.ยังเป็นเป้าหมายอุดมคติ คือ มีชีวิตมั่นคงและปลอดอบายมุข และการรณรงค์ต่างๆ ก็ต้องทำคู่กันไป” นพ.พลเดช กล่าว
ด้าน นายฉิ้น กล่าวว่า หวยบนดินแบบใหม่นี้แม้รัฐบาลตั้งใจจะให้แข่งกับหวยใต้ดิน แต่ดูรูปแบบแล้วดึงดูดใจน้อยกว่าหวยใต้ดินเสียอีก บางแห่งมีการให้เครดิต 3-4 งวด ซึ่งน่าสนใจกว่า ทั้งนี้ รัฐควรทำความเข้าใจวิถีชีวิตประชาชนมากขึ้น ที่ชาวบ้านยังเล่นหวยเพราะมีให้เล่น แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เล่นได้ อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าการออกหวยบนดินไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันกับแนวทางส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงของรัฐบาลแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเสวนายังมีกลุ่มสื่อเยาวชนปลอดอบายมุขยื่นแถลงการณ์ให้รัฐบาลยกเลิกหวยรัฐบาลทุกชนิด ปราบปรามหวยใต้ดินอย่างจริงจัง สนับสนุนนักเรียนที่ได้ทุนหวยไปเรียนต่อให้ได้รับทุนอื่นๆ ทดแทน และส่งเสริมอาชีพการศึกษาแก่ประชาชนให้พึ่งพาตนเองได้จริง