กอ.รมน.กทม.ประสานความร่วมมือทหาร ตำรวจ เทศกิจ อาสาสมัครเฝ้าระวังความปลอดภัยวันละ 1,500 คน พร้อมคลอด 10 มาตรการรักษาความปลอดภัยในงานกาชาดปี 2550 ติดตั้งกล้องวงจรปิด 23 จุด ย้ำทุกร้านจะต้องปิดซอกมุมหลืบให้มิดชิดกันผู้ไม่หวังดีก่อเหตุวุ่นวาย ขณะที่ประชาชนที่มาเที่ยวงานงดนำกระเป๋าใบโตมาใช้ในงาน
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กอ.รมน.กทม.ถึงมาตรการในการรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยสำหรับ “งานกาชาด ประจำปี 2550” ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.-6 เม.ย.50 ว่า ได้ประสานความร่วมมือจากทหาร ตำรวจ ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวัง ดังนี้คือ 1.แบ่งพื้นที่สำหรับปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัยไว้เป็น 4 ส่วน มีศูนย์ประสานงานกลาง รักษาการตลอด 24 ชั่วโมง
2.แต่ละพื้นที่จัดวางกำลังตำรวจ ทหาร เทศกิจ อาสาสมัครประชาชน รวมประมาณวันละ 1,500 คน เน้นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ความมั่นคง การก่อความไม่สงบในรูปแบบต่างๆ และอำนวยการจราจร
3.ประสานกองบัญชาการตำรวจนครบาลป้องกันเหตุและจับกุมเหตุอาชญากรรมลักทรัพย์ ล้วงกระเป๋า โจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และการเรียกเก็บเงินค่าที่จอดรถในทางสาธารณะต่างๆ
4.จัดชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ระเบิด และสุนัขดมกลิ่น ร่วมตรวจสอบพื้นที่การจัดงานตั้งแต่ก่อนเริ่มงานจนกระทั่งเสร็จสิ้นภารกิจ ตลอด 24 ชั่วโมง
5.ติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่สาธารณะโดยรอบพื้นที่ จำนวน 23 จุด บันทึกข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง และขอความร่วมมือร้านทุกร้านติดตั้งกล้องวงจรปิดอย่างน้อยร้านละ 2 ตัว ให้สามารถดูได้ครอบคลุมทั้งในร้านและพื้นที่สาธารณะนอกร้าน
6.ประตูทางเข้างานกาชาดทั้ง 4 ประตู มีการติดตั้งซุ้มประตูตรวจโลหะประตูละ 2 เครื่อง และตำรวจคอยตรวจบุคคลผ่านเข้าออกด้วยเครื่องตรวจโลหะชนิดมือถือ
7.การปิดกั้นจราจรมี 4 ด้าน คือ ด้านถนนอู่ทองใน แยกวัดเบญจมบพิตร แยก พล.1รอ. แยกสวนมิสกวัน และบริเวณโดยรอบพื้นที่การจัดงาน โดยวันราชการปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันหยุดราชการปิดตั้งแต่ 09.00 น.จนกว่างานจะเลิกในแต่ละวัน โดยขอความร่วมมือประชาชนใช้บริการขนส่งมวลชนแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล
8.ขอความร่วมมือแต่ละร้านที่จัดงานให้จัดหาพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำร้านตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมปิดกั้นช่อง หรือซอกมุมต่างๆ ของเวที โต๊ะ หรืออุปกรณ์อื่นๆ เพื่อป้องกันมิให้บุคคลอื่นนำวัตถุต้องสงสัยไป ซุกซ่อน และให้จัดหาอุปกรณ์ดับเพลิงไว้ประจำร้านด้วย
9.ขอความร่วมมือประชาชนไม่นำกระเป๋าขนาดใหญ่ติดตัวมาเที่ยวงานกาชาด เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบและเฝ้าระวังความปลอดภัย
10.ให้ประชาชน องค์กรที่ออกร้าน เฝ้าระวัง ตรวจสอบสังเกตสิ่งผิดปกติ ทั้งบุคคล ยานพาหนะ และวัตถุต้องสงสัย หากพบเหตุผิดปกติ หรือพบพิรุธ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที หรือโทร. 191 พร้อมกับขอความร่วมมือประชาชนในการปฏิบัติตนตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กอ.รมน.กทม.ถึงมาตรการในการรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยสำหรับ “งานกาชาด ประจำปี 2550” ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.-6 เม.ย.50 ว่า ได้ประสานความร่วมมือจากทหาร ตำรวจ ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวัง ดังนี้คือ 1.แบ่งพื้นที่สำหรับปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัยไว้เป็น 4 ส่วน มีศูนย์ประสานงานกลาง รักษาการตลอด 24 ชั่วโมง
2.แต่ละพื้นที่จัดวางกำลังตำรวจ ทหาร เทศกิจ อาสาสมัครประชาชน รวมประมาณวันละ 1,500 คน เน้นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ความมั่นคง การก่อความไม่สงบในรูปแบบต่างๆ และอำนวยการจราจร
3.ประสานกองบัญชาการตำรวจนครบาลป้องกันเหตุและจับกุมเหตุอาชญากรรมลักทรัพย์ ล้วงกระเป๋า โจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และการเรียกเก็บเงินค่าที่จอดรถในทางสาธารณะต่างๆ
4.จัดชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ระเบิด และสุนัขดมกลิ่น ร่วมตรวจสอบพื้นที่การจัดงานตั้งแต่ก่อนเริ่มงานจนกระทั่งเสร็จสิ้นภารกิจ ตลอด 24 ชั่วโมง
5.ติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่สาธารณะโดยรอบพื้นที่ จำนวน 23 จุด บันทึกข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง และขอความร่วมมือร้านทุกร้านติดตั้งกล้องวงจรปิดอย่างน้อยร้านละ 2 ตัว ให้สามารถดูได้ครอบคลุมทั้งในร้านและพื้นที่สาธารณะนอกร้าน
6.ประตูทางเข้างานกาชาดทั้ง 4 ประตู มีการติดตั้งซุ้มประตูตรวจโลหะประตูละ 2 เครื่อง และตำรวจคอยตรวจบุคคลผ่านเข้าออกด้วยเครื่องตรวจโลหะชนิดมือถือ
7.การปิดกั้นจราจรมี 4 ด้าน คือ ด้านถนนอู่ทองใน แยกวัดเบญจมบพิตร แยก พล.1รอ. แยกสวนมิสกวัน และบริเวณโดยรอบพื้นที่การจัดงาน โดยวันราชการปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันหยุดราชการปิดตั้งแต่ 09.00 น.จนกว่างานจะเลิกในแต่ละวัน โดยขอความร่วมมือประชาชนใช้บริการขนส่งมวลชนแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล
8.ขอความร่วมมือแต่ละร้านที่จัดงานให้จัดหาพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำร้านตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมปิดกั้นช่อง หรือซอกมุมต่างๆ ของเวที โต๊ะ หรืออุปกรณ์อื่นๆ เพื่อป้องกันมิให้บุคคลอื่นนำวัตถุต้องสงสัยไป ซุกซ่อน และให้จัดหาอุปกรณ์ดับเพลิงไว้ประจำร้านด้วย
9.ขอความร่วมมือประชาชนไม่นำกระเป๋าขนาดใหญ่ติดตัวมาเที่ยวงานกาชาด เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบและเฝ้าระวังความปลอดภัย
10.ให้ประชาชน องค์กรที่ออกร้าน เฝ้าระวัง ตรวจสอบสังเกตสิ่งผิดปกติ ทั้งบุคคล ยานพาหนะ และวัตถุต้องสงสัย หากพบเหตุผิดปกติ หรือพบพิรุธ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที หรือโทร. 191 พร้อมกับขอความร่วมมือประชาชนในการปฏิบัติตนตามมาตรการอย่างเคร่งครัด