“หมอเกษม” เผยฝรั่งเขียนโจมตี ศก.พอเพียง เทียบทักษิโณมิกส์เพราะมีคนจ้าง

“ศ.นพ.เกษม” ย้ำทุกฝ่ายน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ได้ ทั้งครู นักเรียน นิสิต นักศึกษา ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติ จะช่วยลดความเสี่ยงทุกอย่าง ระบุ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นความพอที่ไม่เร่าร้อนคิดจะโกงอีก ชวนคนไทยทำให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุขถวายเป็นของขวัญในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา เพราะทรงคิดตลอดเวลาทำอย่างไรให้คนไทยพ้นจากความจน เผย มีฝรั่งเขียนโจมตีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพราะมีคนจ้างเขียน

ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ปาฐกถาพิเศษเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงกับการศึกษา ในการประชุมสัมมนาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ โดยกล่าวว่า ชุดความคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีหลักคิดที่เป็นประโยชน์ 3 ด้าน คือ 1.ทุกคนใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตได้ ซึ่งในวงการศึกษาครู 500,000-600,000 คน ถ้าสามารถทำให้ครูทุกคนได้เข้าใจ และใช้กับตัวเองกับครอบครัวครูก็จะดีขึ้น โดยเฉพาะครูที่เป็นหนี้ จะลดได้ถ้านำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ หากใช้กับนักเรียน นิสิตนักศึกษา 12 ล้านคน เด็กจะเป็นคนดีไม่เสี่ยง เพราะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีภูมิคุ้มกันรองรับความเสี่ยงทุกอย่างจึงนำไปบริหารความเสี่ยงในชีวิตได้ 2.ผู้บริหารนำไปกำหนดเป็นนโยบายได้ ทั้งการบริหารโรงเรียน หรือส่วนกลางกำหนดนโยบายให้ สพท.ได้ 3.ใช้สำหรับผู้ปฏิบัติกำหนดเป็นแนวปฏิบัติ จะทำให้รอบคอบมากขึ้น

ศ.นพ.เกษม กล่าวด้วยว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงต้องการสร้างความพอ เป็นความพอที่ไม่เร่าร้อน ไม่ใช่อยากจะโกงอีก เป็นพอที่อยู่เย็นเป็นสุข ตรงข้ามกับลัทธิบริโภควัตถุนิยม ดังนั้น จึงยากมาก ตนไม่เชื่อว่า จะทำสำเร็จได้ง่ายๆ ในปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา พวกเราก็ตั้งใจว่า จะพยายามขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจพอเพียงเกิดไปทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมปีที่แล้ว ยังจำกันได้หรือไม่ ว่า พระองค์ทรงขอให้ช่วยกันสามัคคีกัน ทำให้ดีๆ จะได้เป็นของขวัญตอนที่พระองค์ท่านพระชนมพรรษา 80 พรรษา พระองค์ท่านยังตรัส ว่า 80 พรรษา ยังไม่แก่เกิน และมีประโยคหนึ่งที่พระองค์ทรงรับสั่งว่า ถ้าจะทำเป็นของขวัญให้กับพระองค์ท่าน โอกาส 80 พรรษา ขอให้ทำบ้านเมืองนี้ให้อยู่เย็นเป็นสุข พวกเราจึงคิดกันว่าผู้ที่รับราชการอยู่ หรือเกษียณราชการแล้ว รวมถึงประชาชนธรรมดา มีหน้าที่หนึ่ง คือ การมาช่วยกันสร้างความรักความสามัคคีนี้ในบ้านเมือง ทำบ้านนี้เมืองนี้ให้อยู่เย็นเป็นสุข

“มีคนไปวิเคราะห์กระแสพระราชดำรัสย้อนหลังไป ว่า ที่มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แล้วมีคนเอาไปทำความเข้าใจผิด บางคนตั้งใจเข้าใจผิดเพื่อจะโจมตีปรัชญานี้ก็มี จะเห็นได้ว่า มีฝรั่งเดี๋ยวนี้ก็มีแล้ว เพราะมีคนจ้างให้เขียนโจมตีเพื่อเทียบกับทักษิโณมิกส์ ผมไม่ต้องการให้มาเชื่อผมวันนี้ แต่ต้องการให้ได้ใช้เหตุใช้ผลแล้วใช้บริบทของภูมิสังคมของประเทศไทยเป็นฐานในการคิด จะไปคิดแบบฝรั่งจ๋ามากมายนักไม่ใช่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบอกว่า เวลาคิดถึง ทำงานที่ไหนขอให้นึกถึงบริบทภูมิศาสตร์และสังคมศาสตร์ของที่นั่น เหมือนกับผู้อำนวยการ สพท.ดูแลโรงเรียน 200 โรง ในเขตโรงเรียน แต่ละโรงเรียนมีภูมิสังคมศาสตร์ไม่เหมือนกัน จะเอานโยบายอะไรใส่เข้าไปต้องให้สิทธิเสรีภาพเขาด้วย” ศ.นพ.เกษม กล่าว

