xs
xsm
sm
md
lg

สั่งสอบด่วน! กรณีเด็ก 17 ฟันปลอมติดคอตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สธ.สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของเด็ก 17 ปีที่ รพ.บางบาล จ.พระนคนศรีอยุธยา เหตุพ่อสงสัยหมอสะเพร่าทำฟันปลอมหลุดลงคอขณะใส่ท่อช่วยหายใจ ด้านปลัด สธ.เผยแพทย์ช่วยชีวิตเต็มความสามารถ โดยก่อนจะใส่ท่อช่วยหายใจพบฐานฟันเทียมที่ไม่มีฟัน 4 ซี่หน้าอยู่ในปากอยู่แล้ว แนะประชาชนใส่ฟันเทียมกับทันตแพทย์ และทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

จากกรณีที่ นายศักดิ์รินทร์ วงศ์ศรีฑา อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 3 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา หน้ามืดเป็นลมขณะรับประทานอาหารเย็นที่บ้าน ญาตินำตัวส่งโรงพยาบาลบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และเสียชีวิต โดยบิดาเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากแพทย์โรงพยาบาลรักษาผิดพลาดทำฟันปลอมหลุดเข้าไปติดหลอดลมจนทำให้บุตรชายขาดอากาศหายใจ

นพ.มรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ต้องรอผลการชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตดังกล่าวว่าฟันปลอมติดหลอดลมหรือว่าเกิดจากอะไรกันแน่ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ตระหนักถึงการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวทันทีเพื่อให้ความกระจ่างแก่สาธารณชน และให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และแพทย์ผู้ให้การรักษา

ด้านนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจาก นพ.ณัฐพล สว่างสุนทรเวศย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางบาล ว่าได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับแพทย์ผู้ให้การรักษานายศักดิ์รินทร์ โดยรับผู้ป่วยที่ห้องฉุกเฉิน เมื่อเวลา 19.20 น.วันที่ 7 เมษายน 2550 แรกรับผู้ป่วยไม่หายใจ ปลายมือปลายเท้าเขียว ตรวจวัดสัญญาณชีพไม่ได้ ชีพจรไม่เต้น เมื่อแพทย์เปิดปากผู้เสียชีวิตเพื่อเตรียมใส่ท่อช่วยหายใจ ไม่เห็นฟัน 4 ซี่หน้า แต่เห็นฐานฟันปลอมอยู่ในปากจำนวน 1 ชิ้นจึงหยิบออกมา และใส่ท่อช่วยหายใจ และได้พยายามกู้ชีพผู้ป่วยนาน 40 นาที แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ แพทย์ผู้รักษาได้ทำการรักษาตามหลักวิชาการอย่างสุดความสามารถ ซึ่งตามมาตรฐานก่อนช่วยชีวิตโดยใส่ท่อช่วยหายใจผู้ป่วยทุกราย แพทย์จะต้องดูว่ามีฟันปลอมหรือไม่ทุกครั้ง โดยรายนี้ได้ส่งศพไปสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง

ด้านทันตแพทย์สมนึก ชาญด้วยกิจ ทันตแพทย์ 10 ที่ปรึกษากรมอนามัย กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงคงต้องรอผลการชันสูตรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แต่กรณีนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ที่ใส่ฟันปลอมหรือฟันเทียมมีความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากฟันเทียมมี 2 ชนิด คือ แบบชั่วคราวและแบบถาวร โดยแบบชั่วคราวจะทำด้วยฐานพลาสติก สามารถถอดได้ ใช้ระหว่างรอการทำฟันเทียมชนิดถาวร ประสิทธิภาพการใช้งานประมาณ 70–80 เปอร์เซ็นต์ของฟันจริง จึงควรมาเปลี่ยนเป็นชนิดถาวรตามแพทย์แนะนำ ไม่ควรใส่นานเกิน 4–5 ปี เพราะจะหลวมหลุดได้ง่าย ไม่กระชับกับเหงือกเหมือนกับฟันเทียมชนิดถาวร ซึ่งมีหลายแบบทั้งชนิดยึดติดแบบถาวรกับฟันข้างเคียง หรือชนิดที่มีรากฟันเทียม และชนิดที่มีลักษณะเป็นโครงโลหะ ถอดได้ จะมีความกระชับ ยึดติดกับเหงือกได้ดีกว่า และประสิทธิภาพการใช้งานใกล้เคียงฟันจริง

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่ใส่ฟันเทียมอยู่แล้วอย่าวิตกกังวลว่าฟันที่ใส่อยู่จะหลุดลงลำคอ แต่ขอให้ดูแลระมัดระวัง คอยสำรวจดูว่าฟันชนิดถอดได้ที่ใส่อยู่หลวมหรือไม่ เช่น ใช้ลิ้นดุนแล้วหลุดออกได้ง่าย ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อแก้ไขปรับให้พอดี เวลานอนควรถอดออกและล้างทำความสะอาด

ทั้งนี้ การใส่ฟันเทียมควรระมัดระวังการขบเคี้ยวของแข็งหรือชิ้นใหญ่เกินไป โดยเฉพาะหากมีโรคประจำตัว เช่น เป็นโรคลมชัก หน้ามืดเป็นลมง่าย ควรใส่ฟันเทียมถาวรชนิดติดแน่นจะปลอดภัยกว่า และการทำฟันเทียมควรทำกับทันตแพทย์เท่านั้น อย่าทำกับร้านที่ขึ้นป้ายทำฟันทั่วไปที่ไม่มีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

กำลังโหลดความคิดเห็น