วธ.ระบุกรณีพบกลุ่มนักศึกษาหญิงแต่งกายไม่สุภาพในวัดเป็นปัญหาที่ควรเร่งกวดขันและแก้ไข ด้านผู้บริหาร ม.รภ.สวนดุสิตยอมรับจากการตรวจสอบกรณีคุณหญิงไขศรีพบพบกลุ่มหญิงสาวแต่งกายชุดนักศึกษากระโปรงสั้น-เสื้อรัดติ้ว นั่งสูบบุหรี่ กระแซะหนุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศในวัดโพธิ์เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยจริง พร้อมเตรียมเรียกตัวเพื่อเดินทางไปขอขมาโทษ รมว.วธ.แล้ว
สืบเนื่องจากที่คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม พบกลุ่มหญิงสาวแต่งกายชุดนักศึกษากระโปรงสั้น-เสื้อรัดติ้ว นั่งสูบบุหรี่ กระแซะหนุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศบริเวณหน้าวิหารพระพุทธไสยาส กลางวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์นั้น นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ส่วนตัวมีความเห็นว่านักศึกษาแต่งกายไม่เรียบร้อย อาจจะมีจำนวนไม่มากและสถาบันการศึกษาต่างๆ กวดขันเรื่องการแต่งกายอยู่แล้ว นอกจากนี้ ตนชื่นชมผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) ที่ออกมารับผิดชอบแก้ไขปัญหา และจะนำนักศึกษาดังกล่าวโดยเฉพาะการมาขอโทษคุณหญิงไขศรี
ซึ่งที่ผ่านมา วธ.ได้ร่วมมือกับสวนดุสิตโพล มสด.สำรวจความพึงพอใจและความคิดเห็นที่มีต่อกระทรวงวัฒนธรรมและวัฒนธรรมไทย โดยสำรวจคนไทยทั่วประเทศจากกรุงเทพฯ และอีก 33 จังหวัด จำนวน 1,640 คน พบว่า วัฒนธรรมไทยที่ประชาชนเห็นว่ากำลังเป็นปัญหาและต้องการให้ วธ.แก้ไขอย่างเร่งด่วน 10 ปัญหา โดยอันดับ 1 คือ ปัญหาการแต่งกายไม่สุภาพ ส่อไปในทางยั่วยุของวัยรุ่น หรือดารา รูปแบบชุดนักเรียน-นักศึกษาที่ไม่เหมาะสม ควรออกระเบียบการแต่งกาย ใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด พ่อแม่ ครู อาจารย์ โรงเรียนมีหน้าที่อบรมสั่งสอนและปลูกฝังจิตสำนึก และการแต่งกายออกอากาศทางโทรทัศน์ไม่ควรโป๊จนเกินไป ดังนั้น วธ. พยายามรณรงค์เรื่องการแต่งกายมาโดยตลอด โดยเฉพาะการแต่งกายด้วยผ้าไทย
“ผมคิดว่าจากกระแสสังคมที่ผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาเรื่องการแต่งกาย โดยเฉพาะวัยรุ่นกลุ่มนักศึกษา แต่จะให้ปัญหานี้หมดไปทันทีคงไม่ได้ ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า วธ.จะเร่งเชิญผู้บริหารขององค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กรมการศาสนา (ศน.) สถาบันการศึกษา เป็นต้น เพื่อประชุมวางแนวทางแก้ปัญหาโดยเฉพาะปการติดป้าย โปรดการแต่งกายสุภาพเข้าวัดนั้นเป็นการกำหนดแบบกว้างเกินไป จะต้องมีการหารือเพื่อหาข้อสรุปมาตรฐานการแต่งกายสุภาพเข้าวัดและสถานที่สำคัญทางศาสนาต่างๆ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และจะต้องให้ความเคารพ ซึ่งคิดว่าจะนำข้อสรุปมาออกเป็น ประกาศกระทรวงวัฒนธรรมขอความร่วมมือเรื่องการแต่งกายเข้าวัดที่เหมาะสมต่อไป โดยจะประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่าง ลาว และพม่า จะพบว่าประชาชนมีความเคร่งครัดในการแต่งกายอย่างสุภาพเข้าไปปฏิบัติศาสนกิจในวัดตามขนธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่า เราควรให้ความรู้เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการเข้าวัดอย่างมีประโยชน์ ไม่ใช่มุ่งเป้าไปที่การแต่งกายเพียงอย่างเดียว ” ปลัด วธ. กล่าว
ด้าน นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ขณะนี้กรมการศาสนาจะเร่งประสานไปยังวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ในการขอความร่วมมือให้มีการติดป้ายทางเข้าวัด โดยมีคำว่า โปรดแต่งกายสุภาพซึ่งคิดว่าผู้ที่พุทธศาสนิกชน หรือแม้แต่ชาวต่างชาติ ได้มีความตระหนักคิดว่าวัด เป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา ควรที่จะให้ความเคารพต่อสถานที่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องผู้ที่แอบแฝงเข้ามาเป็นมิจฉาชีพรูปแบบต่างๆ ภายในวัดทั้ง การแต่งกายชุดนักศึกษา หรือมัคคุเทศก์ เพื่อมาหลอกเงินชาวต่างชาติ โดยสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการทางกฎหมายได้ทันที เพราะถือเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า
อย่างไรก็ตาม การออกมาตีแผ่ปัญหาการแต่งกายที่ไม่เหมาะสมเข้าศาสนสถานซึ่งเป็นปัญหาสังคมที่น่าเป็นห่วงนั้น ไม่ถือว่าเป็นการทำลายภาพพลักษณ์ของประเทศไทย แต่ยังเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะทำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ และมีการเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาดังกล่าวต่อไป
“เรื่องที่นักศึกษาหญิงแต่งกายไม่สุภาพ พร้อมกับทำกิริยาที่ไม่เหมาะสม เป็นสิ่งที่จะต้องช่วยกันแก้ไข และพร้อมให้โอกาสเด็กกลุ่มนี้ เพื่อปรับปรุงตัวเอง ผมคิดว่า สังคมไทยยังมีโรคที่ยังไม่แสดงออกอีกหลายโรค ซึ่งประเทศไทยกำลังวิ่งตามกระแสโลกาภิวัตน์ อีกด้านหนึ่งก็เน้นอนุรักษ์ของเดิม ดังนั้น ควรนำทั้ง 2 ด้านมาบูรณาการร่วมกันเพื่อให้ความรู้แก่สังคมในการหาแนวทางที่ถูกต้องและเหมาะสม นอกจากนี้ ปัจจุบันการสอนวิถีชีวิตชาวพุทธไม่ค่อยมีการสอนในสถาบันการศึกษาให้เป็นเรื่องเป็นราว จึงทำให้เด็กเกิดความไม่เข้าใจวิธีการปฏิบัติตนในการเข้าวัดที่ถูกต้อง ซึ่งก็เป็นความผิดของผู้ใหญ่เช่นกันที่ไม่เน้นอบรมเรื่องของวิถีชาวพุทธ ดังนั้น สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไข คือ จะต้องประสานงานกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) และวัดต่างๆ เพื่อร่วมประชุมหารือถึงการออกประกาศขอความร่วมมือการปฏิบัติตนเข้าวัดของชาวพุทธ ซึ่งผมเข้าใจว่า เมื่อมีการขอความร่วมมือ พี่น้องประชาชนชาวพุทธจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ รวมทั้งผู้ใหญ่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชนปฏิบัติตามเรื่องของวิถีการชาวพุทธด้วย นอกจากนี้กระทรวงวัฒนธรรม กรมการศาสนา จะเน้นให้ความรู้กับประชาชน เด็ก และเยาวชน ให้รู้จักการปฏิบัติตนที่ถูกต้องในการเข้าวัด หรือสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น การแต่งกาย การปฏิบัติตนที่เหมาะสม เป็นต้น” อธิบดีกรมการศาสนา กล่าว
นายปรีชา กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องวิถีชาวพุทธ ควรจะมีการบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษาของครูพระสอนศีลธรรม และหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการด้วย ในขณะเดียวกัน ศน.จะจัดเสวนาให้ความรู้เด็กและเยาวชนในเรื่องการเข้าวัดมากขึ้น ตลอดจนจะประสานงานกับศธ.ให้ร่วมกันจัดเสวนา จัดการประกวดมารยาทไทยและแต่งกายที่เหมาะสมในการเข้าวัด เพื่อสร้างต้นแบบเด็กและเยาวชนในการรณรงค์ปลูกจิตสำนึให้ประชาชนในชาติเห็นความสำคัญกับปัญหา เล็กๆ ที่อาจจะทำเสียภาพลักษณ์ของความเป็นไทยซึ่งอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติในอนาคตก็เป็นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามไปยังผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) พบว่า ในเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันนี้ (1 มี.ค.) จะมีการประชุมผู้บริหาร มสด.เพื่อหามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดจากนักศึกษาแต่งกายไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นมหาวิทยาลัยตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นนักศึกษาของ มสด.จริง และจะเร่งติดตามกลุ่มนักศึกษาดังกล่าวเพื่อขอให้ชี้แจงและเดินทางมาขอโทษคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม ที่แสดงกิริยาไม่เหมาะสม นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยจะต้องมีมาตรการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง
สืบเนื่องจากที่คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม พบกลุ่มหญิงสาวแต่งกายชุดนักศึกษากระโปรงสั้น-เสื้อรัดติ้ว นั่งสูบบุหรี่ กระแซะหนุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศบริเวณหน้าวิหารพระพุทธไสยาส กลางวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์นั้น นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ส่วนตัวมีความเห็นว่านักศึกษาแต่งกายไม่เรียบร้อย อาจจะมีจำนวนไม่มากและสถาบันการศึกษาต่างๆ กวดขันเรื่องการแต่งกายอยู่แล้ว นอกจากนี้ ตนชื่นชมผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) ที่ออกมารับผิดชอบแก้ไขปัญหา และจะนำนักศึกษาดังกล่าวโดยเฉพาะการมาขอโทษคุณหญิงไขศรี
ซึ่งที่ผ่านมา วธ.ได้ร่วมมือกับสวนดุสิตโพล มสด.สำรวจความพึงพอใจและความคิดเห็นที่มีต่อกระทรวงวัฒนธรรมและวัฒนธรรมไทย โดยสำรวจคนไทยทั่วประเทศจากกรุงเทพฯ และอีก 33 จังหวัด จำนวน 1,640 คน พบว่า วัฒนธรรมไทยที่ประชาชนเห็นว่ากำลังเป็นปัญหาและต้องการให้ วธ.แก้ไขอย่างเร่งด่วน 10 ปัญหา โดยอันดับ 1 คือ ปัญหาการแต่งกายไม่สุภาพ ส่อไปในทางยั่วยุของวัยรุ่น หรือดารา รูปแบบชุดนักเรียน-นักศึกษาที่ไม่เหมาะสม ควรออกระเบียบการแต่งกาย ใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด พ่อแม่ ครู อาจารย์ โรงเรียนมีหน้าที่อบรมสั่งสอนและปลูกฝังจิตสำนึก และการแต่งกายออกอากาศทางโทรทัศน์ไม่ควรโป๊จนเกินไป ดังนั้น วธ. พยายามรณรงค์เรื่องการแต่งกายมาโดยตลอด โดยเฉพาะการแต่งกายด้วยผ้าไทย
“ผมคิดว่าจากกระแสสังคมที่ผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาเรื่องการแต่งกาย โดยเฉพาะวัยรุ่นกลุ่มนักศึกษา แต่จะให้ปัญหานี้หมดไปทันทีคงไม่ได้ ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า วธ.จะเร่งเชิญผู้บริหารขององค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กรมการศาสนา (ศน.) สถาบันการศึกษา เป็นต้น เพื่อประชุมวางแนวทางแก้ปัญหาโดยเฉพาะปการติดป้าย โปรดการแต่งกายสุภาพเข้าวัดนั้นเป็นการกำหนดแบบกว้างเกินไป จะต้องมีการหารือเพื่อหาข้อสรุปมาตรฐานการแต่งกายสุภาพเข้าวัดและสถานที่สำคัญทางศาสนาต่างๆ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และจะต้องให้ความเคารพ ซึ่งคิดว่าจะนำข้อสรุปมาออกเป็น ประกาศกระทรวงวัฒนธรรมขอความร่วมมือเรื่องการแต่งกายเข้าวัดที่เหมาะสมต่อไป โดยจะประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่าง ลาว และพม่า จะพบว่าประชาชนมีความเคร่งครัดในการแต่งกายอย่างสุภาพเข้าไปปฏิบัติศาสนกิจในวัดตามขนธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่า เราควรให้ความรู้เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการเข้าวัดอย่างมีประโยชน์ ไม่ใช่มุ่งเป้าไปที่การแต่งกายเพียงอย่างเดียว ” ปลัด วธ. กล่าว
ด้าน นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ขณะนี้กรมการศาสนาจะเร่งประสานไปยังวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ในการขอความร่วมมือให้มีการติดป้ายทางเข้าวัด โดยมีคำว่า โปรดแต่งกายสุภาพซึ่งคิดว่าผู้ที่พุทธศาสนิกชน หรือแม้แต่ชาวต่างชาติ ได้มีความตระหนักคิดว่าวัด เป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา ควรที่จะให้ความเคารพต่อสถานที่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องผู้ที่แอบแฝงเข้ามาเป็นมิจฉาชีพรูปแบบต่างๆ ภายในวัดทั้ง การแต่งกายชุดนักศึกษา หรือมัคคุเทศก์ เพื่อมาหลอกเงินชาวต่างชาติ โดยสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการทางกฎหมายได้ทันที เพราะถือเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า
