เปิดตัว “คลังปัญญาไทย” เว็บไซต์สารานุกรมไซเบอร์ฉลองปีมหามงคล

ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวโครงการคลังปัญญาไทย เว็บไซต์สารานุกรมออนไลน์ สไตล์วิกิพีเดีย โดยฝีมือคนไทย เพื่อคนไทย วันนี้เริ่มต้นใช้งานด้วยแปดสิบเรื่องมหามงคลอันเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คาด ปีหน้าสะสมครบ 8 หมื่นเรื่อง น้อมเกล้าฯ ถวายเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา

วันนี้ (1 ธ.ค.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ณ ห้องกมลทิพย์ โรงแรมสยามซิตี้ ได้มีการแถลงข่าว “โครงการคลังปัญญา” และเปิดตัวเว็บไซต์ www.panyathai.or.th/ ขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงมีพระชนมายุ 80 พรรษา ในปี พ.ศ.2550 โดยมี ฯพณฯ องคมนตรี ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย เดินทางมาเป็นประธานในพิธี

ดร.ครรชิต มาลัยวงศ์ ในฐานะประธานโครงการคลังปัญญาไทย เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวนี้เกิดจากสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยเล็งเห็นว่า พื้นที่ในโลกไซเบอร์นั้นมีส่วนที่สร้างสรรค์มีน้อยกว่า เด็กไทยร้อยละ 70 ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างไม่สร้างสรรค์ และมีโอกาสเกิดพฤติกรรมความเสี่ยงสูง เช่น การถูกล่อลวง เป็นต้น ทางแก้ที่ทางสมาคมเว็บไทย และ สสส.ได้คิดขึ้น ก็คือ การสร้างพื้นที่ส่วนดีให้แก่โลกอินเทอร์เน็ต จึงเกิดเป็นทางเลือกใหม่คือ http://www.panyathai.or.th/ ที่จะเป็นแหล่งรวบรวมความมรู้โดยใช้หลักสารานุกรมที่มีเนื้อหาเยอะที่สุดในโลกออนไลน์แบบ “วิกิพีเดีย” (http://www.wikipedia.org/) ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่มีข้อมูลในเรื่องนั้นๆ สามารถแบ่งปันข้อมูลใหม่ๆ เข้าเป็นฐานข้อมูลให้แก่สารานุกรมได้ ซึ่งในการเปิดตัวเป็นวันแรกนี้ ทางเว็บไซต์ดังกล่าวถือตัวเลขมงคล 80 เป็นจำนวนหัวข้อเรื่องสารานุกรม 80 เรื่องมหามงคล อันเกี่ยวเนื่องกันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง หญ้าแฝก แก้มลิง เกษตรผสมผสน ป่าพรุ คีตราชันย์ เป็นต้น ซึ่งประธานโครงการคลังปัญญาไทย ระบุว่า วิกิพีเดียใช้เวลาไม่นาน ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตก็เข้าไปร่วมแบ่งปันข้อมูลได้มากขึ้น 1,500,000 เรื่อง ดังนั้น หวังไว้ว่า ในปีหน้าเว็บไซต์ปัญญาไทยจะมีผู้แบ่งปันข้อมูลถึง 80,000 เรื่อง และจะน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นเครื่องราชสักการะสดุดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่จะทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา ในปีหน้าอีกด้วย

ด้านศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าวว่า การจัดทำเว็บไซต์นี้นอกจากจะเป็นการดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาของเด็กจนเกิดโครงการพระราชดำริสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนขึ้นแล้ว การเปิดตัวของเว็บปัญญาไทย ยังจะช่วยให้เด็ก เยาวชน ตลอดจนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตได้หลุดพ้นจากสามสิ่ง คือ หลุดพ้นจากอวิชชา คือ ความโง่เขลา หลุดพ้นจากกิเลส คือ ความชั่ว และหลุดพ้นจากอัตตา คือความเป็นตัวตน

“ความไม่รู้ ความโง่เขลา ภาษาพระเขาเรียนอวิชชา การจัดทำเว็บปัญญาไทยใส่ข้อมูลลงในเว็บไซต์จะช่วยให้คนหลุดจากความโง่เขลา ทำให้มีปัญญา และเนื้อหาที่ทางผู้จัดทำเน้นมากก็คือ เป็นข้อมูลความรู้ เป็นการแนะนำการทำดี และเป็นการสอนให้เด็กทำงานได้ ทำงานเป็น คือ สอนทั้งเรื่องของทั้งความรู้ ความดี และการทำงาน ทำให้เด็กฉลาด มีข้อมูลในการศึกษาเพิ่มขึ้น มีความดีตัวอย่างให้ปฏิบัติตาม และเมื่อเราส่งข้อมูลไปแล้วมีคนที่รู้มากกว่าเรามาแก้ไข มาเพิ่มเติมให้ ก็จะทำให้เราลดอัตตาของตัวเองลงไปได้” ศ.นพ.เกษม กล่าว

ด้านดร.กมล รอดคล้าย ในฐานะที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เว็บคลังปัญญา เหมาะกับการเรียนรู้ การศึกษา ของนักเรียน และนักศึกษา โดยเฉพาะที่อยู่ที่พื้นที่ห่างไกล กระทรวงศึกษาธิการจึงมีนโยบายสนับสนุนให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ นักเรียน นักศึกษา ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์ความรู้ ไว้ในเว็บคลังปัญญาไทย เพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาหาความรู้ต่อไป