สิ่งที่เด็กทำนั้นย่อมหวังเพียงสนุก...สิ่งที่ผู้ใหญ่ทำนั้นหวังที่ผลประโยชน์...
นี่อาจเป็นคำกล่าวที่แยกแยะความต่างระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ สำหรับเด็กแล้วความสนุกย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่ในเมื่อความสนุกคือสิ่งที่เด็กสนใจ และความสนใจเป็นที่ตั้งของการเรียนรู้ ฉะนั้นการที่เด็กมุ่งหวังแต่เพียงความสนุกนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย หากความสนใจนั้นนำไปสู่การเรียนรู้
อย่างไรก็ตาม แหล่งการเรียนรู้อย่างห้องสมุดกลับเป็นสิ่งที่เด็กมักจะมองว่าน่าเบื่อ ฉะนั้นห้องสมุดที่ดีนอกจากจะเต็มไปด้วยหนังสือแล้ว ยังต้องเต็มไปด้วยความสนุก จึงจะสามารถสร้างการเรียนรู้ให้แก่เด็กได้ ซึ่งลักษณะที่ว่ามานี้มีอยู่ในห้องสมุดเด็ก “พ่อสอนให้อ่าน”
ห้องสมุดเด็ก “พ่อสอนให้อ่าน” เป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร โดยจัดสร้างขึ้นเพื่อร่วมเทิดพระเกียรติ ในวาระมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติ 60 ปี และมีจุดริเริ่มมาจากพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่สอนให้รู้จักนำความรู้ที่หลากหลายมาผสมผสานเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งใหม่และเป็นประโยชน์ ซึ่งเน้นใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสนุกคิดสนุกค้น หรือ DLP (Discovery Learning Process) เน้นการใช้ทักษะ 7 ส. ประกอบด้วย สงสัย สังเกต สำรวจ สัมผัส สืบค้น สั่งสม และสรุปผล
อิงกฤชปาณมี ผางจันทดา เจ้าหน้าที่ของ พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร ได้บอกเล่าถึงความคาดหวังของห้องสมุดแห่งนี้ว่าต้องการให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และค้นคว้าข้อมูลสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัวที่มาใช้บริการภายในพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร โดยได้เน้นกลุ่มเป้าหมายไปที่กลุ่มเด็กวัยอนุบาลถึงประถมศึกษาเพราะต้องการสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้แก่เยาวชนไทย ด้วยการสร้างบรรยากาศห้องสมุดเพื่อกระตุ้นให้เด็กได้สร้างสรรค์การเรียนรู้ด้วยตัวเองและเสริมสร้างทักษะการสืบค้น ขณะเดียวกันก็รู้สึกสนุกสนาน และตื่นเต้นไปกับโลกที่เต็มไปด้วยสีสันของจินตนาการจากเรื่องราวในหนังสือที่อ่าน
ห้องสมุดแห่งนี้มีการแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน ส่วนแรก Back Yard Zone ซึ่งเป็นมุมหนังสือสำหรับเด็กโต 7-12 ปี ซึ่งเป็นวัยที่สามารถอ่านหนังสือเองได้ ในแนวคิด สวนหลังบ้าน และมีพื้นที่สำหรับนั่งอ่านคนเดียว มีการจัดสร้างและตกแต่งพื้นที่การอ่านในบรรยากาศตามแนวคิดสวนหลังบ้านด้วยการต่อเติมพื้นที่การให้บริการเป็นชั้นลอยเพิ่มเติม เพื่อให้เด็กค้นหาความรู้จากมุมหนังสือต่างๆที่จำลองสภาพแวดล้อมธรรมชาติแบบลักษณะงาน Fantasy เช่น อ่านหนังสือในโพรงต้นไม้ใหญ่ สิ่งมีชีวิตที่ซ่อนอยู่ในสนามหญ้า ใต้พื้นดิน และอื่นๆโดยมีพื้นที่ใช้สอยที่เชื่อมโยงกับงานออกแบบ
ส่วนถัดมาเป็น My Room Zone ที่เป็นพื้นที่อิสระสามารถอ่านได้ตามอัธยาศัยให้เด็กๆได้เลือกมุมโปรด นั่ง นอน อ่าน ในแบบของตนเอง ชั้นหนังสือออกแบบตามแนวคิดแบบอิสระ โดยมีการตกแต่งให้สามารถเป็นส่วนเสริมองค์ความรู้จากหมวดหนังสือที่จัดไว้ให้บริการได้ ทั้งยังมีการออกแบบจัดสร้างและต่อเติมเป็นพื้นที่ชั้นลอย ต่อเนื่องจาก Back Yard Zone ชั้นล่างตกแต่งบรรยากาศให้เป็นสถานที่คุ้นเคยของครอบครัว มีทางเดินเชื่อมต่อขึ้นไปชั้นบน ซึ่งตกแต่งเป็นบรรยากาศห้องนอนเด็ก
พื้นที่ส่วนสุดท้ายคือ kids&Baby Zone เป็นมุมหนังสือสำหรับเด็กเล็กที่จัดสร้างเป็นพื้นที่การอ่านและการเรียนรู้สำหรับกลุ่มครอบครัวและเด็กเล็ก โดยมีการผสมผสานการออกแบบพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะการใช้บริการของกลุ่มครอบครัวและเด็กเล็ก
“ในส่วนนี้ได้จัดสร้างเป็นหนอนยักษ์ที่มีการออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับนั่งอ่านหนังสือไปในตัว และมีการตกแต่งบรรยากาศเป็นพุ่มไม้ใบหญ้าแบบขยายสัดส่วนเกินจริงเพื่อใช้ในการตกแต่งบรรยากาศ และเป็นส่วนเก็บหนังสือหรือสื่อการเรียนการสอนไปในตัวด้วย” อิงกฤชปาณมี กล่าวถึงส่วนที่โดดเด่นที่สุดของห้องสมุดพ่อสอนให้อ่าน
ทั้งหมดนี้ทำให้เด็กยังคงได้รับความสนุกตามที่ต้องการพร้อมไปด้วยสารประโยชน์ห้องสมุดเด็ก “พ่อสอนให้อ่าน” จึงเป็นการสร้างการเรียนรู้ให้แก่เด็ก โดยยังคงครบครันด้วยความสนุกเฮฮาตามประสาเด็ก ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเด็กทุกคน




นี่อาจเป็นคำกล่าวที่แยกแยะความต่างระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ สำหรับเด็กแล้วความสนุกย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่ในเมื่อความสนุกคือสิ่งที่เด็กสนใจ และความสนใจเป็นที่ตั้งของการเรียนรู้ ฉะนั้นการที่เด็กมุ่งหวังแต่เพียงความสนุกนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย หากความสนใจนั้นนำไปสู่การเรียนรู้
อย่างไรก็ตาม แหล่งการเรียนรู้อย่างห้องสมุดกลับเป็นสิ่งที่เด็กมักจะมองว่าน่าเบื่อ ฉะนั้นห้องสมุดที่ดีนอกจากจะเต็มไปด้วยหนังสือแล้ว ยังต้องเต็มไปด้วยความสนุก จึงจะสามารถสร้างการเรียนรู้ให้แก่เด็กได้ ซึ่งลักษณะที่ว่ามานี้มีอยู่ในห้องสมุดเด็ก “พ่อสอนให้อ่าน”
ห้องสมุดเด็ก “พ่อสอนให้อ่าน” เป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร โดยจัดสร้างขึ้นเพื่อร่วมเทิดพระเกียรติ ในวาระมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติ 60 ปี และมีจุดริเริ่มมาจากพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่สอนให้รู้จักนำความรู้ที่หลากหลายมาผสมผสานเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งใหม่และเป็นประโยชน์ ซึ่งเน้นใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสนุกคิดสนุกค้น หรือ DLP (Discovery Learning Process) เน้นการใช้ทักษะ 7 ส. ประกอบด้วย สงสัย สังเกต สำรวจ สัมผัส สืบค้น สั่งสม และสรุปผล