อย่างไรก็ตาม การออกมาตีแผ่ปัญหาการแต่งกายที่ไม่เหมาะสมเข้าศาสนสถานซึ่งเป็นปัญหาสังคมที่น่าเป็นห่วงนั้น ไม่ถือว่าเป็นการทำลายภาพพลักษณ์ของประเทศไทย แต่ยังเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะทำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ และมีการเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาดังกล่าวต่อไป
“เรื่องที่นักศึกษาหญิงแต่งกายไม่สุภาพ พร้อมกับทำกิริยาที่ไม่เหมาะสม เป็นสิ่งที่จะต้องช่วยกันแก้ไข และพร้อมให้โอกาสเด็กกลุ่มนี้ เพื่อปรับปรุงตัวเอง ผมคิดว่า สังคมไทยยังมีโรคที่ยังไม่แสดงออกอีกหลายโรค ซึ่งประเทศไทยกำลังวิ่งตามกระแสโลกาภิวัตน์ อีกด้านหนึ่งก็เน้นอนุรักษ์ของเดิม ดังนั้น ควรนำทั้ง 2 ด้านมาบูรณาการร่วมกันเพื่อให้ความรู้แก่สังคมในการหาแนวทางที่ถูกต้องและเหมาะสม นอกจากนี้ ปัจจุบันการสอนวิถีชีวิตชาวพุทธไม่ค่อยมีการสอนในสถาบันการศึกษาให้เป็นเรื่องเป็นราว จึงทำให้เด็กเกิดความไม่เข้าใจวิธีการปฏิบัติตนในการเข้าวัดที่ถูกต้อง ซึ่งก็เป็นความผิดของผู้ใหญ่เช่นกันที่ไม่เน้นอบรมเรื่องของวิถีชาวพุทธ ดังนั้น สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไข คือ จะต้องประสานงานกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) และวัดต่างๆ เพื่อร่วมประชุมหารือถึงการออกประกาศขอความร่วมมือการปฏิบัติตนเข้าวัดของชาวพุทธ ซึ่งผมเข้าใจว่า เมื่อมีการขอความร่วมมือ พี่น้องประชาชนชาวพุทธจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ รวมทั้งผู้ใหญ่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชนปฏิบัติตามเรื่องของวิถีการชาวพุทธด้วย นอกจากนี้กระทรวงวัฒนธรรม กรมการศาสนา จะเน้นให้ความรู้กับประชาชน เด็ก และเยาวชน ให้รู้จักการปฏิบัติตนที่ถูกต้องในการเข้าวัด หรือสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น การแต่งกาย การปฏิบัติตนที่เหมาะสม เป็นต้น” อธิบดีกรมการศาสนา กล่าว
นายปรีชา กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องวิถีชาวพุทธ ควรจะมีการบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษาของครูพระสอนศีลธรรม และหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการด้วย ในขณะเดียวกัน ศน.จะจัดเสวนาให้ความรู้เด็กและเยาวชนในเรื่องการเข้าวัดมากขึ้น ตลอดจนจะประสานงานกับศธ.ให้ร่วมกันจัดเสวนา จัดการประกวดมารยาทไทยและแต่งกายที่เหมาะสมในการเข้าวัด เพื่อสร้างต้นแบบเด็กและเยาวชนในการรณรงค์ปลูกจิตสำนึให้ประชาชนในชาติเห็นความสำคัญกับปัญหา เล็กๆ ที่อาจจะทำเสียภาพลักษณ์ของความเป็นไทยซึ่งอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติในอนาคตก็เป็นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามไปยังผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) พบว่า ในเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันนี้ (1 มี.ค.) จะมีการประชุมผู้บริหาร มสด.เพื่อหามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดจากนักศึกษาแต่งกายไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นมหาวิทยาลัยตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นนักศึกษาของ มสด.จริง และจะเร่งติดตามกลุ่มนักศึกษาดังกล่าวเพื่อขอให้ชี้แจงและเดินทางมาขอโทษคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม ที่แสดงกิริยาไม่เหมาะสม นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยจะต้องมีมาตรการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง