รองผู้ว่าฯ กทม.แจง กทม.เสียใจต่อเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างผู้ค้าโบ๊เบ๊ และตำรวจ แต่เป็นหน้าที่จะต้องนำพื้นที่มาปรับภูมิทัศน์ และคืนทางเท้าสาธารณะให้กับประชาชน มอบหมายสำนักงานเขตป้อมปราบฯ เปิดลงทะเบียนผู้ค้าเพื่อจัดหาตลาดใหม่เบื้องต้นมีแล้ว 97 ราย จากกว่า 1,000 ราย ขณะเดียวกัน ผู้ค้าต้องได้ตลาดใหม่ 1-2 สัปดาห์นี้
นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า จากเหตุปะทะกันระหว่างผู้ค้าตลาดโบ๊เบ๊ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกจับกุม 23 รายนั้น นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง แต่เนื่องจาก กทม.มีความจำเป็นต้องปรับภูมิทัศน์บริเวณดังกล่าวตามมติคณะกรรมการประสานความเป็นระเบียบเรียบร้อยระดับเขตที่ได้ประกาศยกเลิกจุดผ่อนผัน เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2549 และอะลุ้มอล่วยมาโดยตลอด และระหว่างนั้นได้ประกาศและทำความเข้าใจกับผู้ค้ามาโดยตลอด จนล่าสุดเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณสะพานสอง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้สะดวก เนื่องจากมีแผงค้าเป็นอุปสรรค ซึ่งหาก กทม.ไม่ดำเนินการปรับภูมิทัศน์ก็จะมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ มีความผิดตามมาตรา 157
“ในระยะเวลาของการอะลุ้มอล่วยนั้น ต้องเรียนว่า กทม.ถูกท้วงติงมาตลอดว่าไม่ดำเนินการโดยเด็ดขาด ในฐานะมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายทั้งประชาชนที่มีความประสงค์ใช้ทางเท้าและถูกลิดรอนสิทธิใช้ทางเท้าสาธารณะดังกล่าว หรือโรงพยาบาลในพื้นทื่ใกล้เคียง ว่า คนไข้ฉุกเฉินจะต้องไปถึงโรงพยาบาลไม่สามารถเข้าถึงได้พยาบาลเองก็ไม่สามารถใช้อาคารหอพักที่อยู่ใกล้เคียงเป็นที่พักผ่อนในยามที่จะออกเวรได้ เนื่องจากได้รับการรบกวนจากกิจการการค้า ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ กทม.หนักใจในฐานะเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย” นายวัลลภ กล่าว
รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้ค้า กทม.มอบหมายให้สำนักงานเขตป้อมปราบฯ ทำการสำรวจและเปิดรับลงทะเบียนผู้ค้าที่มีความประสงค์ให้ กทม.จัดหาพื้นที่ค้าขายใหม่ โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (5 ม.ค.) จนถึงวันนี้ (7 ม.ค.) มีผู้ค้ามาลงทะเบียนแล้วจำนวน 97 ราย จากทั้งหมดกว่า 1,000 ราย ซึ่ง กทม.จะเร่งดำเนินการจัดหาตลาดใหม่ให้ภายใน 1-2 สัปดาห์ เช่น ตลาดนัดจตุจักร ทวีวัฒนา มีนบุรี แต่หากผู้ค้าไม่ต้องการไปทำการค้าในตลาดที่ กทม.จัดให้ กทม.ก็จะรับเป็นผู้เจรจาหาตลาดใหม่ตามที่ผู้ค้าต้องการ ส่วนทางเท้าบริเวณเลียบคลองผดุงกรุงเกษมนั้น กทม.จะเร่งดำเนินการปรับภูมิทัศน์เพื่อคืนทางเท้าสาธารณะให้กับประชาชน คาดว่า จะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า จากเหตุปะทะกันระหว่างผู้ค้าตลาดโบ๊เบ๊ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกจับกุม 23 รายนั้น นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง แต่เนื่องจาก กทม.มีความจำเป็นต้องปรับภูมิทัศน์บริเวณดังกล่าวตามมติคณะกรรมการประสานความเป็นระเบียบเรียบร้อยระดับเขตที่ได้ประกาศยกเลิกจุดผ่อนผัน เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2549 และอะลุ้มอล่วยมาโดยตลอด และระหว่างนั้นได้ประกาศและทำความเข้าใจกับผู้ค้ามาโดยตลอด จนล่าสุดเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณสะพานสอง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้สะดวก เนื่องจากมีแผงค้าเป็นอุปสรรค ซึ่งหาก กทม.ไม่ดำเนินการปรับภูมิทัศน์ก็จะมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ มีความผิดตามมาตรา 157
“ในระยะเวลาของการอะลุ้มอล่วยนั้น ต้องเรียนว่า กทม.ถูกท้วงติงมาตลอดว่าไม่ดำเนินการโดยเด็ดขาด ในฐานะมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายทั้งประชาชนที่มีความประสงค์ใช้ทางเท้าและถูกลิดรอนสิทธิใช้ทางเท้าสาธารณะดังกล่าว หรือโรงพยาบาลในพื้นทื่ใกล้เคียง ว่า คนไข้ฉุกเฉินจะต้องไปถึงโรงพยาบาลไม่สามารถเข้าถึงได้พยาบาลเองก็ไม่สามารถใช้อาคารหอพักที่อยู่ใกล้เคียงเป็นที่พักผ่อนในยามที่จะออกเวรได้ เนื่องจากได้รับการรบกวนจากกิจการการค้า ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ กทม.หนักใจในฐานะเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย” นายวัลลภ กล่าว
รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้ค้า กทม.มอบหมายให้สำนักงานเขตป้อมปราบฯ ทำการสำรวจและเปิดรับลงทะเบียนผู้ค้าที่มีความประสงค์ให้ กทม.จัดหาพื้นที่ค้าขายใหม่ โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (5 ม.ค.) จนถึงวันนี้ (7 ม.ค.) มีผู้ค้ามาลงทะเบียนแล้วจำนวน 97 ราย จากทั้งหมดกว่า 1,000 ราย ซึ่ง กทม.จะเร่งดำเนินการจัดหาตลาดใหม่ให้ภายใน 1-2 สัปดาห์ เช่น ตลาดนัดจตุจักร ทวีวัฒนา มีนบุรี แต่หากผู้ค้าไม่ต้องการไปทำการค้าในตลาดที่ กทม.จัดให้ กทม.ก็จะรับเป็นผู้เจรจาหาตลาดใหม่ตามที่ผู้ค้าต้องการ ส่วนทางเท้าบริเวณเลียบคลองผดุงกรุงเกษมนั้น กทม.จะเร่งดำเนินการปรับภูมิทัศน์เพื่อคืนทางเท้าสาธารณะให้กับประชาชน คาดว่า จะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน