ช่วงนี้เจ้าคนโตของดิฉันวัยเกือบ 9 ปี มีลักษณะฟันพิเศษเป็นของตนเองอย่างชัดเจน เวลายิ้มแป้นเมื่อไร จะเห็นฟันบนคู่หน้าร่าเริง กลายเป็นเอกลักษณ์ฟันกระต่ายประจำตัวมาร่วมปี

ฟันคู่หน้าของเขาเป็นฟันแท้ ซึ่งเจ้าคนโตของดิฉันจัดว่าเป็นเด็กที่ฟันใช้เวลาในการผลัดเปลี่ยนจากฟันน้ำนมเป็นฟันแท้ค่อนข้างช้าถึงช้ามาก เวลาฟันน้ำนมคู่บนหลุด ก็อวดฟันหลออยู่นานเกือบปี กว่าจะมีฟันแท้คู่กระต่ายขึ้นมาให้เชยชมจนทุกวันนี้ และฟันแท้ซี่ถัดไปด้านข้างก็ยังไม่ขึ้นตามมา
ต่างกับเจ้าคนเล็กที่เมื่อฟันน้ำนมหลุด ก็จะเห็นฟันแท้จ่อเตรียมขึ้นในบัดดล ฉะนั้นจึงไม่ได้เห็นสภาพฟันหลอของเจ้าคนเล็ก
เจ้ายอดชายสองพี่น้องมีทันตแพทย์ประจำ ที่ต้องไปพบและตรวจสภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ ปัญหาเรื่องฟันก็เลยน้อยหน่อย ทั้งยังโชคดีที่ทันตแพทย์คนใหม่คู่ครอบครัวของเรามีจิตวิทยาในการตรวจรักษาฟันเด็กๆ ทำให้เจ้าสองพี่น้องของดิฉันยินดีปรีดาที่จะไปพบป้าหมอฟันของเขาในแทบทุกครั้งที่มีนัด
คุณหมอบอกว่าเด็กผู้ชายกับฟันเป็นของคู่กัน กรณีของลูกชายดิฉันถือเป็นเรื่องปกติ เพราะฟันของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เด็กบางคนไม่เคยฟันหลอเลย เพราะเมื่อฟันน้ำนมหลุด เจ้าฟันแท้ก็ขึ้นมาแทนที่เลย แต่เด็กบางคนก็หลุดอยู่นานเป็นแรมปี แต่พ่อแม่ก็ควรจะต้องพาไปพบทันตแพทย์เป็นประจำ เพื่อตรวจดูสภาพฟันอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าอย่าตายใจนั่นแหละค่ะ
เรื่องฟันขึ้นช้า ขึ้นเร็ว ยังไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วงเท่ากับเรื่องอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับฟัน เพราะปัจจุบันนี้เด็กมีปัญหาเรื่องอุบัติเหตุเกี่ยวกับฟันเป็นจำนวนมาก เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องมีความรู้ และรู้วิธีปฐมพยาบาลและวิธีปฏิบัติเบื้องต้นเมื่อลูกเกิดอุบัติเหตุและฟันหลุดหรือฟันหัก
ที่สำคัญต้องบอกให้ลูกรู้วิธี และรู้จักระมัดระวังตัวด้วย
ดิฉันเห็นด้วยยิ่งนัก เพราะเด็กผู้ชายมีโอกาสสุ่มเสี่ยงจะสูญเสียฟันได้ทุกเมื่อ ยิ่งถ้าเป็นเด็กผู้ชายที่ออกแนวบู๊ชอบใช้กำลัง รวมถึงต้องเล่นกีฬาทั้งหลาย มีโอกาสเสี่ยงมากหน่อย
เมื่อไม่นานนี้ เพื่อนของเจ้าลูกชายคนโตของดิฉันประสบอุบัติเหตุทำให้ฟันแท้ข้างหน้า 4 ซี่หักหมด เรียกว่าถึงตอนนี้ เพื่อนคนนั้นต้องครอบฟันใหม่หมด
ส่วนอีกกรณีหนึ่งก็คือเพื่อนข้างบ้านก็ประสบอุบัติเหตุเรื่องฟันแท้หลุดเพราะหกล้มและหน้าคะมำกระแทกกับพื้น สร้างความตกอกตกใจให้แก่คนเป็นพ่อแม่ยิ่งนัก
ก็แหม...ฟันแท้หลุด นั่นย่อมหมายความว่า ต่อจากนี้ต้องฟันปลอมเป็นแน่แท้
ในรายที่สองนั้น คุณแม่รอบคอบหน่อย คือเก็บฟันไปให้คุณหมอด้วย หมายว่าจะสามารถนำฟันเก็บเข้าสู่สภาพปกติได้ แต่ปัญหาก็คือเก็บฟันไม่ถูกวิธี เธอดันเก็บฟันที่หลุดใส่ไว้ในกระดาษทิชชู กว่าจะไปพบทันตแพทย์สภาพฟันก็แห้งซะแล้ว ไม่สามารถนำฟันกลับเข้าสู่สภาพเดิมได้แล้ว
วิธีปฏิบัติสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เวลาลูกประสบอุบัติเหตุต้องทำอย่างไร
ถ้าลูกยังเล็กเป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องปฏิบัติ แต่หากลูกเริ่มโตแล้ว พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกรู้จักปฏิบัติต่อตัวเองด้วย
แล้วจะปฏิบัติอย่างไร ?
ขั้นแรก – ต้องเก็บฟันที่หลุดอย่างถูกวิธี ให้จับที่ตัวฟัน อย่าจับที่รากฟันเด็ดขาด เพราะรากฟันมีเยื่อยึดระหว่างกระดูกและฟันอยู่ ถ้าไม่หลุดหาย จะทำให้การปลูกฟันกลับเข้าไปประสบผลสำเร็จได้ แต่ถ้าฟันสกปรกมากก็ให้ล้างออกโดยจับที่ตัวฟัน และถือให้น้ำไหลเอื่อยๆ ผ่านเท่านั้น อย่าเปิดน้ำแรงเกินไป

ขั้นต่อมา - เมื่อทำความสะอาดแล้วให้สวมฟันกลับเข้าซี่ดังกล่าวทันที โดยใส่ส่วนรากฟันเข้าไป และรีบไปพบทันตแพทย์ทันที
ขั้นสุดท้าย - ถ้าไม่สามารถสวมฟันเข้าที่ได้ ให้แช่ฟันซี่ที่หลุดในนมจืดทันที เพราะจะช่วยรักษาสภาพฟัน หรือไม่ก็แช่ในน้ำเกลือก็ได้ ถ้าหากไม่มีทั้งสองอย่าง ให้เจ้าตัวอมฟันไว้ในกระพุ้งแก้ม หรือไม่เช่นนั้นก็อาจแช่ฟันในน้ำเปล่าก็ยังดี ห้ามปล่อยให้ฟันซี่ที่หลุดนั้นแห้งโดยเด็ดขาด
ต้องพึงระวังว่ายิ่งฟันอยู่นอกปากนานเท่าไร โอกาสรักษาฟันไว้ได้ก็มีน้อยลงเท่านั้น ถ้าให้ดีก็คือ ภายใน 30 นาทีหลังเกิดอุบัติเหตุ ไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมง เพราะช่วงเวลาที่ได้รับการรักษานั้นสำคัญมาก หากได้รับการรักษาทันที กรรมวิธีที่จะไม่ยุ่งยากมากนัก
แต่ในรายที่ปล่อยทิ้งไว้นาน จนเชื้อโรคในช่องปากเข้าสู่โพรงประสาทฟัน จะทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ การรักษาจะยิ่งซับซ้อน เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลามากขึ้น
สิ่งที่ควรรู้อีกประการก็คือ อุบัติเหตุที่มักเกิดกับฟันของเด็ก ส่วนใหญ่มักเกิดกับฟันหน้า
สำหรับกรณีที่ประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย เพียงแค่แรงกระแทก ฟันไม่หักแต่อาจโยกเล็กน้อย เด็กอาจเจ็บฟัน วิธีดูแลให้เด็กงดใช้ฟันหน้าและกินอาหารอ่อนๆ 1-2 สัปดาห์ ดูแลรักษาความสะอาดอย่างดี และควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจดูว่ารากฟันหักหรือไม่
อย่าประมาทว่า ได้รับอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยแล้วชะล่าใจ อย่างไรก็ควรไปพบทันตแพทย์ เพราะถ้ามีความผิดปกติจะได้ดูแลรักษาได้ทันท่วงที ไม่ให้ต้องสูญเสียฟันไปชนิดถาวร
สำหรับกรณีที่เด็กฟันบิ่นหรือฟันหัก ถ้ามีชิ้นส่วนฟันที่หักมีขนาดใหญ่ สามารถเก็บให้ทันตแพทย์ช่วยต่อให้ได้ โดยใช้วิธีเก็บชิ้นส่วนดังที่บอกไว้ข้างต้น
เรื่องฟันของเด็กเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่มักมองข้าม มักปล่อยให้เกิดปัญหาก่อนแล้วค่อยไปพบแพทย์
ดิฉันเคยสอบถามคุณหมอประจำของครอบครัวเรา คุณหมอเล่าให้ฟังว่า คนไข้เด็กที่คุณพ่อคุณแม่พาลูกมาหาหมอ ล้วนแล้วแต่มีปัญหาเรื่องฟันมาแล้วทั้งนั้นจึงค่อยพามาพบหมอฟัน ประเภทมาก่อนเพื่อตรวจสภาพฟันตามวัยแทบไม่มี บางคนแม้แต่เกิดอุบัติเหตุก็ปล่อยให้เนิ่นนาน จนไม่สามารถรักษาได้ ต้องใช้ฟันปลอมก็มากมาย
แต่ที่มากสุดก็คือฟันผุ แล้วไม่ใช่เพิ่งเริ่มผุ แต่ส่วนใหญ่ปล่อยให้ผุทะลุทะลวงไปเกือบครึ่งปาก หรือไม่ก็ถึงรากฟันซะแล้ว ถึงจะค่อยพามาหาหมอฟัน
สุดท้ายพอเด็กมารับการรักษาก็ต้องเจ็บตัวเป็นธรรมดา เพราะเครื่องมือเครื่องไม้ที่ใช้ในการรักษาก็มากขึ้น เพราะต้องรักษารากฟันด้วย เด็กๆ ก็จะร้องไห้ แล้วก็มักจบลงด้วยการไม่อยากมาหาหมอฟัน ยิ่งเมื่อคุณพ่อคุณแม่บางคนที่ชอบขู่เด็กๆ ว่าถ้าดื้อจะจับไปหาหมอฟันด้วยล่ะก็ คุณหมอบอกว่ากลัวใจจริงๆ
ในทางกลับกัน ถ้าพ่อแม่ให้ความสนใจเรื่องฟันของลูกตั้งแต่เล็ก มีส่วนในการช่วยดูแลและทำความสะอาดฟันของลูกอย่างถูกวิธี พอถึงเวลาก็พาไปลูกพบทันตแพทย์เพื่อตรวจดูสภาพฟันตามปกติ ไม่รอให้ฟันผุซะก่อน เมื่อเด็กไปพบหมอฟันก็จะไม่กังวล ไม่เครียด และไม่กลัวหมอฟันอีกต่างหาก
ที่สำคัญคนเป็นพ่อแม่ก็จ่ายเงินไม่มากด้วย
เฮ้อ..ทำไงได้...ก็คนเป็นพ่อแม่ก็ยังกลัวหมอฟันกันอยู่เลย..ฮ่า...!!!
ฟันคู่หน้าของเขาเป็นฟันแท้ ซึ่งเจ้าคนโตของดิฉันจัดว่าเป็นเด็กที่ฟันใช้เวลาในการผลัดเปลี่ยนจากฟันน้ำนมเป็นฟันแท้ค่อนข้างช้าถึงช้ามาก เวลาฟันน้ำนมคู่บนหลุด ก็อวดฟันหลออยู่นานเกือบปี กว่าจะมีฟันแท้คู่กระต่ายขึ้นมาให้เชยชมจนทุกวันนี้ และฟันแท้ซี่ถัดไปด้านข้างก็ยังไม่ขึ้นตามมา
ต่างกับเจ้าคนเล็กที่เมื่อฟันน้ำนมหลุด ก็จะเห็นฟันแท้จ่อเตรียมขึ้นในบัดดล ฉะนั้นจึงไม่ได้เห็นสภาพฟันหลอของเจ้าคนเล็ก
เจ้ายอดชายสองพี่น้องมีทันตแพทย์ประจำ ที่ต้องไปพบและตรวจสภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ ปัญหาเรื่องฟันก็เลยน้อยหน่อย ทั้งยังโชคดีที่ทันตแพทย์คนใหม่คู่ครอบครัวของเรามีจิตวิทยาในการตรวจรักษาฟันเด็กๆ ทำให้เจ้าสองพี่น้องของดิฉันยินดีปรีดาที่จะไปพบป้าหมอฟันของเขาในแทบทุกครั้งที่มีนัด
คุณหมอบอกว่าเด็กผู้ชายกับฟันเป็นของคู่กัน กรณีของลูกชายดิฉันถือเป็นเรื่องปกติ เพราะฟันของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เด็กบางคนไม่เคยฟันหลอเลย เพราะเมื่อฟันน้ำนมหลุด เจ้าฟันแท้ก็ขึ้นมาแทนที่เลย แต่เด็กบางคนก็หลุดอยู่นานเป็นแรมปี แต่พ่อแม่ก็ควรจะต้องพาไปพบทันตแพทย์เป็นประจำ เพื่อตรวจดูสภาพฟันอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าอย่าตายใจนั่นแหละค่ะ
เรื่องฟันขึ้นช้า ขึ้นเร็ว ยังไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วงเท่ากับเรื่องอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับฟัน เพราะปัจจุบันนี้เด็กมีปัญหาเรื่องอุบัติเหตุเกี่ยวกับฟันเป็นจำนวนมาก เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องมีความรู้ และรู้วิธีปฐมพยาบาลและวิธีปฏิบัติเบื้องต้นเมื่อลูกเกิดอุบัติเหตุและฟันหลุดหรือฟันหัก
ที่สำคัญต้องบอกให้ลูกรู้วิธี และรู้จักระมัดระวังตัวด้วย
ดิฉันเห็นด้วยยิ่งนัก เพราะเด็กผู้ชายมีโอกาสสุ่มเสี่ยงจะสูญเสียฟันได้ทุกเมื่อ ยิ่งถ้าเป็นเด็กผู้ชายที่ออกแนวบู๊ชอบใช้กำลัง รวมถึงต้องเล่นกีฬาทั้งหลาย มีโอกาสเสี่ยงมากหน่อย
เมื่อไม่นานนี้ เพื่อนของเจ้าลูกชายคนโตของดิฉันประสบอุบัติเหตุทำให้ฟันแท้ข้างหน้า 4 ซี่หักหมด เรียกว่าถึงตอนนี้ เพื่อนคนนั้นต้องครอบฟันใหม่หมด
ส่วนอีกกรณีหนึ่งก็คือเพื่อนข้างบ้านก็ประสบอุบัติเหตุเรื่องฟันแท้หลุดเพราะหกล้มและหน้าคะมำกระแทกกับพื้น สร้างความตกอกตกใจให้แก่คนเป็นพ่อแม่ยิ่งนัก
ก็แหม...ฟันแท้หลุด นั่นย่อมหมายความว่า ต่อจากนี้ต้องฟันปลอมเป็นแน่แท้
ในรายที่สองนั้น คุณแม่รอบคอบหน่อย คือเก็บฟันไปให้คุณหมอด้วย หมายว่าจะสามารถนำฟันเก็บเข้าสู่สภาพปกติได้ แต่ปัญหาก็คือเก็บฟันไม่ถูกวิธี เธอดันเก็บฟันที่หลุดใส่ไว้ในกระดาษทิชชู กว่าจะไปพบทันตแพทย์สภาพฟันก็แห้งซะแล้ว ไม่สามารถนำฟันกลับเข้าสู่สภาพเดิมได้แล้ว
วิธีปฏิบัติสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เวลาลูกประสบอุบัติเหตุต้องทำอย่างไร
ถ้าลูกยังเล็กเป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องปฏิบัติ แต่หากลูกเริ่มโตแล้ว พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกรู้จักปฏิบัติต่อตัวเองด้วย
แล้วจะปฏิบัติอย่างไร ?
ขั้นแรก – ต้องเก็บฟันที่หลุดอย่างถูกวิธี ให้จับที่ตัวฟัน อย่าจับที่รากฟันเด็ดขาด เพราะรากฟันมีเยื่อยึดระหว่างกระดูกและฟันอยู่ ถ้าไม่หลุดหาย จะทำให้การปลูกฟันกลับเข้าไปประสบผลสำเร็จได้ แต่ถ้าฟันสกปรกมากก็ให้ล้างออกโดยจับที่ตัวฟัน และถือให้น้ำไหลเอื่อยๆ ผ่านเท่านั้น อย่าเปิดน้ำแรงเกินไป
ขั้นต่อมา - เมื่อทำความสะอาดแล้วให้สวมฟันกลับเข้าซี่ดังกล่าวทันที โดยใส่ส่วนรากฟันเข้าไป และรีบไปพบทันตแพทย์ทันที
ขั้นสุดท้าย - ถ้าไม่สามารถสวมฟันเข้าที่ได้ ให้แช่ฟันซี่ที่หลุดในนมจืดทันที เพราะจะช่วยรักษาสภาพฟัน หรือไม่ก็แช่ในน้ำเกลือก็ได้ ถ้าหากไม่มีทั้งสองอย่าง ให้เจ้าตัวอมฟันไว้ในกระพุ้งแก้ม หรือไม่เช่นนั้นก็อาจแช่ฟันในน้ำเปล่าก็ยังดี ห้ามปล่อยให้ฟันซี่ที่หลุดนั้นแห้งโดยเด็ดขาด
ต้องพึงระวังว่ายิ่งฟันอยู่นอกปากนานเท่าไร โอกาสรักษาฟันไว้ได้ก็มีน้อยลงเท่านั้น ถ้าให้ดีก็คือ ภายใน 30 นาทีหลังเกิดอุบัติเหตุ ไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมง เพราะช่วงเวลาที่ได้รับการรักษานั้นสำคัญมาก หากได้รับการรักษาทันที กรรมวิธีที่จะไม่ยุ่งยากมากนัก
แต่ในรายที่ปล่อยทิ้งไว้นาน จนเชื้อโรคในช่องปากเข้าสู่โพรงประสาทฟัน จะทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ การรักษาจะยิ่งซับซ้อน เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลามากขึ้น
สิ่งที่ควรรู้อีกประการก็คือ อุบัติเหตุที่มักเกิดกับฟันของเด็ก ส่วนใหญ่มักเกิดกับฟันหน้า
สำหรับกรณีที่ประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย เพียงแค่แรงกระแทก ฟันไม่หักแต่อาจโยกเล็กน้อย เด็กอาจเจ็บฟัน วิธีดูแลให้เด็กงดใช้ฟันหน้าและกินอาหารอ่อนๆ 1-2 สัปดาห์ ดูแลรักษาความสะอาดอย่างดี และควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจดูว่ารากฟันหักหรือไม่
อย่าประมาทว่า ได้รับอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยแล้วชะล่าใจ อย่างไรก็ควรไปพบทันตแพทย์ เพราะถ้ามีความผิดปกติจะได้ดูแลรักษาได้ทันท่วงที ไม่ให้ต้องสูญเสียฟันไปชนิดถาวร
สำหรับกรณีที่เด็กฟันบิ่นหรือฟันหัก ถ้ามีชิ้นส่วนฟันที่หักมีขนาดใหญ่ สามารถเก็บให้ทันตแพทย์ช่วยต่อให้ได้ โดยใช้วิธีเก็บชิ้นส่วนดังที่บอกไว้ข้างต้น
เรื่องฟันของเด็กเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่มักมองข้าม มักปล่อยให้เกิดปัญหาก่อนแล้วค่อยไปพบแพทย์
ดิฉันเคยสอบถามคุณหมอประจำของครอบครัวเรา คุณหมอเล่าให้ฟังว่า คนไข้เด็กที่คุณพ่อคุณแม่พาลูกมาหาหมอ ล้วนแล้วแต่มีปัญหาเรื่องฟันมาแล้วทั้งนั้นจึงค่อยพามาพบหมอฟัน ประเภทมาก่อนเพื่อตรวจสภาพฟันตามวัยแทบไม่มี บางคนแม้แต่เกิดอุบัติเหตุก็ปล่อยให้เนิ่นนาน จนไม่สามารถรักษาได้ ต้องใช้ฟันปลอมก็มากมาย
แต่ที่มากสุดก็คือฟันผุ แล้วไม่ใช่เพิ่งเริ่มผุ แต่ส่วนใหญ่ปล่อยให้ผุทะลุทะลวงไปเกือบครึ่งปาก หรือไม่ก็ถึงรากฟันซะแล้ว ถึงจะค่อยพามาหาหมอฟัน
สุดท้ายพอเด็กมารับการรักษาก็ต้องเจ็บตัวเป็นธรรมดา เพราะเครื่องมือเครื่องไม้ที่ใช้ในการรักษาก็มากขึ้น เพราะต้องรักษารากฟันด้วย เด็กๆ ก็จะร้องไห้ แล้วก็มักจบลงด้วยการไม่อยากมาหาหมอฟัน ยิ่งเมื่อคุณพ่อคุณแม่บางคนที่ชอบขู่เด็กๆ ว่าถ้าดื้อจะจับไปหาหมอฟันด้วยล่ะก็ คุณหมอบอกว่ากลัวใจจริงๆ
ในทางกลับกัน ถ้าพ่อแม่ให้ความสนใจเรื่องฟันของลูกตั้งแต่เล็ก มีส่วนในการช่วยดูแลและทำความสะอาดฟันของลูกอย่างถูกวิธี พอถึงเวลาก็พาไปลูกพบทันตแพทย์เพื่อตรวจดูสภาพฟันตามปกติ ไม่รอให้ฟันผุซะก่อน เมื่อเด็กไปพบหมอฟันก็จะไม่กังวล ไม่เครียด และไม่กลัวหมอฟันอีกต่างหาก
ที่สำคัญคนเป็นพ่อแม่ก็จ่ายเงินไม่มากด้วย
เฮ้อ..ทำไงได้...ก็คนเป็นพ่อแม่ก็ยังกลัวหมอฟันกันอยู่เลย..ฮ่า...!!!