“ศิริราช” มอบรางวัลแพทย์ดีเด่นในชนบทปี 2549 ให้แก่ “นพ.วิชัย อัศวภาคย์” ผอ.โรงพยาบาลน้ำพอง ยกย่องทำประโยชน์ให้กับสังคม ผสานวิถีพุทธในการทำงาน ด้าน นพ.วิชัย เปิดใจมีแรงบันดาลใจและต้นแบบจากแพทย์ชนบทรุ่นพี่ พ่อแม่ ภรรยาและลูกอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ เสนอทางออกแก้ปัญหาฟ้องร้องแพทย์ให้ประชาชนมีส่วนร่วม

วันนี้ (7 ก.พ.) ที่ห้องประชุมคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ศ.คลินิก นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นประธานการประกาศผลพร้อมมอบรางวัล “แพทย์ดีเด่นในชนบท ประจำปี 2549” โดยคณะกรรมการคัดเลือกแพทย์ดีเด่นในชนบทได้คัดเลือกแพทย์ที่ดีเด่นเข้ารอบทั้งสิ้น 12 คน ซึ่งรางวัลดีเด่นในชนบทประจำปีนี้ ได้แก่ นพ.วิชัย อัศวภาคย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งพร้อมทั้งบุคลิกภาวการณ์เป็นผู้นำทั้งด้านการแพทย์ การสาธารณสุข สนใจใฝ่รู้ในด้านวิชาการ สร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่สังคมชุมชน และร่วมงานกับชุมชนท้องถิ่นเป็นอย่างดี โดยการนำวิถีพุทธมาประสานในการทำงาน
นพ.วิชัย อัศวภาคย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน้ำพอง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลในวันนี้ เมื่อย้อนกลับไปเมื่อปี 2528 ตนเองได้ไปเป็นผู้อำนวยการคนแรกที่โรงพยาบาลภูผาม่าน จ.ขอนแก่น โดย นพ.อุดม โปษะกฤษณะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้จุดประกายการเป็นแพทย์ชนบท เมื่อมีการออกหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอสว.) นพ.อุดมได้พาเด็กเป็นแผลที่ข้อมือ และดูแลเด็กจนยอมให้มีการผ่าตัดโดยไม่ใช้ยาสลบ ทำให้เห็นว่าแม้แต่แพทย์ที่อาวุโสแล้วก็ยังออกไปช่วยเหลือชนบท เราเป็นคนหนุ่มจะทำงานในเมืองได้อย่างไร สำหรับผู้เกี่ยวข้องที่ถือให้ได้มีชีวิตมาจนถึงบัดนี้ สำคัญที่สุดในชีวิต คือ พ่อ แม่ ที่ท่านคงจะภูมิใจ ส่วนบุคคลคนอื่นที่ต้องกล่าวถึง นพ.ประเวศ วสี เนื่องจากได้เรียนรู้แนวความคิดการทำงาน ทำให้ 10 ปีที่ผ่านมาเปลี่ยนวิธีการคิดการทำงานใหม่ที่เน้นการทำงานเชิงรุก และให้ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วม
“นพ.ประเวศเคยบอกไว้ว่า แพทย์ชนบทเหมือนปลาอยู่ในน้ำ เมื่ออยู่ในน้ำก็จะมีความสุขและสามารถทำงานได้เต็มที่อย่างมีประสิทธิภาพไร้ขีดจำกัด แต่ถ้าอยู่ในเมืองจะเหมือนปลาที่ไม่อยู่ในน้ำ และสอนให้รู้ด้วยว่าวิชาชีพแพทย์มิได้รักษาคนเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องออกไปดูแลชาวบ้านและทำงานร่วมกับชาวบ้าน”นพ.วิชัย กล่าว
นพ.วิชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตลอดชีวิตการทำงานมีบุคลมากมายที่มีส่วนสำคัญในการเป็นต้นแบบให้ศึกษา โดยเฉพาะการออกค่ายอาสาพัฒนาซึ่งเป็นจุดที่สอนให้รู้จักการทำงานกับส่วนรวมเห็นชีวิตคนชนบทและอยากอยู่ในชนบท รวมทั้งบุคลกรสาธารณสุขที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ที่เป็นต้นแบบของแพทย์ที่เสียสละเหน็ดเหนื่อยไม่เคยเรียกร้องค่าตอบแทน
