สธ.จ่อขึ้นภาษีเหล้า-เบียร์ ถ้าไม่ปรับขึ้นจะต้องปรับขบวนการผลิตเหล้าขาวให้ได้มาตรฐาน พร้อมเผยมาตรการควบคุมห้ามแสดงยี่ห้อสินค้าในร้านโชว์ห่วยหรือร้านสะดวกซื้อจะไม่เข้มเหมือนบุหรี่ แต่กำชับให้หันยี่ห้อไว้ด้านใน
นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงมาตรการการขึ้นภาษีเหล้า-เบียร์ ว่า จะมีการพิจารณาขึ้นภาษีอย่างแน่นอน แต่หากไม่ขึ้นก็จะต้องมีการปรับกระบวนการผลิตเหล้าขาวให้ได้มาตรฐานมีคุณภาพมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันกระบวนการกลั่นเหล้าขาวมีส่าเหล้าหลงเหลืออยู่ ซึ่งส่าเหล้าเป็นแหล่งของโปรตีนที่ก่อให้เกิดแบคทีเรีย ทำให้บางคนมีอาการแพ้ เกิดผืนแดงขึ้นได้
ในส่วนมาตรการการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ห้ามแสดงตราสินค้าในร้านค้า หรือร้านสะดวกซื้อ นั้น นพ.ธวัช กล่าวว่า กฎหมายนี้จะไม่เข้มงวดเหมือนกับการห้ามตั้งโชว์บุหรี่ ณ จุดขาย คือ ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ ไวน์ สามารถตั้งขายในร้านโดยให้หันตราสินค้าเข้าด้านใน รวมทั้งสามารถตั้งโชว์ในตู้เย็นได้ เพียงแต่มีขอบเขตที่สามารถตั้งโชว์ไว้ภายในร้านค้าที่ปกปิดมิดชิดเท่านั้น
ทั้งนี้ ร้านค้าใดจะขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องหาวัสดุมากั้นปิดหน้าร้านหรือทำเป็นกระจกทึบเอาไว้ไม่ให้ผู้ที่ผ่านไปมาโดยเฉพาะเยาวชนมองเห็นว่าสินค้าในร้านมียี่ห้ออะไรบ้างแต่เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาในร้านก็สามารถเลือกซื้อได้ว่าจะซื้อยี่ห้อใดไม่ได้ห้ามวางโชว์เหมือนบุหรี่และในร้านค้าก็สามารถมีป้ายโฆษณาเชิญชวนให้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสื่ออื่น ๆ ที่มีเจตนาเพื่อการโฆษณาจูงใจให้เลือกซื้อได้แต่ภายนอกร้านจะต้องไม่มี
“เมื่อคำสั่ง อย.บังคับใช้ จะตั้งป้ายโฆษณาที่หน้าร้านไม่ได้แต่เอาป้ายไปตั้งไว้ข้างในร้านได้ โดยมีหลักปฏิบัติง่าย ๆ คือเมื่อมองจากหน้าร้านเข้าไปแล้วจะต้องทำให้มองไม่เห็นว่าในร้านมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อใดบ้าง เพื่อไม่ให้เตะตาเยาวชนซึ่งจะเป็นนักดื่มหน้าใหม่ เช่น ร้านไวน์จากเดิมที่หน้าร้านเป็นกระจกใสโชว์ไวน์ ก็ต้องหาวัสดุมาปิดหรือทำเป็นกระจกทึบแทน” นพ.ธวัช กล่าว
“มาตรการนี้จะส่งผลให้คนที่ดื่มอยู่แล้วตั้งใจจะซื้อเหล้า เบียร์มีโอกาสได้เห็นสินค้าได้ดูได้เลือก คือ รู้อยู่แล้วว่ามีตรงไหน ขายตรงไหน แต่จะช่วยหยุดยั้งเด็ก และเยาวชน ทำให้เหล้า-เบียร์ห่างไกลสายตาของเด็ก ป้องกันการเป็นนักดื่มหน้าใหม่ได้อย่างแน่นอน”นพ.ธวัชกล่าว
นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงมาตรการการขึ้นภาษีเหล้า-เบียร์ ว่า จะมีการพิจารณาขึ้นภาษีอย่างแน่นอน แต่หากไม่ขึ้นก็จะต้องมีการปรับกระบวนการผลิตเหล้าขาวให้ได้มาตรฐานมีคุณภาพมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันกระบวนการกลั่นเหล้าขาวมีส่าเหล้าหลงเหลืออยู่ ซึ่งส่าเหล้าเป็นแหล่งของโปรตีนที่ก่อให้เกิดแบคทีเรีย ทำให้บางคนมีอาการแพ้ เกิดผืนแดงขึ้นได้
ในส่วนมาตรการการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ห้ามแสดงตราสินค้าในร้านค้า หรือร้านสะดวกซื้อ นั้น นพ.ธวัช กล่าวว่า กฎหมายนี้จะไม่เข้มงวดเหมือนกับการห้ามตั้งโชว์บุหรี่ ณ จุดขาย คือ ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ ไวน์ สามารถตั้งขายในร้านโดยให้หันตราสินค้าเข้าด้านใน รวมทั้งสามารถตั้งโชว์ในตู้เย็นได้ เพียงแต่มีขอบเขตที่สามารถตั้งโชว์ไว้ภายในร้านค้าที่ปกปิดมิดชิดเท่านั้น
ทั้งนี้ ร้านค้าใดจะขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องหาวัสดุมากั้นปิดหน้าร้านหรือทำเป็นกระจกทึบเอาไว้ไม่ให้ผู้ที่ผ่านไปมาโดยเฉพาะเยาวชนมองเห็นว่าสินค้าในร้านมียี่ห้ออะไรบ้างแต่เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาในร้านก็สามารถเลือกซื้อได้ว่าจะซื้อยี่ห้อใดไม่ได้ห้ามวางโชว์เหมือนบุหรี่และในร้านค้าก็สามารถมีป้ายโฆษณาเชิญชวนให้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสื่ออื่น ๆ ที่มีเจตนาเพื่อการโฆษณาจูงใจให้เลือกซื้อได้แต่ภายนอกร้านจะต้องไม่มี
“เมื่อคำสั่ง อย.บังคับใช้ จะตั้งป้ายโฆษณาที่หน้าร้านไม่ได้แต่เอาป้ายไปตั้งไว้ข้างในร้านได้ โดยมีหลักปฏิบัติง่าย ๆ คือเมื่อมองจากหน้าร้านเข้าไปแล้วจะต้องทำให้มองไม่เห็นว่าในร้านมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อใดบ้าง เพื่อไม่ให้เตะตาเยาวชนซึ่งจะเป็นนักดื่มหน้าใหม่ เช่น ร้านไวน์จากเดิมที่หน้าร้านเป็นกระจกใสโชว์ไวน์ ก็ต้องหาวัสดุมาปิดหรือทำเป็นกระจกทึบแทน” นพ.ธวัช กล่าว
“มาตรการนี้จะส่งผลให้คนที่ดื่มอยู่แล้วตั้งใจจะซื้อเหล้า เบียร์มีโอกาสได้เห็นสินค้าได้ดูได้เลือก คือ รู้อยู่แล้วว่ามีตรงไหน ขายตรงไหน แต่จะช่วยหยุดยั้งเด็ก และเยาวชน ทำให้เหล้า-เบียร์ห่างไกลสายตาของเด็ก ป้องกันการเป็นนักดื่มหน้าใหม่ได้อย่างแน่นอน”นพ.ธวัชกล่าว