สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานตุ๊กตาหมีพูห์ และตุ๊กตาบาร์บี้ “ด.ญ.ธัญสินี” เหยื่อระเบิดที่คลองเตย พร้อมพระราชทานบัตรพระราชทานพรเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่พักรักษาอาการใน รพ.จุฬาฯ ทั้งหมดด้วย ด้าน รมว.สธ.เผยความคืบหน้าการรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดในกทม.ล่าสุด ทุกรายอาการดีวันดีคืน ชี้ทุกโรงพยาบาลรักษาความปลอดภัยเข้มงวดอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง พร้อมเตรียมรับมือเหตุการณ์เพิ่มแพทย์พยาบาล 3-4 เท่าตัว

เมื่อเวลา 14.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานตุ๊กตาหมีพูห์ตัวใหญ่ และตุ๊กตาบาร์บี้ รวมทั้งบัตรพระราชทานพรเยี่ยมอาการบาดเจ็บ ด.ญ.ธัญสินี มังกรพันธ์ อายุ 12 ปี ซึ่งพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งนายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้อัญเชิญของพระราชทานดังกล่าวมามอบให้ พร้อมกล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิด และยังได้พระราชทานบัตรพระราชทานพรเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่พักรักษาอาการใน รพ.จุฬาฯ ทั้งหมดด้วย
น.ส.จำปา สาระศาริน มารดา ด.ญ.ธัญสินี ปลาบปลื้มใจที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ และนายแผนยังได้มอบพระที่ได้รับพระราชทานมาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้กับ ด.ญ.ธัญสินี อีกด้วย หลังทราบจากเด็กว่าฝันร้ายถึงลุงที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่คลองเตย
สำหรับความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของ ด.ญ.ธัญสินี แพทย์ได้ผ่าตัดเป็นครั้งที่ 2 ช่วงสายวันนี้ เนื่องจากเอกซเรย์พบตะปูและเศษเหล็กจำนวนมากฝังอยู่ในขาทั้งสองข้าง ซึ่งมารดาของเด็กกล่าวว่า การผ่าตัดครั้งนี้เด็กบ่นเจ็บแผลมาก เพราะไม่ใช่แผลสดเหมือนครั้งแรก รวมทั้งแผลยังติดเชื้อ ซึ่งแพทย์เจ้าของไข้ให้ข้อมูลว่า เนื่องจากมีการอัดตะปูกับเหล็กในระเบิด ทำให้ตะปูฝังอยู่ในขาผู้ป่วยจำนวนมาก ซึ่งต้องค่อยๆ ผ่าตัดออก และต้องเอกซเรย์ติดตามต่อไปว่ามีตะปูและเศษเหล็กหลงเหลืออยู่หรือไม่ ถ้ามีต้องผ่าตัดออกอีก อย่างไรก็ตาม มารดาผู้ป่วยระบุว่า ประทับใจในการดูแลเอาใจใส่ของโรงพยาบาล และรัฐบาล รวมทั้งคนไทยที่ให้กำลังใจด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ นำกระเช้าหนังสือและตุ๊กตามามอบให้กำลังใจ รวมทั้งรับดูแลทุนการศึกษาให้แก่ ด.ญธัญสินี ด้วย
ด้าน นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าอาการผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดในกทม. ที่ผ่านมาว่า จากการตรวจสอบล่าสุดโดยศูนย์นเรนทร เวลา 06.00 น.วันนี้ มีผู้บาดเจ็บพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 7 แห่ง รวม 17 ราย เป็นไทย 15 ราย ต่างชาติ 2 ราย ทุกรายอาการดีขึ้นตามลำดับ ผู้ที่มีอาการสาหัสก็สามารถผ่านพ้นวิกฤตได้แล้ว ต่อจากนี้จึงต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 1 ราย คือ นายยงสิน บุญมาก อายุ 44 ปี อาการดีขึ้น ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี 2 ราย ได้แก่ น.ส.อาจารี มีธนะทรัพย์ อายุ 21 ปี ซึ่งกระดูกขาขวาหัก เส้นเลือดขาด มีบาดแผลที่ทรวงอก แพทย์ให้อยู่ห้องไอซียู อาการโดยทั่วไปดีขึ้น และนายปิติญา รัชกุล อายุ 45 ปี มีบาดแผลที่สะโพกซ้าย อาการดีขึ้น พักรักษาตัวที่ตึกอุบัติเหตุ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มี 5 รายได้แก่ 1.นางใบ วรรณวงศา อายุ 21 ปี มีแผลที่ไหล่ซ้าย 2.เด็กหญิงธัญศินี มังกร อายุ 12 ปี มีแผลที่ขาทั้ง 2 ข้าง 3.นายคำพันธ์ อาจโยธา อายุ 34 ปี มีแผลที่ต้นขาขวา 4.นายคำดี มณีแสง อายุ 40 ปี มีแผลที่ไหล่ซ้าย และ 5.น.ส.ชลัดดา ติจะนา อายุ 18 ปี มีแผลที่ขาขวา ทั้ง 5 รายอาการดีขึ้น รักษาตัวอยู่ที่ตึกจุฬาภรณ์ ชั้น 2
ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มี 2 รายคือ น.ส.มาริน่า โควาโค่ (Marina Kovaco) อายุ 35 ปี ยังพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู อาการดีขึ้น และ 2.น.ส.วรรณโสภา จันทร์ศรีนะ อายุ 23 ปี มีแผลที่ท้องและตา ยังปวดแผลเล็กน้อย เดินได้ รักษาตัวหอผู้ป่วยสามัญ และอีก 2 ราย ที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้แก่ นายดวงจันทร์ โลนุช บาดเจ็บที่หน้าอก และนายโจแรม (Mr. Joram) อายุ 55 ปี บาดเจ็บที่ตา ทุกรายอาการดีขึ้น แต่ยังต้องเฝ้าระวังการอักเสบของบาดแผลทุกวัน สำหรับผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี 5 ราย ทุกรายอาการดีขึ้น โดยเฉพาะนายสำรวย สีดาว ชาวศรีสะเกษ ที่นอนห้องไอซียู ไม่มีไข้ ไม่มีภาวะแทรกซ้อน การทำงานของไตดี บาดแผลที่ขาขวาไม่มีเลือดออกเพิ่ม การทำงานของเส้นเลือดใหญ่ที่โคนขาขวาที่ถูกตัดขาด หลังแพทย์ทำการเย็บต่อให้ทำงานได้ดี สามารถคลำชีพจรได้ชัดเจน มีอาการปวดแผลบ้าง ให้นอนสังเกตอาการต่อในห้องไอซียูต่อ คาดจะย้ายไปอยู่หอผู้ป่วยสามัญในอีก 1-2 วันนี้ ส่วนอีก 4 รายที่นอนหอผู้ป่วยสามัญ ได้แก่ 1.น.ส.อ้อมใจ พงษ์พรเชษฐา 2.น.ส.รัชนีวรรณ คล้ายหริ่ม 3.น.ส.ปัทมา รัตนคช และ 4.นายณรงค์ชัย รุ่งจรูญ อาการดีขึ้นเช่นกัน
นพ.มงคล กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการการรักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาลต่างๆ มีการตรวจตรา คนเข้าออกอย่างเข้มงวด ป้องกันคนนอกเข้าไปในพื้นที่จึงไม่ต้องเป็นห่วง ในส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือเหตุการณ์โดยตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.เป็นต้นมาโรงพยาบาลทุกแห่งมีการเรียกเจ้าหน้าที่ทั้งแพทย์ พยาบาล กลับมาปฏิบัติหน้าที่ และเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ทุกแห่งมากกว่าเดิม 3-4 เท่าตัว
ทางด้านนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าในเรื่องค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บทั้งหมด 43 ราย กระทรวงสาธารณสุขจะรับผิดชอบทั้งหมด ตามสิทธิในระบบประกันสุขภาพที่มีอยู่ เนื่องจากมีชื่อของผู้บาดเจ็บทุกรายแล้ว โดยได้มอบหมายศูนย์นเรนทรเป็นแกนกลางประสานโรงพยาบาลต่างๆ ที่ให้การดูแลผู้บาดเจ็บ
เมื่อเวลา 14.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานตุ๊กตาหมีพูห์ตัวใหญ่ และตุ๊กตาบาร์บี้ รวมทั้งบัตรพระราชทานพรเยี่ยมอาการบาดเจ็บ ด.ญ.ธัญสินี มังกรพันธ์ อายุ 12 ปี ซึ่งพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งนายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้อัญเชิญของพระราชทานดังกล่าวมามอบให้ พร้อมกล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิด และยังได้พระราชทานบัตรพระราชทานพรเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่พักรักษาอาการใน รพ.จุฬาฯ ทั้งหมดด้วย
น.ส.จำปา สาระศาริน มารดา ด.ญ.ธัญสินี ปลาบปลื้มใจที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ และนายแผนยังได้มอบพระที่ได้รับพระราชทานมาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้กับ ด.ญ.ธัญสินี อีกด้วย หลังทราบจากเด็กว่าฝันร้ายถึงลุงที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่คลองเตย
สำหรับความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของ ด.ญ.ธัญสินี แพทย์ได้ผ่าตัดเป็นครั้งที่ 2 ช่วงสายวันนี้ เนื่องจากเอกซเรย์พบตะปูและเศษเหล็กจำนวนมากฝังอยู่ในขาทั้งสองข้าง ซึ่งมารดาของเด็กกล่าวว่า การผ่าตัดครั้งนี้เด็กบ่นเจ็บแผลมาก เพราะไม่ใช่แผลสดเหมือนครั้งแรก รวมทั้งแผลยังติดเชื้อ ซึ่งแพทย์เจ้าของไข้ให้ข้อมูลว่า เนื่องจากมีการอัดตะปูกับเหล็กในระเบิด ทำให้ตะปูฝังอยู่ในขาผู้ป่วยจำนวนมาก ซึ่งต้องค่อยๆ ผ่าตัดออก และต้องเอกซเรย์ติดตามต่อไปว่ามีตะปูและเศษเหล็กหลงเหลืออยู่หรือไม่ ถ้ามีต้องผ่าตัดออกอีก อย่างไรก็ตาม มารดาผู้ป่วยระบุว่า ประทับใจในการดูแลเอาใจใส่ของโรงพยาบาล และรัฐบาล รวมทั้งคนไทยที่ให้กำลังใจด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ นำกระเช้าหนังสือและตุ๊กตามามอบให้กำลังใจ รวมทั้งรับดูแลทุนการศึกษาให้แก่ ด.ญธัญสินี ด้วย
ด้าน นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าอาการผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดในกทม. ที่ผ่านมาว่า จากการตรวจสอบล่าสุดโดยศูนย์นเรนทร เวลา 06.00 น.วันนี้ มีผู้บาดเจ็บพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 7 แห่ง รวม 17 ราย เป็นไทย 15 ราย ต่างชาติ 2 ราย ทุกรายอาการดีขึ้นตามลำดับ ผู้ที่มีอาการสาหัสก็สามารถผ่านพ้นวิกฤตได้แล้ว ต่อจากนี้จึงต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 1 ราย คือ นายยงสิน บุญมาก อายุ 44 ปี อาการดีขึ้น ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี 2 ราย ได้แก่ น.ส.