นักวิจัยบีอาร์ที ค้นพบจิ้งเหลนห้วยหางหนาม สัตว์เลื้อยคลานชนิดใหม่ของโลก ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ มีเอกลักษณ์ประจำตัวคือ หางสั้น มีเกล็ดแหลมคล้ายหนาม แนะเร่งศึกษาทางนิเวศวิทยาเพิ่มองค์ความรู้ เพื่อก่อให้เกิดการอนุรักษ์และการจัดการอย่างยั่งยืน
นายมงคล คำสุข นักวิชาการป่าไม้ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า จากการสำรวจความหลากหลายของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก และสัตว์เลื้อยคลาน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยจากโครงการพัฒนาองค์ความรู้และศึกษานโยบายการจัดการทรัพยากรชีวภาพในประเทศไทย (Biodiversity Research and Training Program หรือบีอาร์ที) และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีการค้นพบสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกและสัตว์เลื้อยคลานชนิดใหม่ในพื้นที่จำนวน 37 ชนิด เป็นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 15 ชนิด และสัตว์เลื้อยคลาน 22 ชนิด ซึ่งในจำนวนนี้มีจิ้งเหลน ห้วยหางหนาม ซึ่งได้รับการจำแนกว่าเป็นชนิดใหม่ของโลก จิ้งเหลนห้วยหางหนาม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tropidophorus hangman มีเอกลักษณ์ประจำตัว คือ มีหางที่สั้น ประกอบไปด้วย เกล็ดแหลมคล้ายหนาม ขณะที่จิ้งเหลนห้วยทั่วไปบริเวณหางจะไม่มีหนาม พบอาศัยในป่าดิบแล้งบริเวณใกล้ๆ ภูเขาเทวดา ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว
“การค้นพบครั้งนี้เป็นการค้นพบโดยบังเอิญ แต่หากไม่สังเกตดีๆ ก็จะพบเห็นได้ยาก เพราะจิ้งเหลนห้วยหางหนามชอบอยู่ในรูที่มีขนาดพอดีกับลำตัวตามใต้ก้อนหิน และจะเอาหัวมุดลงไปใต้ดิน และให้หางอยู่ทางปากรู ซึ่งต่างจากจิ้งเหลนห้วยทั่วๆ ไป ที่มักชอบเดินหากินตามพื้นป่า อาศัยอยู่ตามริมห้วย ว่ายน้ำเก่ง” นายมงคล กล่าว
นายมงคล กล่าวต่อว่า สิ่งที่ควรเร่งศึกษาต่อไป คือ ลักษณะทางนิเวศวิทยาของจิ้งเหลนห้วยหางหนาม เพื่อดูพฤติกรรม การออกหากิน และจำนวนประชากร ว่า มีการค้นพบในบริเวณอื่นๆ ของประเทศไทยอีกหรือไม่ อันจะเป็นการสร้างองค์ความรู้ใหม่เพื่อก่อให้เกิดการอนุรักษ์และการจัดการอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ดี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ เป็นบริเวณที่มีขอบเขตรอยต่อของภาคเหนือและภาคอีสาน จึงทำให้พรรณไม้และสัตว์ป่าที่พบมีความหลากหลายมาก ดังนั้น ยังมีสิ่งมีชีวิตอีกหลากหลายสายพันธุ์ที่รอคอยการค้นพบและศึกษาวิจัยอย่างจริงจัง
นายมงคล คำสุข นักวิชาการป่าไม้ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า จากการสำรวจความหลากหลายของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก และสัตว์เลื้อยคลาน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยจากโครงการพัฒนาองค์ความรู้และศึกษานโยบายการจัดการทรัพยากรชีวภาพในประเทศไทย (Biodiversity Research and Training Program หรือบีอาร์ที) และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีการค้นพบสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกและสัตว์เลื้อยคลานชนิดใหม่ในพื้นที่จำนวน 37 ชนิด เป็นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 15 ชนิด และสัตว์เลื้อยคลาน 22 ชนิด ซึ่งในจำนวนนี้มีจิ้งเหลน ห้วยหางหนาม ซึ่งได้รับการจำแนกว่าเป็นชนิดใหม่ของโลก จิ้งเหลนห้วยหางหนาม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tropidophorus hangman มีเอกลักษณ์ประจำตัว คือ มีหางที่สั้น ประกอบไปด้วย เกล็ดแหลมคล้ายหนาม ขณะที่จิ้งเหลนห้วยทั่วไปบริเวณหางจะไม่มีหนาม พบอาศัยในป่าดิบแล้งบริเวณใกล้ๆ ภูเขาเทวดา ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว
“การค้นพบครั้งนี้เป็นการค้นพบโดยบังเอิญ แต่หากไม่สังเกตดีๆ ก็จะพบเห็นได้ยาก เพราะจิ้งเหลนห้วยหางหนามชอบอยู่ในรูที่มีขนาดพอดีกับลำตัวตามใต้ก้อนหิน และจะเอาหัวมุดลงไปใต้ดิน และให้หางอยู่ทางปากรู ซึ่งต่างจากจิ้งเหลนห้วยทั่วๆ ไป ที่มักชอบเดินหากินตามพื้นป่า อาศัยอยู่ตามริมห้วย ว่ายน้ำเก่ง” นายมงคล กล่าว
นายมงคล กล่าวต่อว่า สิ่งที่ควรเร่งศึกษาต่อไป คือ ลักษณะทางนิเวศวิทยาของจิ้งเหลนห้วยหางหนาม เพื่อดูพฤติกรรม การออกหากิน และจำนวนประชากร ว่า มีการค้นพบในบริเวณอื่นๆ ของประเทศไทยอีกหรือไม่ อันจะเป็นการสร้างองค์ความรู้ใหม่เพื่อก่อให้เกิดการอนุรักษ์และการจัดการอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ดี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ เป็นบริเวณที่มีขอบเขตรอยต่อของภาคเหนือและภาคอีสาน จึงทำให้พรรณไม้และสัตว์ป่าที่พบมีความหลากหลายมาก ดังนั้น ยังมีสิ่งมีชีวิตอีกหลากหลายสายพันธุ์ที่รอคอยการค้นพบและศึกษาวิจัยอย่างจริงจัง