“ผู้ที่เป็นต้นแบบที่ดีของแพทย์ชนบทอย่าง นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อดีตแพทย์ชนบทดีเด่น นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ นพ.อำพล จินดาวัฒนะ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงษ์ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ฯลฯ ถือเป็นฮีโร่ผม ที่มีวันนี้ได้เพราะท่านเหล่านี้สอนสั่ง ส่วนคนสุดท้ายที่ต้องเอ่ยถึงภรรยาและลูกที่ยอมอยู่ชนบทห่างไกล และให้กำลังใจทุกครั้งที่เหนื่อย ท้อแท้” นพ.วิชัยกล่าว
นพ.วิชัย กล่าวต่อว่า ส่วนรางวัลคงไม่ใช่ผลงานคนเดียว แต่เป็นสิ่งที่บุคลากรทุกคนในโรงพยาบาล ประชาชนทุกคน ประชาคมสุขภาพมีส่วนร่วมช่วยกันทุกฝ่าย ดังนั้น เงินรางวัลที่ได้จะสมทบทุนสร้างตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลน้ำพอง และจะปวารณาตัวเพื่อทำงานในชุมชนให้ดีขึ้นเรื่อย ให้สมกับรางวัลที่ได้รับโดยจะทำงานอยู่ในชนบทอย่างมีความสุขตลอดไปจนกว่าชาวบ้านไม่ต้องการ
นพ.วิชัย กล่าวถึงปัญหาระหว่างแพทย์กับคนไข้ด้วยว่า ทุกวันนี้แพทย์ทุกคนทำหน้าที่เต็มที่เพื่อให้คนไข้หายจากการเจ็บป่วย และส่งเสริมมีให้สุขภาพแข็งแรก แต่ต้องยอมรับว่ามีแพทย์ส่วนหนึ่งที่เป็นแพทย์เชิงพาณิชย์ ซึ่งในทุกอาชีพมีทั้งคนดีและไม่ดี แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่ยังเป็นคนดีมากกว่าไม่ดี ซึ่งทางโรงพยาบาลต่างๆ ก็พยายามแก้ไข ทางออกหนึ่งคือการให้ประชาชนมีส่วนร่วมอาสาพัฒนาโรงพยาบาล มีความรู้สึกร่วมกันในการเป็นเจ้าของ ซึ่งน่าจะช่วยให้ได้เห็นแพทย์ที่ทำงานเสียสละเพื่อส่วนรวมอีกมากขึ้น
“การแก้ปัญหาการฟ้องร้องระหว่างแพทย์และคนไข้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากทุกฝ่ายช่วยกันคงไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะให้ปัญหาหมดไปคงไม่หมด ซึ่งเราคาดหวังหมอได้ แต่หมอก็คือคน ที่มีโอกาสผิดพลาดได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือดูว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หากผิดพลาดโดยที่ทำดีที่สุดแล้วแต่ผิดพลาดก็ควรให้กำลังใจ ทุกสิ่งทุกอย่างจึงหน้าจะดีขึ้น” นพ.วิชัย กล่าว
นพ.วิชัย กล่าวต่อว่า ทุกคนต้องแสดงบทบาทของตนเองให้ถูกต้อง อย่างในระดับกระทรวงควรจะมีนโยบายที่ชัดเจนออกมา และส่งเสริมสนับสนุนให้คนทำความดีมีกำลังใจ แพทยสภาจะต้องทำหน้าที่ดูแลทั้งแพทย์และประชาชนแต่จะต้องไม่เข้าข้างแพทย์ มีความเป็นกลาง สร้างศรัทธาให้กับประชาชน เพราะหากประชาชนไม่ศรัทธาองค์กรกลางก็จะหันไปพึ่งหน่วยงานอื่น ซึ่งตนไม่เห็นด้วย เนื่องจากปัญหาระหว่างแพทย์และคนไข้ ควรเป็นหน่วยงานของแพทย์ในการดูเพราะเข้าใจปัญหาของแพทย์กับประชาชนได้ดีกว่าหน่วยงานอื่น
“คงต้องจับเข่าคุยกันทุกภาคทุกมหาวิทยาลัยทุกโรงพยาบาลสำหรับสถานการณ์ปัจจุบันสนับสนุนแพทย์มีกำลังใจ ที่สำคัญให้ประชาชนมามีส่วนร่วม ส่วนในอนาคตต้องค่อยๆ ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ช่วยกันมอบรางวัลให้คนดีๆ เยอะไม่ต้องกลัวเกร่อ เหมือนที่นพ.ประเวศ วะสี กล่าวไว้ว่า ต้องช่วยส่งเสริมความดี แม้แต่ความดีเล็กๆ น้อยๆ” นพ.วิชัยกล่าว
อนึ่ง แพทย์ดีเด่นจะได้รับรางวัลเป็นโล่เกียรติคุณของคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เงินรางวัลจากทุนปาฐกถาอุดม โปษะกฤษณะ 1 แสนบาท บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 4 หมื่นบาท บริษัท เทอรูโม (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 2 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังถือเป็นประเพณีว่าผู้ที่ได้รับรางวัลจะแสดงปาฐกถาอุดม โปษะกฤษณะ ในผลงานที่ได้รับในการประชุมวิชาการศิริราช ซึ่งในปีนี้จัดระหว่างวันที่ 5-9 มีนาคมนี้ โดย นพ.วิชัยจะแสดงปาฐกถาวันที่ 6 มีนาคมนี้ เวลา 09.00-10.00 น. ที่หอประชุมกองทัพเรือ
