นักศึกษา ม.นเรศวร ยื่นหนังสือถึงศาลปกครองสูงสุดหนุนใช้คะแนนโอเน็ตครั้งที่ 2 สมัครแอดมิชชัน ชี้มติ ทปอ.ใช้โอเน็ตครั้งแรกครั้งเดียวละเมิดสิทธิเด็กและขัดรัฐธรรมนูญ ประกาศชัดไม่ได้ต้องการเอาเปรียบใคร
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลปกครองสูงสุด นายณพวรรช ลิ้มจำรูญธร นักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเผยภายหลังยื่นหนังสือศาลปกครองสุงสุดว่า หลังจากที่ตนทราบข่าวเกี่ยวกับมติที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยยืนยันให้ใช้ผลการสอบโอเน็ตครั้งแรกครั้งเดียวในการยื่นสมัครแอดมิชชัน และระบุว่าไม่ได้ละเมิดสิทธิเด็ก ซึ่งตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงได้จัดทำรายละเอียดต่างๆ เสนอต่อศาลปกครองสูงสุด เกี่ยวกับคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย หรือจีพีเอเอ็กซ์ คะแนนเฉลี่ยรายกลุ่มสาระหรือจีพีเอ คะแนนทดสอบการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งชาติ หรือโอเน็ต
“ผมคิดว่าการห้ามนำผลโอเน็ตครั้งที่ 2 ไปใช้สมัครแอดมิชชั่นเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก ตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และขัดกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ.2549 เนื่องจากคณะและสาขาในสายสังคมศาสตร์ ส่วนใหญ่ใช้คะแนนโอเน็ต ในการพิจารณาคัดเลือกเท่านั้น หากไม่ให้เด็กสอบโอเน็ตได้หลายครั้งเพื่อใช้คะแนนที่ดีที่สุดไปยื่นสมัคร ถือเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก”
นายณพวรรช กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้ขอให้ศาลปกครองสูงสุดเห็นใจนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งยื่นฟ้องต่อศาลปกครองจังหวัดขอนแก่น จนศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพราะการดำเนินการดังกล่าวของนักศึกษากลุ่มนี้ไม่ได้ต้องการเอาเปรียบใคร อย่างไรก็ตาม ตนทราบว่าศาลปกครองจังหวัดขอนแก่นมีคำแนะนำถึงนักศึกษา ม.ขอนแก่น ว่าหากศาลกำหนดวันอ่านคำพิพากษา ควรจะมีผู้ใหญ่มาช่วยเหลือ ซึ่งเท่าที่ทราบ พญ.กมลพรรณ ชีวพันธุศรี ประธานเครือข่ายพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อการปฏิรูปการศึกษา และทนายความจากเครือข่ายฯ จะเดินทางไปให้การช่วยเหลือ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับหมายศาลแต่อย่างใด
ด้าน พญ.กมลพรรณ กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯ พร้อมให้การช่วยเหลือนักศึกษา ม.ขอนแก่น และได้เตรียมทนายความไว้แล้ว ขณะนี้นักศึกษากลุ่มดังกล่าวอยู่ระหว่างการจัดทำคำคัดค้านคำอุทธรณ์ และทราบว่าศาลปกครองจังหวัดขอนแก่น ได้ส่งสำเนาคำอุทธรณ์ของ สกอ.และ สทศ.ให้แก่นักศึกษาแล้ว โดยศาลขอให้นักศึกษาทำคำค้านส่งต่อศาลภายในวันที่ 2 พ.ค.นี้
สำหรับนายวรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุดซึ่งเป็นตุลาการเจ้าของสำนวนนั้น เท่าที่ทราบข้อมูลในอดีตเคยเป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เคยเป็นที่ปรึกษากฎหมายของ ทปอ.
ด้าน นายยศ ตันสกุล อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล เด็กซิ่ลที่สมัครแอดมิชชัน ปี 2550 กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับเพื่อนๆ ในกลุ่มเด็กซิ่ลแล้วมีข้อสรุปว่าไม่ว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีมติใดออกมา เราก็ยินดีที่จะปฏิบัติตามมติของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) แต่เรายังมีจุดยืนว่ายังคัดค้านโอเน็ตครั้งเดียว เพราะเป็นการตัดสิทธิเสรีภาพทางการศึกษา ส่วนที่ถามว่าจะฟ้องฝ่ายเกี่ยวข้องต่อศาลปกครองกรณีที่พวกตนปฏิบัติตามมติทปอ.อย่างเคร่งครัดทำให้ไม่ได้สอบโอเน็ตครั้งที่ 2 นั้น จะปรึกษากับเพื่อนๆ อีกครั้ง ถ้าหากฟ้องแล้วก่อให้เกิดผลเสียหาย ก็จะไม่ฟ้อง แต่หากเป็นผลดีก็อาจจะฟ้อง
อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องว่าขอให้เปิดใจกว้างกว่านี้ หลายครั้งที่ให้สัมภาษณ์ทางสื่อ สะท้อนถึงความมีอคติกับกลุ่มเด็กซิ่ล