อิงกฤชปาณมี ผางจันทดา เจ้าหน้าที่ของ พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร ได้บอกเล่าถึงความคาดหวังของห้องสมุดแห่งนี้ว่าต้องการให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และค้นคว้าข้อมูลสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัวที่มาใช้บริการภายในพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร โดยได้เน้นกลุ่มเป้าหมายไปที่กลุ่มเด็กวัยอนุบาลถึงประถมศึกษาเพราะต้องการสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้แก่เยาวชนไทย ด้วยการสร้างบรรยากาศห้องสมุดเพื่อกระตุ้นให้เด็กได้สร้างสรรค์การเรียนรู้ด้วยตัวเองและเสริมสร้างทักษะการสืบค้น ขณะเดียวกันก็รู้สึกสนุกสนาน และตื่นเต้นไปกับโลกที่เต็มไปด้วยสีสันของจินตนาการจากเรื่องราวในหนังสือที่อ่าน
ห้องสมุดแห่งนี้มีการแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน ส่วนแรก Back Yard Zone ซึ่งเป็นมุมหนังสือสำหรับเด็กโต 7-12 ปี ซึ่งเป็นวัยที่สามารถอ่านหนังสือเองได้ ในแนวคิด สวนหลังบ้าน และมีพื้นที่สำหรับนั่งอ่านคนเดียว มีการจัดสร้างและตกแต่งพื้นที่การอ่านในบรรยากาศตามแนวคิดสวนหลังบ้านด้วยการต่อเติมพื้นที่การให้บริการเป็นชั้นลอยเพิ่มเติม เพื่อให้เด็กค้นหาความรู้จากมุมหนังสือต่างๆที่จำลองสภาพแวดล้อมธรรมชาติแบบลักษณะงาน Fantasy เช่น อ่านหนังสือในโพรงต้นไม้ใหญ่ สิ่งมีชีวิตที่ซ่อนอยู่ในสนามหญ้า ใต้พื้นดิน และอื่นๆโดยมีพื้นที่ใช้สอยที่เชื่อมโยงกับงานออกแบบ
ส่วนถัดมาเป็น My Room Zone ที่เป็นพื้นที่อิสระสามารถอ่านได้ตามอัธยาศัยให้เด็กๆได้เลือกมุมโปรด นั่ง นอน อ่าน ในแบบของตนเอง ชั้นหนังสือออกแบบตามแนวคิดแบบอิสระ โดยมีการตกแต่งให้สามารถเป็นส่วนเสริมองค์ความรู้จากหมวดหนังสือที่จัดไว้ให้บริการได้ ทั้งยังมีการออกแบบจัดสร้างและต่อเติมเป็นพื้นที่ชั้นลอย ต่อเนื่องจาก Back Yard Zone ชั้นล่างตกแต่งบรรยากาศให้เป็นสถานที่คุ้นเคยของครอบครัว มีทางเดินเชื่อมต่อขึ้นไปชั้นบน ซึ่งตกแต่งเป็นบรรยากาศห้องนอนเด็ก
พื้นที่ส่วนสุดท้ายคือ kids&Baby Zone เป็นมุมหนังสือสำหรับเด็กเล็กที่จัดสร้างเป็นพื้นที่การอ่านและการเรียนรู้สำหรับกลุ่มครอบครัวและเด็กเล็ก โดยมีการผสมผสานการออกแบบพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะการใช้บริการของกลุ่มครอบครัวและเด็กเล็ก
“ในส่วนนี้ได้จัดสร้างเป็นหนอนยักษ์ที่มีการออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับนั่งอ่านหนังสือไปในตัว และมีการตกแต่งบรรยากาศเป็นพุ่มไม้ใบหญ้าแบบขยายสัดส่วนเกินจริงเพื่อใช้ในการตกแต่งบรรยากาศ และเป็นส่วนเก็บหนังสือหรือสื่อการเรียนการสอนไปในตัวด้วย” อิงกฤชปาณมี กล่าวถึงส่วนที่โดดเด่นที่สุดของห้องสมุดพ่อสอนให้อ่าน
ทั้งหมดนี้ทำให้เด็กยังคงได้รับความสนุกตามที่ต้องการพร้อมไปด้วยสารประโยชน์ห้องสมุดเด็ก “พ่อสอนให้อ่าน” จึงเป็นการสร้างการเรียนรู้ให้แก่เด็ก โดยยังคงครบครันด้วยความสนุกเฮฮาตามประสาเด็ก ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเด็กทุกคน