สคบ.เตือนมิจฉาชีพส่งเอสเอ็มเอสหลอกให้โอนเงินภาษี เพื่อแลกเงินรางวัลก้อนใหญ่ อ้างว่าจากการจับรางวัลของบริษัท ระบุมีคนหลงเชื่อแล้วจำนวนมาก ขณะที่ยังหลอกให้ผู้มีเงินไม่มากไปกดโอนเงินให้ทางตู้เอทีเอ็ม แนะผู้บริโภคตรวจสอบว่าเคยไปร่วมชิงรางวัลหรือไม่ และสอบถามกลับไปยังบริษัทนั้น ๆ โดยตรง
นางรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2549 ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคหลายราย กรณีถูกหลอกว่าเป็นผู้โชคดี ได้รับเงินรางวัลแต่จะต้องโอนเงินเพื่อเป็นการเสียภาษีล่วงหน้าไปก่อนจึงจะได้รับเงินรางวัล โดยกลโกงของมิจฉาชีพเหล่านี้ จะส่งข้อความเอสเอ็มเอสมาทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในลักษณะว่าเป็นผู้โชคดี เช่น “ยินดีด้วย บริษัท.. มีรางวัลให้คุณ 400,000 บาท กรุณาโทรกลับ 01-xxx-xxx” โดยเมื่อผู้บริโภคติดต่อกลับไป ผู้รับสายที่อ้างตัวว่าเป็นพนักงานของบริษัทนั้น จะแจ้งว่าเป็นผู้โชคดีจากการสุ่มจับหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อคืนกำไรให้ลูกค้า จากนั้นจะสอบถามข้อมูลส่วนตัวเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเงินของผู้บริโภครายนั้น และจะให้พนักงานติดต่อกลับมาอีกครั้งเพื่อแจ้งยืนยันว่าเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลใหญ่จริง ซึ่งหากผู้บริโภคต้องการรับเงินรางวัล จะต้องโอนเงินค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย ไปก่อนเป็นจำนวนร้อยละ 5 มิฉะนั้นจะไม่สามารถขอรับเงินรางวัลได้ ซึ่งมีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่หลงเชื่อโอนเงินไปให้กลุ่มมิจฉาชีพนี้แล้ว
นอกจากนี้ อีกวิธีหนึ่งที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้กับผู้บริโภคที่มีเงินไม่มาก คือ จะขอเลขที่บัญชีเงินฝากของผู้บริโภคที่มีบัตรเอทีเอ็ม จากนั้นจะบอกผู้บริโภคว่าโอนเงินเข้าบัญชีแล้วให้ไปตรวจสอบยอดเงินที่ตู้เอทีเอ็มได้ทันที แต่เมื่อไปตรวจสอบกลับไม่พบยอดเงินรางวัลที่กล่าวอ้างก็จะโทรกลับไปสอบถาม ทางกลุ่มมิจฉาชีพก็จะหลอกเหยื่อว่าระบบโอนเงินผิดพลาดเนื่องจากยังไม่ได้ทำการสมัครสมาชิก ดังนั้น ขอให้กดทำรายการตามที่บอก ซึ่งความจริงแล้วเป็นการทำรายการโอนเงินไปยังบัญชีของกลุ่มมิจฉาชีพ
“สคบ. จึงขอแนะนำผู้บริโภคว่าหากได้รับแจ้งว่าเป็นผู้โชคดีจากการเสี่ยงโชค ชิงรางวัลใด ๆ ควรปฏิบัติ ตรวจสอบข้อมูลของตนเองว่าเคยเข้าร่วมการเสี่ยงโชคชิงรางวัลใดตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้างหรือไม่ แล้วสอบถามถึงรายการชิงรางวัลกลับไปที่บริษัทนั้นโดยตรง โดยต้องพึงระลึกไว้ว่าการจับรางวัลนั้น ตามกฎหมายกำหนดว่าไม่สามารถตั้งของรางวัลเป็นเงินสดได้” นางรัศมี กล่าว
นางรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2549 ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคหลายราย กรณีถูกหลอกว่าเป็นผู้โชคดี ได้รับเงินรางวัลแต่จะต้องโอนเงินเพื่อเป็นการเสียภาษีล่วงหน้าไปก่อนจึงจะได้รับเงินรางวัล โดยกลโกงของมิจฉาชีพเหล่านี้ จะส่งข้อความเอสเอ็มเอสมาทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในลักษณะว่าเป็นผู้โชคดี เช่น “ยินดีด้วย บริษัท.. มีรางวัลให้คุณ 400,000 บาท กรุณาโทรกลับ 01-xxx-xxx” โดยเมื่อผู้บริโภคติดต่อกลับไป ผู้รับสายที่อ้างตัวว่าเป็นพนักงานของบริษัทนั้น จะแจ้งว่าเป็นผู้โชคดีจากการสุ่มจับหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อคืนกำไรให้ลูกค้า จากนั้นจะสอบถามข้อมูลส่วนตัวเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเงินของผู้บริโภครายนั้น และจะให้พนักงานติดต่อกลับมาอีกครั้งเพื่อแจ้งยืนยันว่าเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลใหญ่จริง ซึ่งหากผู้บริโภคต้องการรับเงินรางวัล จะต้องโอนเงินค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย ไปก่อนเป็นจำนวนร้อยละ 5 มิฉะนั้นจะไม่สามารถขอรับเงินรางวัลได้ ซึ่งมีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่หลงเชื่อโอนเงินไปให้กลุ่มมิจฉาชีพนี้แล้ว
นอกจากนี้ อีกวิธีหนึ่งที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้กับผู้บริโภคที่มีเงินไม่มาก คือ จะขอเลขที่บัญชีเงินฝากของผู้บริโภคที่มีบัตรเอทีเอ็ม จากนั้นจะบอกผู้บริโภคว่าโอนเงินเข้าบัญชีแล้วให้ไปตรวจสอบยอดเงินที่ตู้เอทีเอ็มได้ทันที แต่เมื่อไปตรวจสอบกลับไม่พบยอดเงินรางวัลที่กล่าวอ้างก็จะโทรกลับไปสอบถาม ทางกลุ่มมิจฉาชีพก็จะหลอกเหยื่อว่าระบบโอนเงินผิดพลาดเนื่องจากยังไม่ได้ทำการสมัครสมาชิก ดังนั้น ขอให้กดทำรายการตามที่บอก ซึ่งความจริงแล้วเป็นการทำรายการโอนเงินไปยังบัญชีของกลุ่มมิจฉาชีพ
“สคบ. จึงขอแนะนำผู้บริโภคว่าหากได้รับแจ้งว่าเป็นผู้โชคดีจากการเสี่ยงโชค ชิงรางวัลใด ๆ ควรปฏิบัติ ตรวจสอบข้อมูลของตนเองว่าเคยเข้าร่วมการเสี่ยงโชคชิงรางวัลใดตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้างหรือไม่ แล้วสอบถามถึงรายการชิงรางวัลกลับไปที่บริษัทนั้นโดยตรง โดยต้องพึงระลึกไว้ว่าการจับรางวัลนั้น ตามกฎหมายกำหนดว่าไม่สามารถตั้งของรางวัลเป็นเงินสดได้” นางรัศมี กล่าว