วันนี้ (7 ก.พ.) ที่ห้องประชุมคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ศ.คลินิก นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นประธานการประกาศผลพร้อมมอบรางวัล “แพทย์ดีเด่นในชนบท ประจำปี 2549” โดยคณะกรรมการคัดเลือกแพทย์ดีเด่นในชนบทได้คัดเลือกแพทย์ที่ดีเด่นเข้ารอบทั้งสิ้น 12 คน ซึ่งรางวัลดีเด่นในชนบทประจำปีนี้ ได้แก่ นพ.วิชัย อัศวภาคย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งพร้อมทั้งบุคลิกภาวการณ์เป็นผู้นำทั้งด้านการแพทย์ การสาธารณสุข สนใจใฝ่รู้ในด้านวิชาการ สร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่สังคมชุมชน และร่วมงานกับชุมชนท้องถิ่นเป็นอย่างดี โดยการนำวิถีพุทธมาประสานในการทำงาน
นพ.วิชัย อัศวภาคย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน้ำพอง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลในวันนี้ เมื่อย้อนกลับไปเมื่อปี 2528 ตนเองได้ไปเป็นผู้อำนวยการคนแรกที่โรงพยาบาลภูผาม่าน จ.ขอนแก่น โดย นพ.อุดม โปษะกฤษณะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้จุดประกายการเป็นแพทย์ชนบท เมื่อมีการออกหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอสว.) นพ.อุดมได้พาเด็กเป็นแผลที่ข้อมือ และดูแลเด็กจนยอมให้มีการผ่าตัดโดยไม่ใช้ยาสลบ ทำให้เห็นว่าแม้แต่แพทย์ที่อาวุโสแล้วก็ยังออกไปช่วยเหลือชนบท เราเป็นคนหนุ่มจะทำงานในเมืองได้อย่างไร สำหรับผู้เกี่ยวข้องที่ถือให้ได้มีชีวิตมาจนถึงบัดนี้ สำคัญที่สุดในชีวิต คือ พ่อ แม่ ที่ท่านคงจะภูมิใจ ส่วนบุคคลคนอื่นที่ต้องกล่าวถึง นพ.ประเวศ วสี เนื่องจากได้เรียนรู้แนวความคิดการทำงาน ทำให้ 10 ปีที่ผ่านมาเปลี่ยนวิธีการคิดการทำงานใหม่ที่เน้นการทำงานเชิงรุก และให้ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วม
“นพ.ประเวศเคยบอกไว้ว่า แพทย์ชนบทเหมือนปลาอยู่ในน้ำ เมื่ออยู่ในน้ำก็จะมีความสุขและสามารถทำงานได้เต็มที่อย่างมีประสิทธิภาพไร้ขีดจำกัด แต่ถ้าอยู่ในเมืองจะเหมือนปลาที่ไม่อยู่ในน้ำ และสอนให้รู้ด้วยว่าวิชาชีพแพทย์มิได้รักษาคนเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องออกไปดูแลชาวบ้านและทำงานร่วมกับชาวบ้าน”นพ.วิชัย กล่าว
นพ.วิชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตลอดชีวิตการทำงานมีบุคลมากมายที่มีส่วนสำคัญในการเป็นต้นแบบให้ศึกษา โดยเฉพาะการออกค่ายอาสาพัฒนาซึ่งเป็นจุดที่สอนให้รู้จักการทำงานกับส่วนรวมเห็นชีวิตคนชนบทและอยากอยู่ในชนบท รวมทั้งบุคลกรสาธารณสุขที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ที่เป็นต้นแบบของแพทย์ที่เสียสละเหน็ดเหนื่อยไม่เคยเรียกร้องค่าตอบแทน
“ผู้ที่เป็นต้นแบบที่ดีของแพทย์ชนบทอย่าง นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อดีตแพทย์ชนบทดีเด่น นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ นพ.อำพล จินดาวัฒนะ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงษ์ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ฯลฯ ถือเป็นฮีโร่ผม ที่มีวันนี้ได้เพราะท่านเหล่านี้สอนสั่ง ส่วนคนสุดท้ายที่ต้องเอ่ยถึงภรรยาและลูกที่ยอมอยู่ชนบทห่างไกล และให้กำลังใจทุกครั้งที่เหนื่อย ท้อแท้” นพ.วิชัยกล่าว
นพ.วิชัย กล่าวต่อว่า ส่วนรางวัลคงไม่ใช่ผลงานคนเดียว แต่เป็นสิ่งที่บุคลากรทุกคนในโรงพยาบาล ประชาชนทุกคน ประชาคมสุขภาพมีส่วนร่วมช่วยกันทุกฝ่าย ดังนั้น เงินรางวัลที่ได้จะสมทบทุนสร้างตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลน้ำพอง และจะปวารณาตัวเพื่อทำงานในชุมชนให้ดีขึ้นเรื่อย ให้สมกับรางวัลที่ได้รับโดยจะทำงานอยู่ในชนบทอย่างมีความสุขตลอดไปจนกว่าชาวบ้านไม่ต้องการ
นพ.วิชัย กล่าวถึงปัญหาระหว่างแพทย์กับคนไข้ด้วยว่า ทุกวันนี้แพทย์ทุกคนทำหน้าที่เต็มที่เพื่อให้คนไข้หายจากการเจ็บป่วย และส่งเสริมมีให้สุขภาพแข็งแรก แต่ต้องยอมรับว่ามีแพทย์ส่วนหนึ่งที่เป็นแพทย์เชิงพาณิชย์ ซึ่งในทุกอาชีพมีทั้งคนดีและไม่ดี แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่ยังเป็นคนดีมากกว่าไม่ดี ซึ่งทางโรงพยาบาลต่างๆ ก็พยายามแก้ไข ทางออกหนึ่งคือการให้ประชาชนมีส่วนร่วมอาสาพัฒนาโรงพยาบาล มีความรู้สึกร่วมกันในการเป็นเจ้าของ ซึ่งน่าจะช่วยให้ได้เห็นแพทย์ที่ทำงานเสียสละเพื่อส่วนรวมอีกมากขึ้น
“การแก้ปัญหาการฟ้องร้องระหว่างแพทย์และคนไข้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากทุกฝ่ายช่วยกันคงไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะให้ปัญหาหมดไปคงไม่หมด ซึ่งเราคาดหวังหมอได้ แต่หมอก็คือคน ที่มีโอกาสผิดพลาดได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือดูว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หากผิดพลาดโดยที่ทำดีที่สุดแล้วแต่ผิดพลาดก็ควรให้กำลังใจ ทุกสิ่งทุกอย่างจึงหน้าจะดีขึ้น” นพ.วิชัย กล่าว
นพ.วิชัย กล่าวต่อว่า ทุกคนต้องแสดงบทบาทของตนเองให้ถูกต้อง อย่างในระดับกระทรวงควรจะมีนโยบายที่ชัดเจนออกมา และส่งเสริมสนับสนุนให้คนทำความดีมีกำลังใจ แพทยสภาจะต้องทำหน้าที่ดูแลทั้งแพทย์และประชาชนแต่จะต้องไม่เข้าข้างแพทย์ มีความเป็นกลาง สร้างศรัทธาให้กับประชาชน เพราะหากประชาชนไม่ศรัทธาองค์กรกลางก็จะหันไปพึ่งหน่วยงานอื่น ซึ่งตนไม่เห็นด้วย เนื่องจากปัญหาระหว่างแพทย์และคนไข้ ควรเป็นหน่วยงานของแพทย์ในการดูเพราะเข้าใจปัญหาของแพทย์กับประชาชนได้ดีกว่าหน่วยงานอื่น
“คงต้องจับเข่าคุยกันทุกภาคทุกมหาวิทยาลัยทุกโรงพยาบาลสำหรับสถานการณ์ปัจจุบันสนับสนุนแพทย์มีกำลังใจ ที่สำคัญให้ประชาชนมามีส่วนร่วม ส่วนในอนาคตต้องค่อยๆ ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ช่วยกันมอบรางวัลให้คนดีๆ เยอะไม่ต้องกลัวเกร่อ เหมือนที่นพ.ประเวศ วะสี กล่าวไว้ว่า ต้องช่วยส่งเสริมความดี แม้แต่ความดีเล็กๆ น้อยๆ” นพ.วิชัยกล่าว
อนึ่ง แพทย์ดีเด่นจะได้รับรางวัลเป็นโล่เกียรติคุณของคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เงินรางวัลจากทุนปาฐกถาอุดม โปษะกฤษณะ 1 แสนบาท บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 4 หมื่นบาท บริษัท เทอรูโม (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 2 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังถือเป็นประเพณีว่าผู้ที่ได้รับรางวัลจะแสดงปาฐกถาอุดม โปษะกฤษณะ ในผลงานที่ได้รับในการประชุมวิชาการศิริราช ซึ่งในปีนี้จัดระหว่างวันที่ 5-9 มีนาคมนี้ โดย นพ.วิชัยจะแสดงปาฐกถาวันที่ 6 มีนาคมนี้ เวลา 09.00-10.00 น. ที่หอประชุมกองทัพเรือ