ประชาชนสนใจจอง “พระเสาชิงช้า” กันอย่างคึกคัก เฉพาะแค่ครึ่งวันที่ผ่านมายอดสั่งจองรวมมูลค่าเกือบ 700,000 บาท โดยส่วนใหญ่นิยมจองแบบรวมพิมพ์ ชุดละ 499 บาท และพระศรีศากยมุนีแบบครอบองค์กะไหล่ทอง ราคาองค์ละ 199 บาท และพระตรีมูรตินิยมแบบปัดทอง ราคาองค์ละ 199 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กทม.ได้เปิดให้ประชาชนสั่งจองพระศรีศากยมุนี และพระตรีมูรตี เนื่องในโอกาสฉลองเสาชิงช้าใหม่ ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการ กทม. ซึ่งมีข้าราชการ กทม.และประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเดินทางมาสั่งจองกันอย่างคึกคัก โดยจากการสอบถามเจ้าหน้าที่รับจองพบว่าส่วนใหญ่จะสั่งจองพระผงชุดรวม 4 แบบพิมพ์ที่มีทั้งพระศรีศากยมุนี และพระตรีมูรตี ราคาชุดละ 499 บาท นอกจากนี้ยังนิยมสั่งจองพระศรีศากยมุนีแบบครอบองค์กะไหล่ทอง ราคาองค์ละ 199 บาท ขณะที่พระตรีมูรตินิยมแบบปัดทอง ราคาองค์ละ 199 บาท ซึ่งขณะนี้มียอดสั่งจองรวมเกือบ 700,000 บาท โดยบางรายก็สั่งจองเกือบ 20,000 บาท 15,000 บาท หรือ 6,000 บาท
นายบัณฑิต ขุนชาวนา ช่างทำกุญแจข้างศาลาว่าการ กทม. ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มาจองพระเสาชิงช้า กล่าวว่า ที่มาสั่งจองเนื่องจากเนื้อพระจะมีมวลสารของเสาชิงช้าซึ่งถือเป็นไม้มงคลอายุนับ 100 ปี รวมทั้งยังมีความศักดิ์สิทธิ์ จะเห็นได้จากครั้งที่ช่างมารื้อถอนเสาชิงช้าตัวเก่าแล้วที่เจาะหัก 2-3 ครั้งจนช่างต้องบวงสรวงใหม่จึงสำเร็จ ตอนแรกตั้งจะมาสั่งจองแบบรวมพิมพ์ 5 ชุด แต่เมื่อมาเห็นว่ามีแบบพิเศษก็เลยตัดสินใจสั่งจองแบบพิเศษก่อนจากนั้นค่อยกลับมาจองแบบรวมพิมพ์ใหม่ พระที่ได้ก็จะนำไปให้ญาติผู้ใหญ่และให้เพื่อน รวมทั้งเก็บไว้บูชาเอง
นายกมล อนุรักษ์กมลกุล ประกอบอาชีพค้าขาย ผู้ซึ่งจองพระเกือบ 17,000 บาท กล่าวว่า ที่ตนมาสั่งจองพระเสาชิงช้าในวันนี้เพราะเป็นพระที่ไม่ได้มีการสร้างบ่อยๆ อีกทั้งผู้สร้างยังมีความน่าถือ ก็จะนำไปเก็บไว้เป็นที่ระลึก และนำไปเป็นของขวัญให้แก่ญาติผู้ใหญ่ โดยในวันนี้ตนตั้งใจมาแบบเป็นชุดรวม 4 แบบพิมพ์
สำหรับวัตถุมงคล “พระเสาชิงช้า” ที่ กทม.จัดสร้างมีหลายแบบ ประกอบด้วย ด้านหน้าเป็น พระศรีศากยมุนี ด้านหลังเป็นรูปเสาชิงช้า และพระวิหารวัดสุทัศนฯ 3 แบบพิมพ์ รูปสี่เหลี่ยม ขนาด 4 x 2.7 ซม. รูปวงกลม ขนาด 3.3 ซม. และรูปไข่ ขนาด 3.4 x 2.8 ซม. ราคาองค์ละ 99 บาท ด้านหน้าเป็นพระตรีมูรติ (ปางยืน) ด้านหลังเป็นเสาชิงช้า ราคาองค์ละ 99 บาท หากสั่งจองเป็นชุด (4 แบบพิมพ์) บรรจุในกล่อง ราคาชุดละ 499 บาท นอกจากนี้ยังได้จัดสร้างพระเสาชิงช้าในรูปวงกลมขนาดใหญ่ แบบนูน โดยองค์ที่ด้านหน้าเป็นพระศรีศากยมุนี ราคาองค์ละ 159 บาท ส่วนองค์ที่ด้านหน้าเป็นระตรีมูรติ (ปางนั่ง) แบบปัดทอง และครอบองค์กะไหล่ทองราคาองค์ละ 199 บาท
ด้านนายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัด กทม.กล่าวว่า พระเสาชิงช้าที่ กทม.จัดสร้างขึ้นนี้เป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวเพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองเสาชิงช้าใหม่เท่านั้น โดยจัดสร้างทั้งสิ้น 1 ล้านองค์ ถือเป็นประวัติศาสตร์ของการจัดสร้างวัตถุมงคลที่มีความพิเศษ เพราะพระที่จัดสร้างเป็นพระผงที่ใช้มวลสารที่มีความพิเศษและเป็นมงคล ประกอบด้วย มวลสารจากเสาชิงช้าต้นเก่าและใหม่ มวลสารจากวัดต่างๆ 76 จังหวัดๆ ละ 9 วัด และมวลสารจากโอกาสมหามงคล ได้แก่ 60 พรรษามหาราชินี, 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, 80 พรรษาสมเด็จย่า และ 72 พรรษามหาราชินี ทั้งนี้ กทม.มีกำหนดจะจัดพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ 26 กรกฎาคม 2550 โดยนิมนต์เกจิดังจากทั่วประเทศจำนวน 99 รูป มาร่วมปลุกเสก ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. และสามารถรับได้ในวันที่ 2 ส.ค.เป็นต้นไป ณ ที่สั่งจองโดยมีกำหนดเวลา 30 วัน สำหรับรายได้ทั้งหมด กทม.จะนำไปจัดตั้งเป็นกองทุนบูรณปฏิสังขรณ์เสาชิงช้าต่อไป
สำหรับพระเสาชิงช้าจะเปิดให้จองไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค. สามารถสั่งจองได้ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการ กทม.ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.โดยไม่เว้นวันหยุด หรือไม่สะดวกสามารถสั่งจองได้ที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ในวันและเวลาราชการ
และล่าสุดได้มีการสรุปยอดจองพระเสาชิงช้าเมื่อเวลา 17.00 น.ของวันแรกในการเปิดสั่งจองมีประชาชนให้ความสนใจสั่งจองประมาณ 500 ใบจองคิดเป็นมูลค่า 850,000 บาท โดยพระที่ได้รับความนิยมในการสั่งจองมากที่สุดได้แก่พระตรีมูรตี รูปวงกลมขนาดใหญ่ทั้ง แบบปัดทอง ,ครอบองค์กะไหล่ทองราคาองค์ละ 199 บาท และพระชุดรวม 4 แบบพิมพ์ ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่รับจองทราบว่าเหตุที่ประชาชนสั่งจองรูปวงกลมขนาดใหญ่จำนวนมากนั้นเนื่องจากเกรงว่าจะสร้างออกมาอย่างจำกัดแต่ในความจริงแล้วมียอดจองจำนวนเท่าไหร่ก็จะผลิตตามยอดจองนั้น อย่างไรก็ตามคาดว่าพระศรีศากยมุนีและพระตรีมูรตีในรูปแบบธรรมดาที่สร้างจำนวน 1 ล้านองค์จะได้รับความนิยมจากประชาชนมากขึ้นเพราะสร้างอย่างจำกัด