อาจารี มีธนะทรัพย์ อายุ 21 ปี ซึ่งกระดูกขาขวาหัก เส้นเลือดขาด มีบาดแผลที่ทรวงอก แพทย์ให้อยู่ห้องไอซียู อาการโดยทั่วไปดีขึ้น และนายปิติญา รัชกุล อายุ 45 ปี มีบาดแผลที่สะโพกซ้าย อาการดีขึ้น พักรักษาตัวที่ตึกอุบัติเหตุ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มี 5 รายได้แก่ 1.นางใบ วรรณวงศา อายุ 21 ปี มีแผลที่ไหล่ซ้าย 2.เด็กหญิงธัญศินี มังกร อายุ 12 ปี มีแผลที่ขาทั้ง 2 ข้าง 3.นายคำพันธ์ อาจโยธา อายุ 34 ปี มีแผลที่ต้นขาขวา 4.นายคำดี มณีแสง อายุ 40 ปี มีแผลที่ไหล่ซ้าย และ 5.น.ส.ชลัดดา ติจะนา อายุ 18 ปี มีแผลที่ขาขวา ทั้ง 5 รายอาการดีขึ้น รักษาตัวอยู่ที่ตึกจุฬาภรณ์ ชั้น 2
ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มี 2 รายคือ น.ส.มาริน่า โควาโค่ (Marina Kovaco) อายุ 35 ปี ยังพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู อาการดีขึ้น และ 2.น.ส.วรรณโสภา จันทร์ศรีนะ อายุ 23 ปี มีแผลที่ท้องและตา ยังปวดแผลเล็กน้อย เดินได้ รักษาตัวหอผู้ป่วยสามัญ และอีก 2 ราย ที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้แก่ นายดวงจันทร์ โลนุช บาดเจ็บที่หน้าอก และนายโจแรม (Mr. Joram) อายุ 55 ปี บาดเจ็บที่ตา ทุกรายอาการดีขึ้น แต่ยังต้องเฝ้าระวังการอักเสบของบาดแผลทุกวัน สำหรับผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี 5 ราย ทุกรายอาการดีขึ้น โดยเฉพาะนายสำรวย สีดาว ชาวศรีสะเกษ ที่นอนห้องไอซียู ไม่มีไข้ ไม่มีภาวะแทรกซ้อน การทำงานของไตดี บาดแผลที่ขาขวาไม่มีเลือดออกเพิ่ม การทำงานของเส้นเลือดใหญ่ที่โคนขาขวาที่ถูกตัดขาด หลังแพทย์ทำการเย็บต่อให้ทำงานได้ดี สามารถคลำชีพจรได้ชัดเจน มีอาการปวดแผลบ้าง ให้นอนสังเกตอาการต่อในห้องไอซียูต่อ คาดจะย้ายไปอยู่หอผู้ป่วยสามัญในอีก 1-2 วันนี้ ส่วนอีก 4 รายที่นอนหอผู้ป่วยสามัญ ได้แก่ 1.น.ส.อ้อมใจ พงษ์พรเชษฐา 2.น.ส.รัชนีวรรณ คล้ายหริ่ม 3.น.ส.ปัทมา รัตนคช และ 4.นายณรงค์ชัย รุ่งจรูญ อาการดีขึ้นเช่นกัน
นพ.มงคล กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการการรักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาลต่างๆ มีการตรวจตรา คนเข้าออกอย่างเข้มงวด ป้องกันคนนอกเข้าไปในพื้นที่จึงไม่ต้องเป็นห่วง ในส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือเหตุการณ์โดยตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.เป็นต้นมาโรงพยาบาลทุกแห่งมีการเรียกเจ้าหน้าที่ทั้งแพทย์ พยาบาล กลับมาปฏิบัติหน้าที่ และเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ทุกแห่งมากกว่าเดิม 3-4 เท่าตัว
ทางด้านนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าในเรื่องค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บทั้งหมด 43 ราย กระทรวงสาธารณสุขจะรับผิดชอบทั้งหมด ตามสิทธิในระบบประกันสุขภาพที่มีอยู่ เนื่องจากมีชื่อของผู้บาดเจ็บทุกรายแล้ว โดยได้มอบหมายศูนย์นเรนทรเป็นแกนกลางประสานโรงพยาบาลต่างๆ ที่ให้การดูแลผู้บาดเจ็บ


