xs
xsm
sm
md
lg

ประลอง “ยุทธกีฬา” ค้นหาสุดยอด รด.พันธุ์แกร่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬาถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของเหล่าบรรดาทหารหาญ โดยเฉพาะ “ยุทธกีฬา” ซึ่งเกี่ยวกับวิชาการทหารโดยตรง เพราะเป็นการช่วยเพิ่มทักษะในการรบ ฝึกความอดทน แข็งแรง แข็งแกร่ง ฝึกความสามัคคี รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนนักศึกษาวิชาทหารซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญของชาติอีกด้วย

ทั้งนี้ “ยุทธกีฬา” นั้นถือเป็นการแข่งขันกีฬาแนวบู๊ แอ็กชั่น ทั้งยิงปืน โดดร่ม กีฬาโอเรียนเทียริ่ง (การวิ่งประกอบแผนที่/เข็มทิศในภูมิประเทศ) ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกนำไปสู่การประลองยุทธกีฬาใน “สุดยอด รด.พันธุ์แกร่ง” ที่ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก และหน่วยบัญชาการกำลังสำรองจัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความภาคภูมิใจให้นักเรียนวิชาทหารทั่วประเทศ โดยมีสถานศึกษา จำนวน 43 โรงเรียนจากกรุงเทพฯและปริมณฑล เป็นชาย 39 ทีม หญิง 4 ทีม นักกีฬาทีมละ 11 คน เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งจะจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 15-29 ต.ค. นี้

พล.ท.มนตรี สังขทรัพย์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการกำลังสำรอง เจ้าของไอเดียบอกถึงที่มาของการจัดการแข่งขันยุทธกีฬารักษาดินแดน “สุดยอด รด.พันธุ์แกร่ง” ว่า ก่อนจะมีโครงการนี้เกิดขึ้นที่ผ่านมา ทางหน่วยฯ จัดส่งเสริมกิจกรรมมากมายให้นักเรียนวิชาทหารมีความรู้สึกรักชาติ รักทหาร เป็นกำลังที่สำคัญของประเทศตามนโยบายของกองทัพบก

อย่างไรก็ตาม แทนที่จะฝึกเฉพาะในค่ายฝึก ซึ่งอาจทำให้เกิดความน่าเบื่อหน่าย ก็จัดการแข่งขันเป็นทีมเพื่อให้เกิดทั้งความสนุกสนาน ร่างกายแข็งแรง ความสมัครสมานสามัคคี รวมทั้งส่งเสริมให้เด็กรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ซึ่งกีฬาที่นำมาแข่งขันนั้นมีการฝึกสอนนักศึกษาวิชาทหารอยู่แล้วเช่น การถอดประกอบอาวุธ การใช้วิทยุสื่อสารถอดรหัส เป็นต้น

พล.ท.มนตรีอธิบายรายละเอียดการแข่งขันด้วยว่า การแข่งขันแบ่งเป็น 2 รอบ รอบแรกภาคที่ตั้งจะเป็นการแข่งขันเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการนำความรู้ไปแข่งขันในภาคสนาม โดยมีการแข่งขัน 7 ประเภท คือ 1.การวิ่งผลัด 4 x 100 เมตร พร้อมเครื่องสนาม หมวกเหล็ก และอาวุธประจำกายปืนเล็กยาวแบบ 88 จำนวน 1 กระบอก ซึ่งเฉพาะเป้สนาม ทบ. สีกากีแกมเขียวไม่มีโครงเหล็ก มีน้ำหนักถึง 5 กิโลกรัม 2.การวิ่งวิบากทหาร ระยะทาง 200 เมตร ซึ่งระหว่างทางจะมีการสวมเสื้อเครื่องแบบฝึก เข็มขัดสนาม สายโยงบ่า กระติกน้ำ พรางหน้า ใส่หมวกเหล็กหยิบปืน วิ่ง กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ลอดรั้วและคลานสูง

กีฬาประเภทที่ 3 เป็นการถอดประกอบอาวุธ 4.การดวลปืนเพ้นต์บอล 5.การวิ่งตัวหนอน แต่ละทีมส่งนักกีฬา 11 นาย แสดงถึงความสามัคคี 6.การใช้วิทยุ/การถอดรหัส 7.การวิ่งประกอบแผนที่/เข็มทิศในภูมิประเทศ(โอเรียนเทียริ่ง) ซึ่งกติกาการให้คะแนนเป็นการจับเวลาตัดสิน ทีมที่ทำเวลาน้อยจะเป็นผู้ชนะ

