กระทรวงสาธารณสุข เตือนกลุ่มคนที่นิยมออรัลเซ็กซ์ ใช้ปากกับอวัยวะเพศชายหรือหญิง หรือที่ทวารหนัก มีโอกาสติดเชื้อเอดส์ เชื้อเริม หนองใน ซิฟิลิส ได้ หากปากหรือในลำคอมีแผล ขณะที่อีกฝ่ายมีเชื้อ ต้องป้องกันโดยใส่ถุงยางอนามัย หรือใช้แผ่นพลาสติกที่ใช้ห่ออาหารป้องกัน พร้อมแนะคู่สามีภรรยาเลี่ยงมีเซ็กซ์ระหว่างเป็นไข้หวัดด้วย เผย ล่าสุด พบผู้ชายติดเชื้อเอดส์จากการทำออรัลเซ็กซ์ร้อยละ 10

นพ.สมบัติ แทนประเสริฐสุข ผู้อำนวยการสำนักโรคเอดส์วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตั้งเป้าในปี 2549 จะลดผู้ติดเชื้อเอดส์รายใหม่ไม่เกิน 16,000 คน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีเพศสัมพันธ์แบบฉาบฉวย รวมทั้งเยาวชน จะเพิ่มการใช้ถุงยางอนามัยจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 60 ส่วนในกลุ่มผู้ให้บริการทางเพศ จะสนับสนุนให้ใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 100 ต่อไป โดยเตรียมถุงยางอนามัยไว้แล้ว 24 ล้านชิ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยใส่ป้องกันการติดเชื้อในขณะที่มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนที่ไม่ใช่สามีภรรยาก็ตาม แต่ในปัจจุบัน รสนิยมทางเพศสัมพันธ์มีความหลากหลายมากขึ้นในเรื่องของเพศปฏิบัติ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากการได้รับอิทธิพลจากสื่อลามกต่างๆ และเกิดพฤติกรรมเลียนแบบขึ้น โดยเฉพาะการทำรักด้วยปาก หรือที่เรียกว่า ออรัลเซ็กซ์ (Oral Sex) ซึ่งมีโอกาสติดโรคเอดส์ โรคเริม โรคซิฟิลิส และหนองใน ได้เช่นกัน หากฝ่ายกระทำมีแผลที่ปากหรือในคอ และมีการหลั่งน้ำอสุจิในปาก หรือผู้ถูกกระทำมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่แล้วก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นสูงต่อการติดเชื้อเอดส์ได้เช่นกัน โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายได้ทางเยื่อบุบริเวณที่ปลายท่อปัสสาวะชาย ช่องคลอด ทวารหนัก และบาดแผล
“พฤติกรรมการทำออรัลเซ็กซ์ในกลุ่มคนไทย ยังไม่ได้มีการสำรวจอย่างแน่ชัด แต่จากข้อมูลผู้มารับบริการที่คลินิกชายของโรงพยาบาลบางรัก ระหว่างเดือนเมษายน - มิถุนายน 2549 จำนวน 1,305 คน พบมีประวัติทำออรัลเซ็กซ์ 130 ราย หรือประมาณร้อยละ 10” นพ.สมบัติ กล่าว และว่า วิธีที่ปลอดภัยที่สุดของการมีเพศสัมพันธ์ต้องมีเครื่องป้องกันที่เหมาะสม ในกรณีที่ทำออรัลเซ็กซ์แบบใช้ปากกับอวัยวะเพศชายนั้น ฝ่ายชายต้องสวมถุงยางอนามัย ส่วนในกรณีที่ใช้ปากสัมผัสกับอวัยวะเพศหญิง หรือบริเวณทวารหนัก แนะนำให้ใช้แผ่นยาง หรือแผ่นพลาสติกชนิดที่ใช้ห่ออาหารก็ได้ในการป้องกันเพื่อไม่ให้ปากสัมผัสกับอวัยวะโดยตรง ก็จะป้องกันไม่ให้ติดเชื้อได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ในคู่สามีภรรยา หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีอาการไข้ ควรจะงดการมีเพศสัมพันธ์ เพราะเชื้อโรคที่ทำให้เกิดไข้หวัดจะฝังตัวอยู่ในเมือกตามผนังเยื่อบุทั้งหลายทั้งในจมูก ช่องปาก และช่องคลอด การทำรักด้วยปากระหว่างที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเจ็บไข้ ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
