สาธารณสุขเตรียมเตรียมดันร่างประกาศกระทรวงให้กิจการการให้บริการรับเลี้ยงหรือดูแลเด็กและผู้สูงอายุ เป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เตรียมเสนอคณะกรรมการสาธารณสุขภายในเมษายนนี้ หากประกาศบังคับใช้ผู้ดำเนินกิจการจะต้องขอใบอนุญาตฯจากองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
นพ.โสภณ เมฆธน รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการเพื่อหามาตรการการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับการใช้บริการจัดหาพนักงานเพื่อดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย ว่า ถ้าดูตามลักษณะของกิจการที่เกี่ยวกับการให้บริการดังกล่าว สามารถใช้ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 เข้าไปควบคุมดูแลได้นั้น ได้แก่ 1. กิจการที่ให้บริการส่งพี่เลี้ยงไปดูแลเด็กตามบ้านโดยมี หรือไม่มีสถานรับเลี้ยงก็ตาม 2. กิจการรับเลี้ยงผู้สูงอายุและมีการจัดส่งพี่เลี้ยงไปดูแลผู้สูงอายุตามบ้าน 3. สถานที่ฝึกอบรมพี่เลี้ยงที่มีการส่งพี่เลี้ยงไปดูแลตามบ้าน ซึ่งการควบคุมจะเน้นด้านคุณสมบัติของผู้ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง และสถานที่รับเลี้ยงต้องได้มาตรฐานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยการออกประกาศกระทรวงกำหนดให้ “กิจการที่ให้บริการรับเลี้ยงหรือดูแลเด็กและผู้สูงอายุ” เป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ดี ประกาศนี้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะต้องออกข้อบัญญัติท้องถิ่นรองรับด้วย เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการฯ จะต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ในเรื่องนี้กรมฯ จะเร่งรัดเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการสาธารณสุขภายในปลายเดือนเมษายนนี้ เพื่อเสนอแนะให้รัฐมนตรีออกประกาศกระทรวงต่อไป
ในส่วนของการรับจัดหางานให้คนทำงานไปเป็นพี่เลี้ยงดูแลเด็กฯ ตามบ้าน โดยได้รับเงินเดือนค่าจ้างจากเจ้าบ้าน และรับจ้างเป็นพี่เลี้ยงตามบ้านโดยตรง รวมทั้งการดูแลผู้ป่วยและผู้พิการ อาจต้องใช้มาตรการด้านการประกอบโรคศิลปะหรือกฎหมายอื่น ซึ่งต้องหารือความเป็นไปได้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคอาจใช้มาตรการควบคุมเรื่อง “สัญญา” มาเสริมการควบคุมเพิ่มเติม
ทั้งนี้ จากการหารือกับผู้แทนของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สำนักพัฒนาสังคม สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกันทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่ออุดช่องโหว่กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสุขภาพเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วย ที่รับบริการจากภาครัฐและเอกชน และร่วมกันพัฒนามาตรฐานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองท้องถิ่นทั่วประเทศ ให้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการนี้น่าจะช่วยให้เจ้าของกิจการอบรมก่อส่งไปเป็นพี่เลี้ยงตามบ้าน และผู้บริโภคจะได้มั่นใจว่าจ่ายเงินแล้วไม่ต้องมานั่งกังวลว่าลูกจะเป็นอะไรรึเปล่า