ส่วนในรอบตัดเชือกจะเป็นการคัดผู้ชนะที่ผ่านรอบแรกเพียง 5 ทีม มาแข่งขันต่อในภาคสนามเป็นการแข่งขันในภูมิประเทศจริง ณ ค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหารที่เขาชนไก่ จ.กาญจนบุรี โดยเป็นการปฏิบัติภารกิจของหน่วยทหารขนาดเล็กระดับหมู่ปืนเล็กในการแก้ปัญหาทางยุทธวิธี โดยจะเป็นการนำความรู้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการวิ่งประกอบแผนที่ซึ่งในเมืองอาจจะง่ายแต่พอเข้าไปในป่าทึบจะต้องใช้ทักษะ ไหวพริบมาประยุกต์วิชาการที่เรียนมาใช้จริง ซึ่งเด็กๆ จะได้รับความรู้และความสนุกสนานอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ทีมใดปฏิบัติตรงตามสั่งได้ในเวลาได้ดีที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะ

นอกจากนั้น ยังมีการแข่งขันกึ่งสาธิตของนักศึกษาวิชาทหารหญิง ชั้นปีที่ 2 จำนวน 4 ทีมซึ่งเน้นความสามารถด้านการปฐมพยาบาล เพื่อสื่อถึงศักยภาพนักศึกษาสตรีด้านวิชาทหาร และเตรียมวางแผนจะมีการแข่งขันเต็มรูปแบบในครั้งต่อไป โดยการแข่งขันนี้ถือเป็นครั้งแรกและจะจัดให้มีการแข่งขันทั่วประเทศต่อไปทุกๆ ปี

“อยากให้พ่อแม่ผู้ปกครองรู้สึกภาคภูมิใจในการมาเรียนนักศึกษาวิชาทหารของลูกไม่ใช่เพียงให้ลูกมาเรียนเพียงเพื่อไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์ เพราะพวกเขาคือกำลังสำรองของชาติ ที่สำคัญการมาเรียนวิชาทหารเป็นนโยบายของกองทัพบกที่จะสร้างเด็กรุ่นใหม่ให้มีความเป็นสุภาพบุรุษ-สุภาพสตรี ซึ่งการแข่งขันจะช่วยเสริมทักษะด้านต่างๆ ให้กับเด็กรวมถึงสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นด้วย”พล.ท.มนตรีทิ้งท้าย

ขณะที่น้องๆ นักศึกษาวิชาทหารอย่าง “น้องเจมส์” สุรนัย วณัชชารักษ์กุล อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนบางมด บอกว่า รู้สึกดีใจที่มีกิจกรรมดีๆ ในการส่งเสริมให้เยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยการแข่งขันกีฬา ซึ่งจากการที่ได้ชมกีฬาสาธิตแล้วรู้สึกชอบ การดวลปืนเพ้นต์บอลมาก แต่จะลงแข่งกีฬาประเภทใดในทีมคงจะต้องมีการวางแผนดูความสามารถของแต่ละคนก่อน

ขณะที่ “น้องลูกแก้ว” ปาริษา กิติจันทโรกาส วัย 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนสายปัญญาในพระบรมราชูปถัมภ์ บอกว่า ตื่นเต้นมากที่จะเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ชอบการประกอบปืน และดวลเพ้นต์บอล ส่วนใหญ่ในค่ายฝึกผู้หญิงจะไม่ได้ทำอะไรแบบนี้ พอมีการแข่งขันก็จะต้องมีการฝึกซ้อมและนำความรู้ไปใช้จริง คาดว่านอกจากจะสนุกสนานในการแข่งขันก็จะได้เพื่อนใหม่ๆ อีกหลายคนทีเดียว

ส่วน “น้องพจน์” สุรพงษ์ สุวิมลเสถียร วัย 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง พูดเป็นเสียงเดียวกันในบรรดากีฬา 7 ชนิด ที่จะมีการแข่งขันนั้น ชอบกีฬาดวลปืนเพ้นทต์บอลที่สุดน่าจะสนุกดี แต่ในปีนี้ไม่ได้ลงแข่งขันแต่ถ้ามีโอกาสปีหน้าคงไม่พลาดแน่ๆ อย่างไรก็ตาม สำหรับตนเองแล้ว “สุดยอด รด.พันธุ์แกร่ง” นอกจากจะมีร่างกายแข็งแรง ไหวพริบดีแล้ว ควรจะเป็นคนที่มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นสิ่งสำคัญ
กำลังโหลดความคิดเห็น