นพ.สมบัติ แทนประเสริฐสุข ผู้อำนวยการสำนักโรคเอดส์วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตั้งเป้าในปี 2549 จะลดผู้ติดเชื้อเอดส์รายใหม่ไม่เกิน 16,000 คน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีเพศสัมพันธ์แบบฉาบฉวย รวมทั้งเยาวชน จะเพิ่มการใช้ถุงยางอนามัยจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 60 ส่วนในกลุ่มผู้ให้บริการทางเพศ จะสนับสนุนให้ใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 100 ต่อไป โดยเตรียมถุงยางอนามัยไว้แล้ว 24 ล้านชิ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยใส่ป้องกันการติดเชื้อในขณะที่มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนที่ไม่ใช่สามีภรรยาก็ตาม แต่ในปัจจุบัน รสนิยมทางเพศสัมพันธ์มีความหลากหลายมากขึ้นในเรื่องของเพศปฏิบัติ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากการได้รับอิทธิพลจากสื่อลามกต่างๆ และเกิดพฤติกรรมเลียนแบบขึ้น โดยเฉพาะการทำรักด้วยปาก หรือที่เรียกว่า ออรัลเซ็กซ์ (Oral Sex) ซึ่งมีโอกาสติดโรคเอดส์ โรคเริม โรคซิฟิลิส และหนองใน ได้เช่นกัน หากฝ่ายกระทำมีแผลที่ปากหรือในคอ และมีการหลั่งน้ำอสุจิในปาก หรือผู้ถูกกระทำมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่แล้วก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นสูงต่อการติดเชื้อเอดส์ได้เช่นกัน โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายได้ทางเยื่อบุบริเวณที่ปลายท่อปัสสาวะชาย ช่องคลอด ทวารหนัก และบาดแผล
“พฤติกรรมการทำออรัลเซ็กซ์ในกลุ่มคนไทย ยังไม่ได้มีการสำรวจอย่างแน่ชัด แต่จากข้อมูลผู้มารับบริการที่คลินิกชายของโรงพยาบาลบางรัก ระหว่างเดือนเมษายน - มิถุนายน 2549 จำนวน 1,305 คน พบมีประวัติทำออรัลเซ็กซ์ 130 ราย หรือประมาณร้อยละ 10” นพ.สมบัติ กล่าว และว่า วิธีที่ปลอดภัยที่สุดของการมีเพศสัมพันธ์ต้องมีเครื่องป้องกันที่เหมาะสม ในกรณีที่ทำออรัลเซ็กซ์แบบใช้ปากกับอวัยวะเพศชายนั้น ฝ่ายชายต้องสวมถุงยางอนามัย ส่วนในกรณีที่ใช้ปากสัมผัสกับอวัยวะเพศหญิง หรือบริเวณทวารหนัก แนะนำให้ใช้แผ่นยาง หรือแผ่นพลาสติกชนิดที่ใช้ห่ออาหารก็ได้ในการป้องกันเพื่อไม่ให้ปากสัมผัสกับอวัยวะโดยตรง ก็จะป้องกันไม่ให้ติดเชื้อได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ในคู่สามีภรรยา หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีอาการไข้ ควรจะงดการมีเพศสัมพันธ์ เพราะเชื้อโรคที่ทำให้เกิดไข้หวัดจะฝังตัวอยู่ในเมือกตามผนังเยื่อบุทั้งหลายทั้งในจมูก ช่องปาก และช่องคลอด การทำรักด้วยปากระหว่างที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเจ็บไข้ ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้