ศ.นพ.เกษม กล่าวอีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริอยู่ตลอดเวลา ว่า ทำอย่างไรให้คนไทยได้พ้นจากความจน ตนเคยได้ยิน ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เล่าให้ที่ประชุมหนึ่งฟัง ว่า มีครั้งหนึ่งที่ ดร.สุเมธ และเจ้าหน้าที่เข้าเฝ้าฯ ถวายงานเรื่องความคืบหน้าของโครงการในมูลนิธิฯ ก็เอาเอกสาร แผนที่ นั่งพับเพียบรอที่พระราชวังไกลกังวล อ.หัวหิน แล้วฝ่ายในก็ตั้งพระเก้าอี้ให้เพื่อให้เป็นที่ประทับ

“เมื่อพระองค์ท่านเสด็จฯ มา แทนที่จะนั่งที่ประทับพระเก้าอี้ ท่านประทับนั่งอยู่ที่พื้นกับ ดร.สุเมธ และเจ้าหน้าที่ แล้วก็ชี้ไปที่พระเก้าอี้ สักพักหนึ่งก็ตรัสว่า เป็นพระมหากษัตริย์ไทยลำบากมาก เพราะมีหน้าที่ต้องทำให้คนไทย หายจน เมื่อคนไทยหายจนเท่านั้นเขาจะมีอิสรภาพทางการเมืองที่แท้จริง และเมื่อมีอิสรภาพทางการเมืองที่แท้จริง จึงจะมีประชาธิปไตยที่แท้จริง สามประโยคนี้ผมจำติดหูติดตา ก็ลองเอาไปคิดดู เรากำลังร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าประชาชนยังมัวแต่ 15 วัน รอหวย เล่นหวย รอว่าเมื่อไหร่จะมีการเลือกตั้ง เพราะเลือกแต่ละครั้งได้ทุกครั้ง 1,000 บาท หรือ 1,500 บาท แล้วแต่ มีหลาย ส. ให้เลือก จึงเป็นคำถามที่ใหญ่ว่าพวกเราที่กำลังเรียกร้องประชาธิปไตย เราทำอะไรกัน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้ต่อต้านความรวย คนรวยก็ใช้ได้ และช่วยคนจนให้พ้นความจนได้มาก” องคมนตรีกล่าว

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  กล่าวว่าสพฐ. จะสอดแทรกหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงเข้าสู่ในการอบรมทุกประเภท  เพื่อให้ครูทุกคนได้มีโอกาสทราบและเข้าใจในหลักเศรษฐกิจพอเพียง และทุกหน่วยงานในสังกัด สพฐ.ก็จะช่วยกันทำแผนว่าจะน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฏิบัติได้อย่างไร และจะผลักดันให้ทุกโรงเรียนจัดกิจกรรมคุณธรรมนำความรู้  โดยมีเกณฑ์กว้างๆ ว่าต้องมีการปลูกฝังคุณธรรมแทรกในการเรียนการสอน เป็นการปฎิบัติร่วมกันระหว่างนักเรียนและครู กรรมการสถานศึกษา โดยจะมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งปี
โดย สพฐ.คาดหวังว่าจะพัฒนาโรงเรียนประมาณ 10% หรือประมาณ 3,000 โรงเรียนเพื่อเป็นต้นแบบจากนั้นจะค่อยๆ ขยายผลให้ไปสู่โรงเรียนทั่วประเทศ ประมาณการว่าภายใน 3 ปีจะทำได้ครบทุกแห่งทั่วประเทศ ภายใต้นโยบายคุณธรรมนำความรู้  สพฐ. จะให้เงินทุกสถานศึกษานำไปฟื้นฟูกิจกรรมลูกเสืออย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ลูกเสือจะน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฎิบัติ รวมทั้งการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์  การทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเน้นว่าจะทำอย่างไรจะมีผู้บังคับบัญชาลูกเสือได้คุณภาพตามเกณฑ์ ที่กรรมการลูกเสือกำหนดในทุกสถานศึกษา  รวมถึงจะมีการประกวดดนตรีและละครคุณธรรม เชิญชวนให้นำคุณธรรมแทรกไปในดนตรีและละคร
“การปลูกฝังคุณธรรม การทำคุณงามความดี จะสร้างภูมิต้านทานไม่ให้เด็กที่มีปัญหาออกนอกลู่นอกทาง นอกจากนี้จะร่วมฟื้นฟูเรื่องระบบดูแลนักเรียน  จะต่อยอดเรื่องระบบดูแลนักเรียนโดยการพัฒนาให้มียุวชนแนะแนวเกิดขึ้นในทุกโรงเรียนที่มีช่วงชั้นที่ 3 และ 4 เหล่านี้จะเป็นเรื่องใหญ่ๆที่จะทำในปีนี้ภายใต้หัวข้อคุณธรรมนำความรู้”